เคยสงสัยกันไหมคะว่าคนที่เราเห็นกันภายนอกส่วนตัวนั้นเป็นคนที่มีนิสัยใจเย็น กลับกันเมื่อเวลาขับรถดันกลายเป็นคนใจร้อนขึ้นมาเสียในทันที! และนี่ก็เป็นเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาและทำการค้นคว้าซึ่งผลที่ออกมานั้นเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาของมนุษย์เป็นหลัก เป็นเหตุทำให้คนเกิดอาการหงุดหงิดและอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาหลายครั้งเมื่อได้ขับรถส่วนอาการที่เป็นไปโดยอัตโนมัติจะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกันค่ะ

1.เสียงดนตรีปลุกใจ

เชื่อหรือไม่ว่าเสียงดนตรีก็เป็นสิ่งปลุกใจอย่างหนึ่งเมื่อขับรถ เพราะเสียงดนตรีถือว่าเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกต่างๆในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเพลงที่มีจังหวะมันส์ๆแล้วนั้นผู้ขับขี่บางคนถึงขั้นแหกกฏจราจรเหยียบคันเร่งแซงกันซะเต็มที่ เสียงดนตรีจึงเป็นสิ่งที่สร้างอารมณ์ในการขับขี่ได้เหมือนกัน

2.การสื่อสารไม่มีจึงทำให้คนรู้สึกหงุดหงิด

การบีบแตรถือว่าเป็นอีกเรื่องที่สำคัญอย่างมากของผู้ขับขี่บนท้องถนน  ซึ่งการบีบแตรนั้นคือการเตือนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน แต่บ่อยครั้งเกิดการตีความที่ผิดไปเพราะมันไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นรูปแบบคำพูดให้เข้าใจได้ ทำให้หลายๆคนหากถูกบีบแตรใส่คงจะรู้สึกโมโหและหงุดหงิดอย่างแน่นอน บางครั้งถึงขั้นมีการบีบแตรโต้ตอบกันไปมา สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะวิวาท

3.คาร์บอนมอนอกไซด์

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซที่สามารถแทรกซึมเข้ามาในรถยนต์ได้ โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงรถจอดอยู่กับที่ก๊าซนี้จะแทรกซึมเข้ามายังในรถตามช่องว่างต่างๆของตัวรถและเมื่อมีการสูดดมเข้าไปก็จะทำให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน แต่ในขณะขับรถจึงไม่สามารถนอนได้ทำให้เกิดความหงุดหงิดตามมาในที่สุด

4.อีโก้บนท้องถนน

หลายคนเมื่อได้จับพวงมาลัยจะมีนิสัยที่เปลี่ยนไปเราเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าอีโก้ คนเหล่านี้เป็นพวกที่ชอบอยู่เหนือผู้อื่นตลอดเวลา แน่นอนค่ะในเมื่อประเทศไทยมีช่องทางในการขับเปลี่ยนเลนค่อนข้างน้อย บวกกับเรื่องเวลาที่ทุกคนต่างมีความเร่งรีบกันมากเมื่อเกิดการเปลี่ยนเลนกระทันหันเช่นนี้จึงเป็นสาเหตุทำให้ผู้ขับขี่ส่วนมากรู้สึกไม่พอใจ จนเกิดความฉุนเฉียวและอารมณ์หงุดหงิดได้ในที่สุดเช่นเดียวกับบางคนที่มีรถเร็วและแรงอย่างรถสปอร์ต ก็จะขับขี่ด้วยความเร็วไปโดยปริยายหรือแม้กระทั่งรถราคาแพงก็เช่นเดียวกัน ผู้ขับบางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีสิทธิพิเศษบางอย่างบนท้องถนน คำว่าอีโก้ก็จะปรากฏขึ้นมาทันทีเมื่อได้จับพวงมาลัยคนประเภทนี้ถือว่าเป็นคนขับรถที่ไม่สนโลกแต่อย่างใด หากมีเส้นทางที่เลี่ยงได้ควรหลีกหนีไปให้เร็วที่สุด

5.สิ่งกีดขวาง

สิ่งกีดขวางถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเกิดอารมณ์หงุดหงิดได้ง่ายมากขึ้นเพราะเมื่อเราต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ ซ้ำๆ โดยเฉพาะเมืองหลวงที่มีสิ่งกีดขวางมากมายเช่น รถเมล์ รถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะไปตรงไหนก็จะเจอจอดแช่ บางคันขับกินเลนชาวบ้าน บางคันอยากเลี้ยวก็เลี้ยว ทำให้ผู้ที่ร่วมทางต้องเหยียบเบรกบ่อยครั้งหรือกะทันหัน แบบนี้จะไม่ให้ผู้ขับขี่เกิดอาการหงุดหงิดได้อย่างไร

6.คนที่นั่งร่วมกันในรถ

หลายคนสงสัยว่าคนที่นั่งร่วมกันในรถสามารถส่งผลให้ผู้ขับขี่เกิดความหงุดหงิดได้จริงหรือไม่ จริงๆแล้วมีส่วนทำให้ผู้ขับขี่เกิดความหงุดหงิดได้มากที่สุด หากเรานั่งกับบุคคลที่ไม่ชอบหน้าหรือบุคคลที่ชอบชี้นิ้วสั่งในการขับรถอยู่ตลอด ราวกับเป็นคนขับเสียเอง หรือตะโกนด่ารถคันอื่นภายในรถ เพียงแค่นี้ก็สามารถที่จะทำให้ผู้ขับขี่เกิดความรำคาญมีผลทำให้อารมณ์หงุดหงิดได้เห็นกัน

เห็นไหมคะว่าจากสภาพแวดล้อมในการขับขี่ต่างๆ มีผลต่อสภาพอารมณ์และการขับขี่มากเช่นไร ซึ่งอาจจะทำให้คนที่โดยปกติแล้วเป็นคนน่ารัก สดใส ใจดี แต่พอมาเป็นผู้ขับขี่แล้วกลับกลายเป็นอีกคนเลย ดังนั้นไม่ว่าเราจะเจอสถานการณ์บนท้องถนนเช่นไรก็ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ เห็นอกเห็นใจกัน มีมารยาทในการใช้รถใช้ถนน เคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด แค่นี้ทุกอย่างก็แฮปปี้คะ

เรื่อง หยกสวรรค์  วิมลเศรษฐ

ภาพจาก : www.google.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th