นิสสัน-กฟน.ลงนามความร่วมมือติดตั้งเครื่องชาร์จ-นับถอยหลังขายรถยนต์ไฟฟ้า LEAF ไม่เกินต้นปีหน้า
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมลงนามข้อตกลงเพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในที่พักอาศัยเตรียมความพร้อมสำหรับ Nissan Leaf ที่จะเปิดตัวในประเทศไทยภายในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2562)
การลงนามข้อตกลงมีขึ้นที่การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพฯ โดยข้อตกลงดังกล่าวเน้นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จที่บ้าน ที่ทำงาน และบนท้องถนนเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย
อ่านข่าว: ลดสเป็ก ‘นิสสัน ลีฟ’ ทำราคาให้คนไทยได้ขับรถไฟฟ้า
กฟน. และนิสสัน จะทำงานร่วมกันในด้านการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ คู่มือการใช้ และบริการสำหรับระบบชาร์จ การฝึกอบรมทักษะทางเทคนิค การพัฒนาอุปกรณ์ชาร์จ รวมไปถึงระบบการชำระค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน
ชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสที่ครบวาระ 60 ปี กฟน. ในปีนี้ กฟน. จึงมุ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ได้เตรียมความพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคต เนื่องจากเป็นพลังงานที่สะอาด และประหยัด โดยกฟน. ได้ร่วมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ในการลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องหลายราย”
“การลงนามกับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทยให้มีเพิ่มมากขึ้น โดยกฟน. จะเป็นผู้ดำเนินการให้บริการด้านระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการอัดประจุไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นใจ และสร้างความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าของนิสสัน และเป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่บุคลากรของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เช่น ตัวแทนจำหน่ายส่วนงานบริการลูกค้าช่างประจำศูนย์บริการ เป็นต้น”
“โดยความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน ภายในปีพ.ศ. 2579 ถือเป็นความร่วมมือกับองค์กรภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ”
นอกจากนี้ กฟน. ยังได้มีการจัดทำ “MEA EV Application” ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายบนสมาร์ตโฟน เวอร์ชันล่าสุด 2.0 รองรับการใช้งานทั้งระบบ iOS และ Android สำหรับการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ มีระบบนำทางไปยังสถานีชาร์จพร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต
ทางด้าน Antoine Barthes ประธานนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวถึง Nissan Leaf รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัย และขายดีที่สุดในโลก “รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเราได้รับการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายมาเป็นระยะเวลานานกว่ารายอื่นๆ นอกจากนั้น New Leaf ยังเป็นสัญลักษณ์ของ Nissan Intelligent Mobility ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่อย่างชาญฉลาด และปลอดภัยยิ่งขึ้น”
Nissan Intelligent Mobility เป็นวิสัยทัศน์ที่อยู่เบื้องหลังรถยนต์นิสสันทุกคัน โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและไฮบริด ถือเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนผู้คนทั่วโลกสู่อนาคตที่ปลอดภัย และยั่งยืนมากขึ้นโดยการลงทุนอย่างมากในการวิจัย และพัฒนาตามความต้องการของลูกค้า และความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์
“บันทึกความเข้าใจนี้เป็นก้าวหนึ่ง นิสสัน เป็นผู้นำโลกในการนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ประเทศไทย นี่เป็นข้อตกลงที่สำคัญระหว่างกฟน. และนิสสัน ในการทำงานร่วมกันเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีสถานีชาร์จประจำบ้าน สำหรับลูกค้า Leaf ของเรา ก่อนการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้านี้สู่ประเทศไทยในปีงบประมาณนี้”
นอกจากนี้ Barthes เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการเตรียมพร้อมขายรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ในประเทศไทยว่า “ผมเข้าใจดีว่าทุกคนอยากทราบถึงกำหนดการเปิดตัว และราคาจำหน่ายของ Nissan Leaf ในประเทศไทย ในตอนนี้เราอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และจะแจ้งให้ทราบเมื่อทุกอย่างเป็นทางการ เรายังต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานหรือ Ecosystem ของรถยนต์ไฟฟ้า โดยการลงนามข้อตกลงกับการไฟฟ้านครหลวงในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อม Nissan Leaf ไม่เพียงจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เท่านั้น แต่เราจะต้องให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด”
แนวโน้มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นิสสัน ได้มอบมายให้ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ศึกษาถึงอนาคตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากในรถยนต์พลังงานโดยร้อยละ 44 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่าพวกเขาพิจารณาซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นยานพาหนะต่อไปของพวกเขาอย่างแน่นอน
“นิสสัน เชื่อว่ารถยนต์เป็นมากกว่ารถยนต์ และเราเป็นบริษัท ผู้บุกเบิกโซลูชั่นที่ทันสมัยเพื่อการพัฒนาเมืองในอนาคต บันทึกความเข้าใจนี้ทำให้เราก้าวสู่เป้าหมายใกล้ขึ้นอีกขั้น เพราะเราเชื่อว่าอนาคตคือไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และการขับขี่อัตโนมัติ” Barthes กล่าวทิ้งท้าย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: นิสสัน มอเตอร์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th