นิสสัน ชวนน้องๆ พัฒนาทักษะภาวะผู้นำ สัมผัสเทคโนโลยียานยนต์เพื่ออนาคต
นิสสัน ชวนน้องๆ พัฒนาทักษะภาวะผู้นำ สัมผัสเทคโนโลยียานยนต์เพื่ออนาคต นิสสันเปิดบ้านต้อนรับเหล่าน้องๆ เยาวชนจากชุมชนรอบโรงงานนิสสันที่จังหวัดสมุทรปราการ เข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ยานยนต์ไฟฟ้า (Nissan Electrification Experience Center) รวมถึงประโยชน์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จะช่วยให้โลกสะอาดขึ้นและช่วยให้สังคมก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน กิจกรรมพิเศษนี้เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้กับน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชน (Youth Leadership Development Programme หรือ YLD) ที่นิสสันให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปีแล้ว นิสสัน ชวนน้องๆ พัฒนาทักษะภาวะผู้นำ
สำหรับในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่นิสสันได้ต้อนรับน้องๆ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมโครงการ YLD รุ่นที่มีอายุน้อยที่สุดได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้ยานยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน น้องๆ นักเรียนทั้ง 100 คน มาจากโรงเรียนในชุมชนรอบๆ โรงงานนิสสัน ได้แก่ โรงเรียนวัดจระเข้ใหญ่ และโรงเรียนพรหมพิกุลทอง และได้สัมผัสกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่น เช่น นิสสันคิกส์ อี-พาวเวอร์ (Kicks e-POWER) และนิสสันลีฟ (Nissan LEAF)
น้องๆ นักเรียน ที่เข้าร่วมโครงการ YLD ตื่นเต้นมากที่ได้เรียนรู้จักเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีการชาร์จไฟแบบสองทาง (Bidirectional charge) ที่สามารถเปลี่ยนรถยนต์ธรรมดาให้กลายเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ได้ โดยสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบจ่ายไฟของการไฟฟ้าได้ ดังนั้น ในยามที่เกิดเหตุวิกฤต เช่น การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถใช้กระแสไฟจากรถยนต์ของตัวเองมาใช้ภายในบ้านในขณะที่รอความช่วยเหลือได้ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและได้รับความสนใจเป็นอย่างดี เกี่ยวกับแนวคิดนี้ที่นิสสันกำลังร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในการศึกษารายละเอียดอยู่
นอกจากนี้ น้องๆ นักเรียน ที่ร่วมกิจกรรมในโครงการ YLD ยังได้ทราบว่ารถยนต์นับล้านๆ คันที่วิ่งอยู่ในประเทศไทยและใน 190 ประเทศทั่วโลก เป็นผลงานของโรงงานนิสสันที่สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขาเอง การค้นพบเช่นนี้ทำให้น้องๆ รู้สึกภูมิใจในฝีมือของคนไทย ซึ่งรวมถึงพ่อแม่หรือญาติๆ ของน้องๆ บางคนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงานด้วยเช่นกัน
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การสอนให้เด็กๆ รู้จักและเข้าใจประโยชน์ของรถยนต์ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าตั้งแต่ยังเล็กเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอนาคตของพวกเรา และรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV จะช่วยให้โลกของเราสะอาดขึ้น และสังคมมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงได้ชวนน้องๆ จากโรงเรียนรอบๆ มาเยี่ยมชมโรงงานของเรา และเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดโครงการ Nissan Energy Share ให้มากขึ้น”
โครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนของนิสสัน เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง Nissan Care International Japan และ มูลนิธิรักษ์ไทย โครงการนี้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้นำ และมีทักษะสำหรับการเป็นผู้นำองค์กรและการบริหารองค์กร ในระยะเริ่มต้น ได้มีการจัดกิจกรรมกับโรงเรียนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยอง และ สมุทรปราการ ซึ่งนับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงและมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มชึ้นเป็น 2,100 รายในปี 2564
ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสสัน ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https://nissan.co.th หรือ Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn หรือรับชมวีดีโอล่าสุดจากนิสสันได้ทาง YouTube
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การสอนให้เด็กๆ รู้จักและเข้าใจประโยชน์ของรถยนต์ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าตั้งแต่ยังเล็กเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอนาคตของพวกเรา และรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV จะช่วยให้โลกของเราสะอาดขึ้น และสังคมมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงได้ชวนน้องๆ จากโรงเรียนรอบๆ มาเยี่ยมชมโรงงานของเรา และเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดโครงการ Nissan Energy Share ให้มากขึ้น”
โครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนของนิสสัน เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง Nissan Care International Japan และ มูลนิธิรักษ์ไทย โครงการนี้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้นำ และมีทักษะสำหรับการเป็นผู้นำองค์กรและการบริหารองค์กร ในระยะเริ่มต้น ได้มีการจัดกิจกรรมกับโรงเรียนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยอง และ สมุทรปราการ ซึ่งนับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงและมีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มชึ้นเป็น 2,100 รายในปี 2564
น้องๆ นักเรียน ที่เข้าร่วมโครงการ YLD ตื่นเต้นมากที่ได้เรียนรู้จักเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีการชาร์จไฟแบบสองทาง (Bidirectional charge) ที่สามารถเปลี่ยนรถยนต์ธรรมดาให้กลายเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ได้ โดยสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบจ่ายไฟของการไฟฟ้าได้ ดังนั้น ในยามที่เกิดเหตุวิกฤต เช่น การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถใช้กระแสไฟจากรถยนต์ของตัวเองมาใช้ภายในบ้านในขณะที่รอความช่วยเหลือได้ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและได้รับความสนใจเป็นอย่างดี เกี่ยวกับแนวคิดนี้ที่นิสสันกำลังร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในการศึกษารายละเอียดอยู่