เคยไหมที่ขับเข้าปั๊มแล้วพบว่า ตัวเองอยู่ในอาการ ‘ยืนงงกลางดงหัวจ่าย’ เพราะไม่รู้ว่าจะเติมน้ำมันประเภทไหนดี เพราะเอาเข้าจริงๆ บางคนอาจจะรู้แค่ น้ำมันเบนซิน และดีเซล แต่ไม่รู้ว่าในประเภทนั้นยังมีอีกหลายชื่อและหลากหลายสีของหัวจ่ายนั้น และแต่ละปั๊มแต่ละที่ก็มีชื่อเรียกต่างกัน สุดท้ายมานั่งงกันว่ามันคือน้ำมันอะไรบ้าง แล้วเราสามารถเติมได้หรือเปล่า ?

น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยที่มีใช้กันอยู่ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ คือ เบนซิน และดีเซล โดยถ้าไม่นับชื่อทางการตลาดของแต่ละแบรนด์ที่เป็นผู้ค้าน้ำมันแล้ว ในส่วนของน้ำมันเบนซินสามารถแบ่งออกมาได้ตามนี้

-แก๊สโซฮอล์ 91 : เป็นน้ำมัน E10 คือ มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์อยู่ 10% และมีค่าออกเทนอยู่ 91 สามารถเติมได้กับรถยนต์ทั่วไปได้โดยที่ไม่ต้องปรับปรุงระบบอะไรเพิ่มเติม ใช้ได้ทั้งรถเก่า และรถใหม่ ขอให้ค่าออกเทนตรงกับที่คู่มือของรถยนต์คันนั้นๆ ระบุเอาไว้ โดยน้ำมันประเภทนี้เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ปี 2001

-แก๊สโซฮอล์ 95 : เป็นน้ำมัน E10 คือ มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์อยู่ 10% และมีค่าออกเทนอยู่ 95 สามารถเติมได้กับรถยนต์ทั่วไปได้โดยที่ไม่ต้องปรับปรุงระบบอะไรเพิ่มเติม ใช้ได้ทั้งรถเก่า และรถใหม่ ขอให้ค่าออกเทนตรงกับที่คู่มือของรถยนต์คันนั้นๆ ระบุเอาไว้

-แก๊สโซฮอล์ E20 : เป็น้นำมัน E20 ที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ 20% มีออกเทน 95 ซึ่งการที่จะเติมน้ำมันประเภทนี้ได้ต้องเป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบระบบมาเพื่อรองรับกับน้ำมันประเภทนี้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่ผลิตจำหน่ายหลังปี 2008 ไปแล้ว เพราะในไทยน้ำมันเบนซิน E20 เริ่มใช้ในปีนั้น

ส่วนรถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่ได้ระบุว่าใช้งานได้นั้น ไม่ควรใช้ เพราะแม้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายแบบเห็นผลทันที แต่ในระยะยาวจะส่งผลอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพวกท่อยางทั้งหลาย เครื่องยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันชนิดนี้ได้ ต้องมีการปรับอุปกรณ์ และปรับอัตราส่วนผสมให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ หากรถที่ไม่ระบุคำว่า ใช้น้ำมันแก็สโซฮอลล์ E20 ได้ ห้ามนำมาเติมเด็ดขาด เพราะเอทิลแอลกอฮอล์ จะกัดกร่อนทำให้ ท่อยาง, โอริงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หรือหัวฉีดเกิดการรั่ว และส่งผลเสียหายเร็วขึ้น เครื่องยนต์จะเร่งไม่ขึ้น มีการสะดุด สตาร์ทติดยาก

-แก๊สโซฮอล์ E85 : เริ่มมีการใช้งานในบางส่วนมาตั้งแต่ปี 2006 และเริ่มใช้งานอย่างแพร่หลายในปี 2012 ซึ่งตอนนั้นกระทรวงพลังงานได้กำหนดให้ E85 เป็นวาระแห่งชาติ และมีนโยบายส่งเสริมการใช้ E85 อย่างครบวงจรภายใน 10 ปี สำหรับ E85 นั้นเป็นน้ำมันเบนซินที่มีส่วนของเนื้อน้ำมันเพียง 15% และแอลกอฮอล์ 85% ดังนั้นในแง่ของออกเทนที่ได้จึงถือว่าค่อนข้างสูงกว่าปกติ โดยจะอยู่ในระดับ 105 รถยนต์ที่จะใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ได้ จะต้องมีการระบุจากโรงงาน ซึ่งรถยนต์รุ่นเก่าๆ ที่ต่ำกว่าปี 2012 จะไม่สามารถใช้ได้ เพราะต้องมีการปรับปรุงชิ้นส่วนและระบบของตัวรถในหลายจุด…ถ้าไม่มีการระบุจากคู่มือหรือฝาถังน้ำมัน ไม่สามารถเติมได้โดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายปีที่แล้ว สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน(องค์การมหาชน) หรือ สบพน. เตรียมเสนอแผนลดการชดเชยน้ำมันจากเชื้อเพลิงชีวภาพ  ซึ่งจะทำให้น้ำมัน E85 มีราคาแพงขึ้นอีกกว่า 7 บาทต่อลิตร ในปี 2021 พร้อมกับจะผลักดันให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์E20 เป็น น้ำมันเบนซิน หลัก โดยจะยกเลิกการส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซฮอล์E85  ที่ปัจจุบันใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาอยู่ 7.38บาทต่อลิตรมาอยู่ที่ 19.79 บาทต่อลิตร  ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์E10นั้นอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 95 หรือยกเลิก แก๊สโซฮอล์ 91

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th