บทสรุป วิธีใช้งาน M-Flow พร้อมแจงข้อดี-ข้อเสีย
บทสรุป วิธีใช้งาน M-Flow พร้อมแจงข้อดี-ข้อเสีย ว่าจะ Flow เหมือนชื่อ หรือจะ Fail ไม่เป็นท่า
น
หลายคนกำลังงงงวย และสับสนเกี่ยวกับการใช้งานเจ้า M-Flow กันอยู่ เพราะหลังจากที่ทางกระทรวงคมนาคม ได้เริ่มเปิดให้ทดลองใช้จริงเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แล้วปรากฏว่า เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์จากผู้ใช้งานจริงเป็นจำนวนมาก ถึงความยุ่งยากในการลงทะเบียน และการจราจรที่ติดขัดเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เกิดความล่าช้า วันนี้เราจึงขอพามาทำความเข้าใจไปกับ บทสรุป วิธีใช้งาน M-Flow พร้อมแจงข้อดี-ข้อเสีย ว่าจะ Flow เหมือนชื่อ หรือจะ Fail ไม่เป็นท่า
มาทำความรู้จัก M-Flow
M-Flow หรือระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น เกิดขึ้นตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยใช้เทคโนโลยี AI มาเป็นผู้จัดการระบบการเก็บค่าผ่านทาง ด้วยการบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถยนต์ ในรูปแบบ Video Tolling เพื่อใช้แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น
4 ด่านนำร่อง M-Flow ที่ไม่ Flow อย่างที่หวัง
- ด่านธัญบุรี1
- ด่านธัญบุรี2
- ด่านทับช้าง1
- ด่านทับช้าง2
การลงทะเบียน
สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ทั้งทาง www.mflowthai.com และ Mobile Application ทั้ง App Store และ Play Store โดยมีขั้นตอนเช่นเดียวกันทั้งสองช่องทาง
- เลือก “สมัครสมาชิก” อ่านข้อมูลและข้อกำหนดให้ครบถ้วน กดปุ่ม “ยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน”
- ทำการ “ยืนยันตัวตน” ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- กรอกรหัส “OTP” ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ยืนยันตัวตน
- กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เสร็จแล้วกด “ถัดไป”
- ระบบให้ยืนยันรหัส Passcode ในกรณีที่ผู้สมัครใช้ Gmail เพื่อ Log in แทนเบอร์โทร เพื่อใช้ในการเข้ารถบบ กดขอรหัส Passcode และเข้าไปเช็คในอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้ กรอกรหัสเรียบร้อยให้กดปุ่ม “ยืนยัน”
- กรอกรายละเอียด “ที่อยู่” ตามทะเบียนบ้านให้ครบ เสร็จแล้วกด “ถัดไป”
- ลงทะเบียนรถ กรอกรายละเอียดตามขั้นตอนให้ครบถ้วน
- เข้าสู่ขั้นตอน “การชำระเงิน” สามารถเลือกชำระเป็นรายครั้ง ชำระเองผ่านเว็บไซต์, M Banking, ATM, BANK, Counter Service โดยสแกน QR Code หรือชำระเป็นรอบบิลได้ง่ายๆ โดยเลือก “ชำระผ่านระบบอัตโนมัติ” ได้ 5 ช่องทาง ได้แก่ ชำระผ่านบัตรเดบิต บัตรเครดิต ตัดชำระผ่านบัญชีธนาคาร ตัดจากบัญชี M-Pass ตัดจากบัญชี Easy-Pass
- คลิกปุ่ม “ลงทะเบียน” หลังจากชำระเงินเสร็จ ระบบจะแจ้งผลผ่าน SMS หรือ e-mail ที่ลงทะเบียนไว้ภายใน 24 ชั่วโมง
(โดยการลงทะเบียนทั้ง 2 ช่องทางนั้น มีขั้นตอนการใช้งานในการลงทะเบียน เช่นเดียวกัน)
ข้อดี
- ผู้ใช้บริการผ่านทาง ไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ
- ช่วยระบายรถได้ 2,000 – 2,500 คัน/ชั่วโมง/ช่องทาง
- สะดวกรวดเร็วกว่าระบบเดิมถึง 5 เท่า
- ใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท
- สามารถชำระเงินค่าผ่านทางแบบเหมารวมเป็นรอบบิลได้
- เติมเงินสะดวก หักจ่ายสะดวกรวดเร็ว
ข้อเสีย
- การลงทะเบียนซับซ้อน หลายขั้นตอน
- หากผู้ใช้รถยนต์ ไม่ได้เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ต้องมีเอกสารรับรอง หรือเซ็นต์ยินยอมจากเจ้าของรถตัวจริงก่อน
- ผู้ลงทะเบียนคนเดียวกัน สามารถลงเพิ่มรถยนต์ที่จะใช้งาน M-Flow ได้ แต่ไม่สามารถเติมเงินเชื่อมกับระบบ M-Pass แบบเดียวกับที่ลงทะเบียนชำระเงินไว้กับรถคันแรกที่ลงทะเบียนไว้ได้
- ระบบการลงทะเบียนยังไม่เสถียร เกิดการ Bug และติดขัดในทุกช่องทาง
- หากผู้ใช้งาน M-Flow ต้องการลงทะเบียนชำระเงินกับบัตรเครดิตต่างๆ ต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารต้นทางก่อน และขอรหัส ATM ส่วนตัวในขั้นตอนการดำเนินการด้วย
เอกสารจำเป็นสำหรับการสมัคร M-Flow
- ภาพถ่ายหน้าตรง เห็นใบหน้าชัด คู่กับบัตรประชาชน โดยหันหน้าบัตรประชาชนให้เห็นทุกรายละเอียดชัดเจน ส่วนชาวต่างชาติให้ถ่ายรูปหน้าตรงคู่กับหน้าแรกของหนังสือเดินทาง
- สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ หน้าแสดงรายการจดทะเบียน และหน้าแสดงชื่อเจ้าของรถคนปัจจุบัน
- ภาพถ่ายรถที่นำมาลงทะเบียน เห็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายของรถ เห็นเลขทะเบียนชัดเจน
- หนังสือยินยอม (ในกรณีรถเป็นชื่อของบุคคลอื่น ต้องมีหนังสือยินยอมจากเจ้าของรถ โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือยินยอมได้จากหน้าเว็บไซต์ M-Flow)
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ) ของผู้เป็นเจ้าของรถ
*คำเตือน: ผู้ใดมีเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระค่าผ่านทาง ถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษปรับ 10 เท่าของค่าผ่านทางที่ต้องชำระ
เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th