สภาพอากาศที่ร้อนระอุ และระดับความชื้นที่สูงทำให้หลายๆ ครั้ง สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ถูกยกให้เป็นรายการที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายมากที่สุดบนปฏิทินการแข่งขันศึกฟอร์มูล่า วัน ชิงแชมป์โลก ในแต่ละฤดูกาล และไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Lewis Hamilton ยอดนักขับชาวอังกฤษแห่งทีม Mercedes จะพูดออกมาว่าเขาต้อง “ใส่พลังจนหมด” หลังจากคว้าชัยชนะในสนามนี้ พร้อมกับหนีห่างคู่แข่งสำคัญ Sebastian Vettel ของทีม Ferrari ออกไปถึง 40 แต้ม ในตารางคะแนนสะสมนักแข่ง

Hamilton ให้สัมภาษณ์ว่าเขาน้ำหนักหายไป 2 กิโลกรัม หลังจบรอบควอลิฟายด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กันยายน แต่ถึงสภาพอากาศแดนลอดช่องจะร้อนระอุขนาดไหน เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกฤดูกาลล่าสุด สร้างผลงานการขับที่ได้รับการยกย่องว่า “เหนือชั้น” จากปากของ Toto Wolff บอสใหญ่ทีม Mercedes ด้วยการคว้าตำแหน่งโพลโพสซิชั่นด้วยเวลา 1:36.015 นาที

และกลายเป็นความได้เปรียบที่ทำให้ Hamilton รั้งตำแหน่งผู้นำในช่วงออกสตาร์ทสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ในวันอาทิตย์ แม้ว่าจะมีเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งนำตั้งแต่รอบแรก นักขับวัย 33 ปี สามารถควบคุมการแข่งขันที่ดุเดือดตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 51 นาที ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงสุดที่ 69 เปอร์เซ็นต์

“ผมใส่พลังไปหมดแล้ว” Hamilton ให้สัมภาษณ์หลังจากเพิ่มโอกาสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ของตัวเอง ในขณะที่ Vettel ทำผลงานได้ดีที่สุดแค่อันดับ 3 “เป็นการแข่งขันที่ยากลำบาก ต้องขับเคี่ยวกันอย่างยาวนาน ผมรู้สึกเหมือนเป็นการแข่งขันที่ยาวนานที่สุดในชีวิต น่ายินดีที่มันจบลง มันไม่ใช่แค่วัน แต่เป็นสุดสัปดาห์ที่สาหัสจริงๆ ผมรู้สึกโล่งใจที่ผ่านพ้นมันมาได้”

Vettel ผิดหวังกับฟอร์มการขับของตัวเองที่อาจส่งผลต่อการลุ้นแชมป์โลกฤดูกาลนี้

ใน 6 รายการหลังสุด Hamilton ทำผลงานจบในอันดับ 1 หรืออันดับ 2 มาตลอด ตรงกันข้ามกับ Vettel ที่คว้าแชมป์ 2 รายการ, อันดับ 2, อันดับ 3, อันดับ 4 และต้องรีไทร์ 1 รายการ ทั้งที่นักขับชาวเยอรมันของ Ferrari ออกสตาร์ทร้อนแรงคว้าแชมป์ 2 สนามแรกของฤดูกาลนี้

ช่วงท้ายของการแข่งขันสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ Hamilton ถูกขวางโดย 2 นักขับที่รั้งท้าย Romain Grosjean และ Sergey Sirotkin ทำให้ Max Verstappen นักขับดาวรุ่งเลือดดัตช์ของ Red Bull Racing ไล่บี้จนลดระยะห่างลงมาเหลือแค่ 2 วินาทีเศษ

Hamilton (กลาง), Verstappen (ซ้าย) และ Vettel (ขวา) ขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยมพร้อมกันอีกสนาม

แต่พอหาช่องแซงหลุดมาได้ Hamilton สามารถนำรถแข่งคู่ใจ W09 EQ Power+ เข้าเส้นชัยด้วยเวลาที่ทิ้งห่าง Verstappen ที่เข้ามาเป็นอันดับ 2 เกือบ 9 วินาที ทำให้เพิ่มสถิติคว้าแชมป์ครั้งที่ 44 จากการออกสตาร์ทในตำแหน่งโพลโพสซิชั่น

“ผมคิดว่าตัวเองโชคไม่ดีเท่าไร” Hamilton พูดถึงช่วงที่ถูก Verstappen ลดช่องว่างลงมา “พวกเขาขับรถส่ายไปมา ทำให้ค่อนข้างยากที่จะขับตาม เป็นอีกครั้งที่ Max ค่อนข้างจะโชคดี ในตอนที่ผมถูกขวางไม่ให้แซง เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างกดดัน แต่พอทางเคลียร์ ผมสามารถเหยียบคันเร่งได้เต็มที่อีกครั้ง ทุกอย่างก็จบ”

ก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น Ferrari ถูกมองว่ามีโอกาสจะคว้าชัยชนะในรายการนี้ แต่ทั้ง Vettel และ Kimi Raikkonen พลาดโอกาสจะใช้ความได้เปรียบจากสมรรถนะรถแข่งของพวกเขาในการแข่งขันที่มารีน่า เบย์ สตรีท เซอร์กิต เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ผลงานของ 2 นักแข่ง Ferrari ทำให้ Hamilton รู้สึกเซอร์ไพรส์อยู่พอสมควร “ในสุดสัปดาห์นี้พวกเขาต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมไม่รู้เหมือนกันว่าความเร็วของพวกเขาหายไปได้อย่างไรเช่นกัน ผมไม่ได้มาที่สิงคโปร์ ด้วยความคาดหวังว่าจะเก็บเพิ่มได้มากกว่า 10 คะแนน แต่ผมก็ยินดีกับทุกคะแนนที่คว้ามาได้”

ในตอนนี้ Hamilton รั้งตำแหน่งผู้นำตารางนักแข่งที่ 281 คะแนน โดยการจบอันดับ 2 ใน 6 รายการที่เหลือก็มาพอจะทำให้เขาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 – แต่ถึงสถานการณ์จะได้เปรียบขนาดนี้ก็ไม่ทำให้ยอดนักขับเลือดผู้ดีเปลี่ยนแทกติกในการขับอย่างแน่นอน

“แนวทางที่ผมใช้มาตลอดประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแค่รักษาฟอร์มให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น ยิ่งระยะเวลาผ่านไปมากเท่าไรคุณก็จะเรียนรู้ในรถแข่งของตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ผมเชื่อว่าเป็นสมดุลที่ยอดเยี่ยมแล้ว และผมจะรักษาทั้งหมดเอาไว้” Hamilton ยืนยันความมุ่งมั่นเป็นการทิ้งท้าย

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: formula1.com/media.daimler.com/media.ferrari.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th