ผลสอบอีโคสติกเกอร์ Yaris Ativ-ผ่านพอดีเป๊ะ 20 กม./ลิตร
มาสำรวจกันว่าอีโคสติกเกอร์ที่ติดมากับยาริส เอทีฟ รถซับคอมแพ็กต์ซีดานรุ่นล่าสุดของโตโยต้า ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แสดงถึงอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีขนาดไหน และปล่อยไอเสียระดับเท่าไรสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
ตามข้อกำหนดของการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ‘อีโคคาร์’ เงื่อนไขสำคัญที่บริษัทรถยนต์ทุกรายที่เข้าร่วมโครงการแรกต้องทำให้ได้คือมีอัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร หรือขับไป 100 กิโลเมตร น้ำมันหายไปแค่ 5 ลิตร
แน่นอนว่ายาริส เอทีฟ สอบผ่านเงื่อนไขข้อนี้ (ไม่งั้นคงออกมาขายไม่ได้) โดยทั้ง 5 รุ่นย่อยที่เปิดตัวมีอัตราประหยัดน้ำมันจากการทดสอบสภาวะรวม 20.0 กม./ลิตร หรือ 5.0 กม./100 กม. เรียกว่าสอบผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ 1 แบบพอดีเป๊ะ
อีโคสติ๊กเกอร์ของยาริส เอทีฟ รุ่นท็อป 1.2S
ลงลึกในรายละเอียดตัวเลขทดสอบสภาวะนอกเมือง ยาริส เอทีฟ ทำได้ 4.4 ลิตร/100 กม. ดีขึ้นเล็กน้อยหากเทียบกับยาริส แฮตช์แบ็ก ที่ทำได้ 4.5 ลิตร/100 กม. ส่วนการทดสอบสภาวะในเมืองเท่ากันที่ 6.0 ลิตร/100 กม. โดยซีดานใหม่ของโตโยต้า มีอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 116 กรัม/กม. น้อยกว่ารุ่น 5 ประตู ที่มีอัตราปล่อยไอเสีย 118 กรัม/กม.
อีโคสติกเกอร์ของยาริส แฮตช์แบ็ก จะเห็นความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย
ในกลุ่มรถอีโคคาร์เฟสแรกรุ่น 4 ประตู ผลทดสอบของยาริส เอทีฟ มีอัตราประหยัดน้ำมันในการทดสอบสภาวะรวมเท่ากับนิสสัน อัลเมร่า รุ่นบนสุด 1.2L VL Sportech โดยคู่แข่งของพวกเขามีผลทดสอบสภาวะนอกเมืองที่ 4.5 ลิตร/100 กม. และค่าการปล่อยไอเสีย 120 กรัม/กม.
เปรียบเทียบข้อมูลกับนิสสัน อัลเมร่า 1.2L VL Sportech
แต่ยาริส เอทีฟ ต้องยอมแพ้ ซูซูกิ สวิฟต์ หนึ่งในรถอีโคคาร์ที่ขายดีที่สุดของบ้านเรา โดยรุ่น RX-II 1.25L ที่เปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในการทดสอบสภาวะรวมมีอัตราประหยัดน้ำมัน 20.4 กม./ลิตร (4.9 ลิตร/100 กม.) แต่ค่าไอเสียอยู่ที่ 119 กรัม/กม. ความแตกต่างน่าจะอยู่ที่น้ำหนักของรถ RX-II ระบุตัวเลขไว้ 975 กิโลกรัม ขณะที่รุ่นท็อปของยาริส เอทีฟ น้ำหนักจะอยู่ที่ 1,055-1,080 กิโลกรัม
สุดท้ายกับอีโคสติกเกอร์ของซูซูกิ สวิฟต์ RX-II 1.25L
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th