ผู้ผลิตรถญี่ปุ่นไม่พอใจทรัมป์ที่โทษว่าภัยต่อความมั่นคง
ดูเหมือนว่าตอนนี้บรรดาบริษัทจากประเทศต่างๆ ที่ทำธุรกิจกับสหรัฐอเมริกาอาจต้องเตรียมรับมือกับคำพูดและนโยบายของผู้นำในทำเนียบขาวคนปัจจุบันให้ดี เพราะล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่ารถนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งที่คุกคามความมั่นคงของชาติ จนบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นออกมาแสดงความไม่พอใจต่อความคิดนี้
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านประธานาธิบดีของสหรัฐได้เห็นด้วยกับข้อสรุปของกระทรวงการค้าที่ว่าการนำเจ้ารถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศได้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติมาตั้งแต่ช่วงปี 1980 หลังจากที่ได้เข้ามากินส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเจ้าของเป็นคนอเมริกัน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีแถลงการณ์จากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นซึ่งประกอบด้วยกลุ่มอุตสาหรกรรมรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Nissan, Honda, Mitsubishi, Mazda, Suzuki, Kawasaki, Yamaha, Subaru รวมทั้งผู้ผลิตรายอื่น ที่ Akio Toyoda ประธานของ Toyota เป็นกรรมการสมาคม ต่อคำพูดของทรัมป์ว่า “เราตกใจที่ได้ยินข้อความที่แสดงความคิดเห็นที่แสดงว่าการลงทุนและจ้างงานในสหรัฐอเมริกามายาวนานของเราไม่เป็นที่ต้อนรับ ในฐานะกรรมการผมมีความรู้สึกเศร้าใจอย่างที่สุดต่อการสรุปนี้”
นอกจากนี้ Toyoda ยังมีแถลงการเพิ่มเติมว่า “กฏหมายบังคับทางการค้าอาจส่งผลเสียหายอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา โดยไม่เพียงส่งผลเสียต่อผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงการแข่งขันในตลาดโลกของยานยนต์ที่ผลิตในอเมริกาและการจำกัดการลงทุนในสหรัฐอเมริกาด้วย”
นอกจากนี้ทางสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นยังบอกว่าพวกเขามีการจ้างงานคนอเมริกันโดยตรงกว่า 93,000 คน และนโยบายของทรัมป์อาจมีผลต่อการตัดสินใจของ Toyota ที่ประกาศเพิ่มการลงทุน 3 พันล้านดอลล่าร์ในระยะเวลา 5 ปีที่สหรัฐอเมริกาด้วย
มีรายงานจาก Bloomberg ว่าทรัมป์ต้องการลดจำนวนลดที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกาลง และอ้างว่าการทำเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศมีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาที่ดีขึ้น โดยทำเนียบขาวได้กำหนดเส้นตาย 180 วันสำหรับการเจรจาข้อตกลงกับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปรวมทั้งผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่อื่นๆ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th