พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์: ‘MG ZS เอสยูวีของคนเจนฯ ใหม่—ตั้งเป้านำแบรนด์ MG ติดท็อปไฟว์’
นับเป็นความท้าทายที่ได้พิสูจน์ให้วงการยานยนต์ได้เห็นถึงศักยภาพ และความสามารถมาแล้วระดับหนึ่ง สำหรับค่ายรถยนต์ MG หลังจากเข้ามาเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยพักใหญ่ ไม่ว่าด้วยความสามารถ และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ของทีมงานทุกคนที่มุ่งมั่น โดยเฉพาะหัวเรือสำคัญ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการเติบโตของแบรนด์ MG
ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอะไรคือเหตุผลที่ MG ได้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย
พงษ์ศักดิ์: “สำหรับประเทศไทย MG เกิดขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่าง เอส เอ ไอ ซี มอเตอร์ คอร์ปิเรชั่น และบริษัท ซีพี จำกัด ซึ่งมีความคิดเห็นตรงกันที่ต้องการทำธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทย โดยที่ทั้งสองบริษัทมีความเชื่อว่า ตัวผลิตภัณฑ์ MG สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้”
“ด้วยตลาดในประเทศไทย มียอดขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของรถญี่ปุ่น ซึ่งถ้าเจาะลึกไปในตัวผลิตภัณฑ์ของ MG ถือเป็นรถที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ในการออกแบบ มีระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน มีสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นสไตล์รถยุโรป นี่ถือเป็นจุดเด่น และข้อแตกต่างที่ทาง MG สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยได้ เราจึงอยากนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นเหนือกว่าแบรนด์ในท้องตลาด นี่คือโอกาสที่เราจะสามารถทำตลาดได้”
ด้วยการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ ให้ความสำคัญกับประโยชน์ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของพาหนะมาเป็นอันดับต้นๆ ทาง MG ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
พงษ์ศักดิ์: “ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก แต่เราก็มีกลุ่มคนที่หลากหลายเจนเนอเรชั่น และเราเองก็ได้วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าออกมาเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจเนอเรชั่น X, Y, Z หรือกลุ่ม Baby Boomer ซึ่งความต้องการของคนแต่ละกลุ่มนั้นมีความหลากหลาย เพราะฉะนั้นการแนะนำผลิตภัณฑ์ เราก็ต้องคำนึงถึงความต้องการของคนแต่ละกลุ่ม จะเห็นได้ว่า MG เอง ได้แตกผลิตภัณฑ์ออกมาตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ซึ่งมีการใช้ประโยชน์ที่ต่างกันออกไป”
“อย่างรุ่น MG GS ถือเป็นรถเอสยูวี ที่จะมาทำลายกรอบในเรื่องของอายุ แต่เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่แท้จริง ตอบโจทย์คนที่รักอิสระ ไม่ยึดติดกับอะไรเดิมๆ ที่เคยใช้ มันเป็นรถที่บ่งบอกอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิต สถานะการทำงาน และสามารถใช้งานได้ทั้งแบบทางการ และไม่เป็นทางการ โดยส่วนใหญ่เรียกว่า MG เราจะออกมาครบทุกกลุ่ม”
“หากมองดีๆ ปัจจุบัน การทำงานของคนรุ่นใหม่ ไลฟ์สไตล์ก็จะเปลี่ยนไป จากที่เคยทำงานออฟฟิศ คนก็หันมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมากขึ้น คนกลุ่มนี้ก็ไม่ยึดติดกับรถยนต์ซีดานเท่าไหร่ เห็นได้ชัดเจนว่าความเป็นทางการของคนน้อยลง แต่เราจะหันมาหาชีวิตที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขี้น นอกจากทำงานแล้ว ตอนเย็นสามารถไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบได้ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย พักผ่อน แล้วรถเอสยูวีมันสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ดีกว่าแน่นอน”
พูดถึง ZS น้องใหม่ล่าสุดของค่าย MG
พงษ์ศักดิ์: “ล่าสุดทาง MG เพิ่งเปิดตัว MG ZS ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ถือเป็นรถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ ที่มาตอบโจทย์ของความต้องการจากผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วยรถเอสยูวีมีอัตราการเติบโตในตลาดสูงมาก ซึ่งเราคาดการณ์แล้วว่าเทรนด์นี้จะต้องเกิดขึ้นที่ประเทศไทยแน่นอน และรถเอสยูวีเป็นรถสำหรับคนเจนเนอเรชั่นใหม่ มียอดความนิยม และยอดขายที่สูงขึ้น ผู้บริโภคจะหันมาให้ความสนใจตลาดนี้กันมากขึ้น”
“อีกสิ่งหนึ่งคุณสามารถสื่อสารกับรถรุ่นนี้ด้วยโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่มีแอพพลิเคชั่น iSmart ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ ก็สามารถสั่งงานได้ เช่น สั่งให้รถเปิด-ปิด ล็อกประตูรถ สตาร์ทเครื่องรอก่อนถึงตัวรถ หรือเปิดแอร์ก่อน นี่คือฟังก์ชั่นที่เราสามารถสั่งงานทางไกล และยังสามารถรู้สถานะของรถยนต์ได้อีกด้วย ว่ามีน้ำมันระดับไหน ควรต้องเข้ารับบริการเมื่อไหร่ ในอนาคตยังสามารถจองการให้บริการผ่านทางแอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย ผู้ใช้งานจะสะดวกสบายมากขึ้น”
“ความล้ำสมัยต่อมาคือ เทคโนโลยีการนำทาง ในตัวรถรุ่นนี้ เขาสามารถรู้ Real Time Traffic ได้ เมื่อเราพูดถึงเรื่องรถยนต์ในปัจจุบัน ระบบนำทาง ยังไม่มีระบบนี้เกิดขึ้น ในโทรศัพท์มือถืออาจจะมี แต่ในรถยนต์ยังไม่มีระบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ ZS มีระบบนี้ติดตั้งเข้ามา พร้อมยังสามารถแนะนำเส้นทางให้ผู้ใช้งานได้อีกด้วย นอกจากนั้นมันยังเรียนรู้เส้นทางที่เราใช้เป็นประจำได้อีกด้วยในตัวระบบของ Machine Learning ที่เรียกว่า POI (Point of Interest) สามารถสั่งงานด้วยคำสั้นๆ ก่อนเริ่มใช้งานด้วยคำว่า “Hello MG” เพื่อให้เครื่องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน”
“ซึ่งหากไม่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยี iSmart ตัวนี้ เพียงแค่ตัวรถอย่างเดียวก็น่าสนใจแล้ว ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ ดีไซน์ ฟีเจอร์ การใช้งานต่างๆ ภายใน รวมถึงแพคเกจจิ้งที่เรามอบในรถหนึ่งคันนั้น มีความโดดเด่นมากทีเดียว”
“แต่ไม่ใช่เฉพาะรถยนต์รุ่นนี้เท่านั้น เมื่อเราพูดถึง MG ทั้งหมด เขาจะมีจุดเด่นอยู่สิ่งหนึ่ง คือเรื่องของ Front Grill แต่ ZS จะเป็นรถยนต์ของ MG รุ่นแรกที่มีการปรับดีไซน์ ถ้าเห็นรถรุ่นคอนเซ็ปต์คาร์ จะเห็นได้ว่ากระจังหน้าจะกว้างและใหญ่มากขึ้น และดูหรูหรามากขึ้น ทำให้รถรุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้นมีคอนเซ็ปต์คาร์เป็นแนวทาง ทำให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ส่วนภายในจะเน้นเป็นทูโทน ดูลักชัวรี่มากๆ เรื่องของวัสดุที่ใช้ก็พรีเมี่ยม ผมเชื่อว่า ZS จะเป็นคอมแพ็กต์เอสยูวี ที่มีห้องโดยสารกว้างที่สุด แต่เทคโนโลยีพรีเมียมทั้งหมดนี้ MG พัฒนามาเพื่อคุณสามารถเข้าถึงได้”
มีวิธีสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้อย่างไร
พงษ์ศักดิ์: “เรื่องเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากในอดีต เรื่องเทคโนโลยีกับรถยนต์ เป็นคนละเรื่อง เมื่อเราจับสองสิ่งนี้มารวมกัน เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้กับลูกค้า พูดถึงเรื่องตัวรถยนต์ แน่นอนว่าจุดเด่นของ ZS มีเยอะมาก แต่ตัวระบบการใช้งานถือเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เราอาจจะต้องทำงานหนักหน่อยในการสร้างการรับรู้ ให้ลูกค้าเข้าใจ แต่เชื่อว่าเมื่อลูกค้าได้เห็นจุดเด่นต่างๆ ก็ถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจมาก”
จุดเด่นของเทคโนโลยีของ MG ที่แตกต่าง และโดดเด่นจากคู่แข่งคืออะไร
พงษ์ศักดิ์: “จุดเด่นของ MG มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เน้นเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ภายใต้แนวคิดของ Brit Dynamic ซึ่งเน้นสมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์ การยึดเกาะถนน และระบบความปลอดภัยต่างๆ ถือเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์ในท้องตลาด เทคโนโลยีของ MG ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของการใช้งานง่าย เรื่อง Voice Command หรือการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะตัวมอนิเตอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ เห็นชัดเจน เพราะฉะนั้นเราทำเทคโนโลยีออกมาเพื่อตอบสนอง และเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เราไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้ยาก”
ในอนาคต MG มีแพลนจะนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอะไรเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอีกบ้าง
พงษ์ศักดิ์: “ นอกจากในตลาดโลก ความนิยมของรถ SUV จะมีสูงแล้ว แนวโน้ม และทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต ทาง เอส เอ ไอ ซี มอเตอร์ มองไว้ 4 เรื่อง ได้แก่: 1. เรื่องของ Internet & Intelligent เพราะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เมื่อเราเข้าสู่ระบบของ IOT (Internet of Things) ตอนนี้ทุกสิ่งแทบจะเป็น IOT หมด และรถยนต์เองก็สามารถเป็น IOT ได้ ซึ่งปัจจุบัน เรามีรถยนต์ที่ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตแบบนี้อยู่แล้ว”
“2. พลังงานทางเลือก เราเคยเห็นวิวัฒนาการตั้งแต่การใช้น้ำมันเบนซิน ดีเซล เปลี่ยนมาเป็น แอลพีจี เอ็นพีจี ปัจจุบันเป็นไฮบริจ มีพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆ ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องรถยนต์ที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นทุกๆ อย่างในชีวิตเรา ที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมต่างๆ”
“3. Car Sharing เป็นแนวโน้ม และทิศทางของรถยนต์ที่คนเราจะเริ่มใช้รถยนต์ตามความจำเป็นมากขึ้น (Car on Demand) เราสามารถแบ่งปันการใช้ร่วมกัน อาจจะไม่จำเป็นต้องมีรถเป็นของตัวเองอีกต่อไปแล้วก็เป็นได้”
“4. Autonomous หรือ Autopilot รถที่เราไม่ต้องขับเอง ซึ่ง MG ก็มีรถทดลองขับอยู่ที่แคลิฟอเนียร์ มีการทดลองวิ่งอยู่บรนถนนจริง ยานยนต์ไร้คนขับ”
เรื่อง: สัญชวัล
ขอบคุณข้อมูล: เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th