พี่ไม่ต้อง! น้องทำเอง! BWM X5 xDrive45e M Sport ลองทางออฟโรดฉลาดล้ำ

ถ้าอยากได้ความจัดจ้าน กระฉับกระเฉง หล่อแบบภูมิฐาน ให้เลือก 330e M Sport แต่ถ้าในหัวใจยังคงพลุ่งพล่านร้อนแรง แล้วต้องเลือกรถสักคันที่ต้องใช้งานแบบครอบครัว พร้อมกับขอความโฉบเฉี่ยวเปรี้ยวซ่า ขอยกให้ 218i Gran Coupe M Sport ส่วนถ้าอยากได้รถที่ทำได้ทั้งบู๊และบุ๋น หล่อ แรง หรู ลุยได้ ขับใกล้หรือไกลก็นั่งสบายตลอดทาง X5 xDrive45e M Sport คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ใหม่ ความน่าสนใจอยู่ที่ตรงไหน รถในกลุ่มนี้สมรรถนะคงไม่หนีกันสักเท่าไหร่ แถมราคายังแตะหลัก 5 ล้านบาท อีกด้วยทำไมถึงต้องเลือกทั้งที่มีตัวเลือกอีกหลายรุ่นในตลาด..นี่เป็นคำถามที่มักจะถูกถามประจำเมื่อพูดถึง X5

อยากเล่าให้ฟังว่าจากประสบการณ์ที่ทดลองขับมาหลายรุ่นหลายแบรนด์ คาแร็กเตอร์ของรถเป็นสิ่งสำคัญ และคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่ารถรุ่นนั้นๆ ขับแล้วต่างกันยังไงถ้าไม่ได้ทดลองขับ ยิ่งรถในกลุ่มเอสยูวีจะมีความคล้ายกันหลายอย่าง ตั้งแต่รูปแบบตัวถัง การออกแบบภายใน สมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 เส้นสายข้างตัวถังที่เสริมความปราดเปรียว

แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่

เมื่อเป็นรถแบบปลั๊กอิน ไฮบริด จึงมีฝาเปิดสำหรับชาร์จไฟฟ้าเสริมเข้ามา พร้อมด้วยโลโก้ M ที่แสดงออกถึงความพิเศษของรุ่นนี้

อย่างใน บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นนี้ เป็นรถแบบปลั๊กอิน ไฮบริด (Plug In Hybrid) ที่ไม่บอกตัวเองว่าเป็นรถแบบเอสยูวี (Sport Utility Vehicle : SUV) แต่เป็น Sports Activity Vehicle (SAV) ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม โดยเฉพาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถที่เปลี่ยนไป และใช้รถเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น แม้ว่าตัวถังจะมีขนาดใหญ่ แต่กลับมีความคล่องตัวสูง พวงมาลัยมีน้ำหนักที่เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง อัตราทดพวงมาลัยที่ทำให้การบังคับควบคุมแม่นยำ พ่วงด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ มีพื้นที่จัดวางสัมภาระได้ 500-1,720 ลิตร พูดได้ว่าถ้าต้องการออกไปแคมปิ้งกันทั้งบ้าน พื้นที่ด้านหลังสามารถขนสัมภาระไปได้ครบในคันเดียว และในครั้งนี้ทางบีเอ็มดับเบิลยูจัดเส้นทางออฟโรดแบบเข้าสวนลุยทุ่ง และฝึกการควบคุมบนทางฝุ่น การขับบนทางลาดชัน ทางเอียง แบบที่สร้างความมั่นใจได้เลยว่า X5 xDrive45e M Sport ใหม่ พร้อมลุยทุกสถานการณ์จริงๆ

บนทางออฟโรด แสดงสมรรถนะได้อย่างมั่นใจ ระบบต่างๆ เข้ามาช่วยควบคุมรถให้มีความปลอดภัยในการขับมากขึ้นกว่าเดิม

บนทางออนโรดคุณจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของช่วงล่าง แม้ว่าจะขับด้วยความเร็วสูง ยังให้ความรู้สึกมั่นคง ควบคุมได้ง่าย

มาพูดถึงเครื่องยนต์กันก่อน ต้องยอมรับว่าทีมวิศวกรต้องเป็นคนที่บ้ารักมากๆ และเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่ารถจะเป็นทรง SAV เป็นรถอเนกประสงค์ แต่ไม่ทิ้งความสนุกและเร้าใจในการขับบังคับควบคุม โดยเป็นขุมพลังเบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร TwinPower Turbo ส่งกำลังโดยตรงไปที่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่ทำได้ดีและรวดเร็ว ที่ให้พละกำลังถึง 286 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที ที่จัดจ้านมาก เสริมด้วยความปราดเปรียวจากเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics และเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive ที่เสริมแรงให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างพละกำลังได้อีก 113 แรงม้า ที่มีแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 265 นิวตันเมตร พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจุพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 24 กิโลวัตต์ชั่วโมง นั่นทำให้พี่ยักษ์คันนี้ที่มีน้ำหนักตัวถัง 2,510 กิโลกรัม สามารถโจนทะยานจากจุดหยุดนิ่งไปที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาแค่ 5.6 วินาที เท่านั้น! และด้วยแรงบิดรวมที่มากถึง 600 นิวตันเมตร หากกดคันเร่งเต็มจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงมหาศาลให้หลังติดเบาะได้ในทันที แต่ด้วยระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้ความพยศระดับนี้ถูกควบคุมให้เชื่องได้สบายๆ รวมทั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่พร้อมใช้งานทั้งการขับขี่แบบสปอร์ตและแบบออฟโรดนั่นเอง

สิ่งที่อัพเกรดขึ้นมาที่ทำให้เห็นว่ารูปแบบการใช้พลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบมากขึ้น คือการที่สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทำความเร็วสูงสุดจากเดิม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเป็น 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังขับด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลสุด 67-87 กิโลเมตร (ตามมาตฐานการทดสอบ WLTP ของยุโรป) ถ้าใครใช้งานอยู่ในเขตตัวเมืองเป็นประจำจะรู้สึกได้เลยว่ารถไซส์ใหญ่ขนาดนี้แต่อัตราสิ้นเปลืองดีงามจริงๆ ซึ่งตัวเลขตาม Eco Sticker แจ้งเอาไว้ที่ 43.5 กิโลเมตรต่อลิตร

มุมไต่ มุมเงย หรือแม้แต่มุมเอียง ด้วยความสูงของรถ รวมทั้งสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้อีก ทำให้ใช้งานได้ในพื้นที่หลากหลาย

การออกตัวแบบเต็มแรงบนพื้นผิวกรวด ดินแบบนี้ ถ้าไม่มีระบบช่วยเหลือต่างๆ มาช่วย จะทำให้ควบคุมรถได้ยาก แต่ไม่ใช่กับคันนี้

การขับลงเนินที่ชันมากๆ รถคันนี้มีระบบ Hill Descent Control (HDC) ที่เปิดให้ระบบทำงานได้จากปุ่มบนฐานคันเกียร์ที่มีสัญลักษณ์รูปรถวิ่งลงเนิน มีค่าเริ่มต้นของระบบจะอยู่ที่ความเร็ว 3 กม./ชม. แต่คนขับสามารถเลือกปรับความเร็วที่ต้องการจากสวิทช์ฝั่งซ้ายบนพวงมาลัยที่ใช้คู่กับฟีเจอร์จำกัดความเร็ว (LIM) หรือ Cruise Control ได้สูงสุดถึง 25 กม./ชม. ในระหว่างที่ระบบกำลังทำงานนั้น ไฟเบรกจะติดขึ้นให้โดยอัตโนมัติเพื่อส่งสัญญาณให้กับคันหลังว่ารถกำลังชะลอความเร็ว

จุดที่ดีงามมากๆ ขอยกให้ช่วงล่างแบบถุงลมที่ปรับระดับได้อัตโนมัติ Adaptive M 2-Axle และระบบควบคุมความนุ่มนวลของโช้กอัพแบบแปรผัน ซึ่งช่วงล่างนี้สามารถปรับระดับขึ้นได้ 40 มิลลิเมตร ทำให้เวลาที่ขับไปในเส้นทางแบบออฟโรด หรือทางที่สมบุกสมบันหน่อย อย่างเข้าสวนเข้าทุ่งทำให้สะดวกมากขึ้น ซึ่งที่บอกว่า “พี่ไม่ต้อง น้องทำเอง” เป็นสิ่งที่รถจัดให้อัตโนมัติ เมื่อปรับสูโหมด Adaptive ซึ่งรถจะปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องไปปรับโหมดอะไรเพิ่มเติมเลย (โหมดการขับปรับได้ 4 รูปแบบ คือ Sport, Hybrid, Electric, Adaptive และ Battery Control) และเมื่อขับสู่เส้นทางปกติรถจะปรับระดับความสูงของรถให้ต่ำลงมาอัตโนมัติด้วยเช่นกัน เพื่อให้การขับขี่และการทรงตัวเหมาะสมมากขึ้น

ลองขับจับเวลาแบบจิมคาน่า ด้วยรถไซส์ขนาดนี้กลับมีความคล่องตัวสูง บังคับควมคุมได้ง่าย หากเสียการควบคุมระบบจะเข้ามาช่วยเหลือในทันทีทำให้ควบคุมรถได้ แต่ถ้าอยากสนุกแบบดิบๆ ให้ปิดระบบช่วยเหลือทั้งหมด จะสัมผัสได้ถึงอาการที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ดีคือ แม้ว่าจะปลดระบบความปลอดภัยออก รถยังคงให้ความมั่นคงในการควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ ยังเสริมระบบช่วยเหลือเข้าไปอีกเพียบ เพื่อให้เหมาะกับรถ SAV ไม่ว่าจะเป็นระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับการช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ซึ่งรถจะจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วที่ไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งาน รถจะถอยออกในทิศทางเดิมแบบไม่ผิดเพี้ยนกับตอนขับตรงเข้ามา ตรงนี้ช่วยให้ถอยกลับได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งมีกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera ที่แสดงภาพทั้งมุมมองด้านบน ด้านข้าง มุมมองแบบพาโนรามิค และ 3D View ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับรถแล้วเช็คดูภาพของรถได้ผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยระบบ BMW ConnectedDrive อีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ใหม่ มีให้เลือกใน 4 สีด้วยกัน ได้แก่สีดำ Black Sapphire สีขาว Mineral White สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect และชุดตกแต่ง M Sport ราคาจำหน่าย 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)