ดูเหมือนมาสด้า ประเทศไทย ช่วงนี้เดินเกมส์รุกหนักมาก หลังจากปล่อยมาสด้า 3 ใหม่สู่ตลาดได้ไม่นาน ก็ตามมาติดๆกับน้องเล็กอย่าง มาสด้า 2 ซึ่งเจ้ามาสด้า 2 ใหม่นี้ จัดเต็มจริง เพิ่มระบบ G-Vectoring Control พร้อมระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่มีอยู่ในรุ่นพี่อย่างมาสด้า 3 ใหม่ มาให้ด้วยนะ

ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งจะเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคจากความเชื่อแบบเดิมๆ ไปจนหมดสิ้น โดยเฉพาะการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมาใส่ในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก อาทิ เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ และเทคโนโลยี i-ACTIVSENE ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนมากยิ่งขึ้นควบคุมทุกการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ

ล่าสุดได้มีโอกาศไปทดลองขับเจ้า มาสด้า 2 ใหม่คันนี้ดูซิว่าระบบ G-Vectoring Control จะช่วยให้มาสด้า 2 ขับดีขึ้นกว่าเก่าหรือไม่ โดยการทดสอบครั้งนี้ จะใช้เส้นทาง กรุงเทพ – บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ขาไปเราจะขับเครื่องยนต์เบนซิน และขากลับเราจะขับดีเซล ลองให้มันรู้กันไปว่าแตกต่างกันขนาดไหนสำหรับทั้งสองเครื่องยนต์

ภายนอกปรับเปลี่ยนใหม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากมองผ่านๆ อาจจะไม่ทราบว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็ยังคงเน้นเอกลักษณ์ โคโดะดีไซน์ ที่สปอร์ตสวยงาม สิ่งที่แต่ต่างจากรุ่นก่อนคือ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่ใช้สีเทาเมทัลลิก ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Lamp (ไม่ว่าจะเป็นตัวท็อปเบนซิน หรือ ดีเซล มีให้หมดนะครับ) ชุดกรอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่พร้อมแผงไฟ LED กรอบโครเมี่ยม เสาอากาศเปลี่ยนเป็นแบบ คลีบปลาฉลาม เติมความสปอร์ต หรูหรามากกยิ่งขึ้น ด้านล้อมีการออกแบบดีไซน์ใหม่พร้อมสีรมดำทำให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ทั้งในรุ่นขนาด 15 นิ้ว รวมไปถึง 16 นิ้ว ในส่วนด้านท้ายรถยนต์ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ โดยรวมภายนอกดูดี ดูสปอร์ต ดีครับ

ภายในปรับใหม่เล็กๆน้อยๆ ตกแต่งแบบทูโทน Two-tone Color Decoration ติดตั้งหน้าจอสกรีนใส Active Driving Display สามารถแสดงความเร็ว และข้อมูลระบบนำทางได้, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport Paddle Shift, ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control และพวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบ 3 ก้าน ชุดเบาะนั่งทั้งฝั่งผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านท้าย ยังคงยกการออกแบบเดิมมาทั้งชุด เบาะนั่งกระชับตัวทำให้รู้สึกมั่นใจทุกคั้งเมื่อขับขี่

โดยรวมๆ ถือว่าดูดีน่าใช้ที่เดียวครับ มาสด้ายังคงมีการดีไซน์ที่โดดเด่น ภายในยังคงกระฉับ ดูสปอร์ต วัสดุที่เลือกใช้ก็ดูดีมีราคา เพราะมาสด้าเค้าเน้นทำให้ผู้ขับขี่รู้สักเป็นส่วนหนึ่งกับรถยนต์มากที่สุด แต่ปัญหาคือขนาดของห้องโดยสารของเจ้ามาสด้า 2 มันเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ถ้าปกติใช้งานแค่คนสองคนไม่มีปัญหาสบายๆ แต่ถ้าต้องขนครอบครัวไปด้วย 4 – 5 คนผมว่ามันแน่นไปนิด

มาทดลองขับกันดีกว่าเริ่มจากในเมืองก่อนเลยดูความคล่องตัว ข้อนี้มาสด้า 2 ทำได้ดีครับ มีความคล่องตัวสูง สามารถลัดเลาะไปตามช่องว่างได้ดังใจต้องการ ขาออกจากกรุงเทพ ผมขับตัวเครื่องยนต์ SKYACTIV-G 1.3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300cc เครื่องยนต์ เผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 12.0:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร การใช้งานในเมืองไม่มีปัญหา หลุดออกมานอกเมือง กดคันเร่งลงไป มันขึ้นช้าไปนิด ช่วงกลาง และปลายทำได้อย่างน่าประทับใจ เร่งแซงสบายหายห่วง ขึ้น-ลงเขาไม่ต้องกังวลสบายๆ  แถมถ้าขับดีๆมันประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร

ขากลับเปลี่ยนมาขับเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซล กันบ้าง มาพร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้อัตราเร่งด้วยแรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร พร้อมหัวฉีดโซลีนอยด์ ที่ฉีดน้ำมันได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 เผาไหม้หมดจด พูดเลยว่าขับสนุกมากครับ จื๊ดจ๊าดมากเล็กพริกขี้หนูจริงๆเลย กดคันเร่งลงไปออกตัวดีกว่าเครื่องยนต์เบนซินแบบรู้สึกได้ อัตราเร่งทำได้อย่างน่าประทับใจ แต่ติดที่ช่วงปลายไหลสู้ตัวเบนซินไม่ได้

สรุปโดยรวมทั้ง 2 เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ รอบต้น มีการออกตัวที่ค่อนข้างรวดเร็วทันใจ การเร่งแซงทำได้อย่างง่ายดายไม่ต้องลุ้น คล่องตัวดี แต่ในช่วงความเร็วปลายที่ประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ดูจะหนืดๆไปซะหน่อย ความเร็วเพิ่มขึ้นช้าลง แต่ก็อย่างว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นสไตล์นี้ต้นดีปลายหนืดๆ(หนืดในที่นี้ไม่ได้หนืดมากนะครับแค่รู้สึกว่าไหลๆกว่านี้จะดีมาก) และประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร การออกตัว และการเร่งแซง มันจะไม่จี๊ดจ๊าดเท่าเครื่องยนต์ดีเซล แต่ต้องไม่ได้อืดมากนะครับ ยังคงให้ความสนุกสนานในการขับขี่อยู่ แต่ในช่วงปลายที่ความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ต้องบอกเลยว่า เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ไหลกว่าดีเซล นะจ๊ะพูดเลย

เทคโนโลยีที่ใส่มาให้แบบเต็มๆ อัดระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆมาแน่นคันไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วย MZD CONNECT เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP ทำงานควบคู่กับระบบ i-Stop และล่าสุดระบบ G-VECTORING CONTROL หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ ทำให้มาสด้า 2 คันนี้ ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน

ด้านระบบความปลอดภัยติดตั้งระบบ i-ACTIVSENSE เป็นครั้งแรกใน Mazda 2 ได้แก่ ระบบเตือนมุมอับสายตา Advanced Blind Spot Monitoring, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert

ระบบใหม่ที่เด่นๆใส่มาและทำให้เจ้ามาสด้า 2 คันนี้ขับสนุกมากขึ้นคือ G-VECTORING CONTROL หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ ที่ใส่มาในรุ่นพี่อย่าง มาสด้า 3 รุ่นปรับโฉมเช่นเดียวกันโดยน้องเล็กอย่างมาสด้า 2 รุ่นนี้ก็ถูกบรรจุระบบนี้เพิ่มเติมความสนุกสนานและความมั่นใจการขับขี่ โดยระบบจะตรวจจับรถยนต์เมื่อมีการเข้าโค้ง แรงบิดรวมไปถึงแรงโน้มถ่วงของรถยนต์จะถูกส่งไปบริเวณล้อหน้ารถยนต์ทำให้รถมีการจิกโค้งมากยิ่งขึ้น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจและง่ายดาย ไม่ต้องแก้พวงมาลัยบ่อยๆ รวมไปถึงลดการโครงตัวของรถยนต์ด้วย และเมื่อระบบตรวจจับองศาของพวงมาลัยที่กลับสู่การขับขี่แบบปรกติ แรงบิดจากเครื่องยนต์รวมไปถึงแรงโน้มถ่วงจากน้ำหนักรถยนต์จะกลับสู่ปรกติหรือลงสู่ล้อหลังแทนทำให้เสถียรภาพของรถยนตค่อนข้างแน่นไว้ใจได้ ระบบนี้จะไม่มีการแสดงโชว์เนื่องจากมีการทำงานตลอดเวลาทั้งการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ รวมไปถึงความเร็วสูง สุดยอดไปเลยครับเจ้ามาสด้า 2 คันนี้

เจ้ารถมาสด้า 2 ใหม่คันนี้ มีรูปทรงรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ดูเท่ห์ ดูดี มีสไตล์ ภายในนั่งกระฉับ อุปกรณ์ต่างๆครบครัน ระบบต่างๆที่ใส่เข้ามาช่วยให้ขับสนุก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นับว่าเจ้ามาสด้า 2 คันนี้ เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ขนาดเล็กจริงๆครับ เลือกดูตามความเหมาะสมกับการใช้งานนะครับถ้าครอบครัวใหญ่มีลูก 2 คนขึ้นไปคงไม่เหมาะ แต่ถ้าวัยรุ่น หรือไปไหนมาไหนประมาณ 3-4 คน กับราคาเริ่มต้นที่ 530,000 – 789,000 บาท ผมว่าคันนี้เหมาะสมคุ้มค่าคุ้มราคาเลยครับ

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th