มาสด้า คว้า 3 รางวัล รถยอดเยี่ยมแห่งปี 2019
BEST HATCHBACK DIESEL UNDER 1,600 cc.
MAZDA2 SKYACTIV-D
ยังคงความโดดเด่นได้อย่างลงตัวกับดีไซน์ใน MAZDA2 SKYACTIV-D ที่การันตีความเป็นสุดยอดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์คลีนดีเซลที่มีความจัดจ้านและความประหยัดได้อย่างเหนือชั้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว จนทำให้คณะกรรมการลงคะแนนอย่างเอกฉันท์ จนสามารถคว้ารางวัล BEST HATCHBACK DIESEL UNDER 1,600 cc. ในปี 2019 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งความพิเศษมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน…
จุดเด่นที่คณะกรรมการลงคะแนน
MAZDA2 SKYACTIV-D มาพร้อมขุมพลังSKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1,500 cc. พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงถึง 105 แรงม้าและให้แรงบิดสูง 250 นิวตัน-เมตร พร้อมหัวฉีดโซลินอยด์ที่ฉีดน้ำมันได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพอัตราส่วนการอัดต่ำ เผาไหม้หมดจด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษระดับ Euro 5 ของยุโรป ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO ) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม. สามารถประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร โดยส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วยระบบ i-ELOOP ที่ช่วยเปลี่ยนพลังงานจากการลดความเร็วเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยทำงานร่วมกับระบบ
i-STOP หยุดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อหยุดจอดนิ่ง เครื่องยนต์เมื่อจอดนิ่ง
เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ตอบสนองทุกการขับขี่
MAZDA2 SKYACTIV-D อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมา และอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น, ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง และ The Next Level of Excitement นวัตกรรมใหม่สุดล้ำอีกขั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS
เพื่อควบคุมสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้น และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ i-ACTIVSENSE ครบครันด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้คุณเร้าใจกับทุกเส้นทางที่เป็นตัวเองอย่างไรข้อจำกัด ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่มีเฉพาะในรถมาสด้าเท่านั้น
พ่วงด้วยระบบช่วยการทรงตัว DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ TCS (Traction Control System) ช่วยป้องกันรถลื่นไหล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ น้ำหนักในการเหยียบแป้นเบรกสัมพันธ์กับแรงเบรก จึงเบรกให้นุ่มนวลได้ไม่ยาก และมีแรงเบรกในระดับที่เหมาะสมกับกำลังของเครื่องยนต์ มาพร้อม ABS 4 ล้อ และ EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรก และระบบ ESS (Emergency Signal System) ไฟฉุกเฉิน ทำงานอัตโนมัติเมื่อเบรกรุนแรง
นอกจากนี้ MAZDA2 SKYACTIV-D ยังมาพร้อมการออกแบบ 360 องศา European Touch ความสปอร์ตพรีเมียมมาตรฐานยุโรป สะท้อนตัวตนเร้าใจในแบบคุณ ด้วยห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียมสไตล์รถยุโรป พิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยการตกแต่งแบบทูโทน พร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย อุปกรณ์ภายในจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกใช้งาน พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่กว้างให้กับสัมภาระขนาดใหญ่ และยังแยกพับซ้าย-ขวา 60:40 ได้อิสระตามความต้องการ แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ ระดับความเร็ว และข้อมูลระบบนำทาง Navigator ด้วย Active Driving Display จอสกรีนใส ในรูปแบบสีที่ชัดเจนและอ่านง่ายในระดับสายตา ทำให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนและมีสมาธิกับการขับขี่ได้มากขึ้น อีกทั้งยังมี ระบบ SPORTS PADDLE SHIFT ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย, ระบบ CRUISE CONTROL ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ กระชับมือ ตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานที่พวงมาลัย
และนี่ก็เป็นบทสรุปโดยรวมว่า ทำไม MAZDA2 SKYACTIV-D ถึงได้เป็น “ที่สุด” ในการรับโหวตจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้ให้ได้รับรางวัล BEST HATCHBACK DIESEL UNDER 1,600 cc.
BEST SUV UNDER 1,600 cc. DIESEL
MAZDA CX-3 1.5 XDL
นับเป็นหนึ่งในรถครอสโอเวอร์ที่เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยียุคประหยัด กับสุดยอดขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซลที่อัดแน่นอยู่ใน MAZDA CX-3 1.5 XDL พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้รถรุ่นนี้คือนวัตกรรมยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ และความประหยัด คุ้มค่า จนทำให้เหล่าคณะกรรมการต่างลงคะแนนอย่างท่วมท้นว่า นี่คือ BEST SUV UNDER 1,600 cc. DIESEL ใน THAILAND CAR OF THE YEAR 2019
จุดเด่นที่เหนือกว่า…
MAZDA CX-3 1.5 XDL มาพร้อมกับห้องโดยสารภายในที่สัมผัสได้ถึงความพิถีพิถัน ในการคัดสรรวัสดุเกรดพรีเมียม เชื่อมต่อโลกโซเชียลด้วยเทคโนโลยี MZD CONNECT ให้คุณเดินทางและอัพเดทเทรนด์บนโลกออนไลน์ได้พร้อมๆ กัน แสดงข้อมูลการขับขี่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์อิสระของคุณ ด้วยฟังก์ชันสุดล้ำครบครัน ด้วย CENTER DISPLAY จอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD CONNECT และแสดงผลฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ หรือเรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Command และ Center Commander ปุ่มหมุนที่คอนโซลกลางตรงตำแหน่งใกล้มือผู้ขับ ที่ใช้ควบคุม MZD CONNECT เพียงหมุนหาคำสั่งที่ปรากฏขึ้นบนจอ Center Display ใช้ได้ทั้งขณะรถวิ่ง หรือรถจอดนิ่ง ให้ผู้ขับใช้สมาธิในการขับขี่
ได้ดียิ่งขึ้น และระบบ ACTIVE DRIVING DISPLAY จอสกรีนใสเหนือพวงมาลัย ในระดับสายตาผู้ขับ แสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ เช่น ระดับความเร็วรถ, ระบบนำทางอีกทั้งยังมีระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง สัมผัสมุมมองในทุกมิติ พร้อมมุมกล้องในแบบ Top View ผ่านหน้าจอ
Center Display ขนาด 7 นิ้วที่ให้คุณมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง และปลอดภัยยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์คลีนดีเซลแรง ประหยัด พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย
ความแรงและประหยัดของ MAZDA CX-3 1.5 XDL เกิดจากขุมพลัง SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล 1.5 ลิตร
ที่ทำงานคู่กับเทอร์โบแปรผันน้ำหนักเบา ที่ให้แรงบิดสูง แม้ในรอบความเร็วต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 เผาไหม้หมดจด ให้แรงม้า 105 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 270 นิวตัน-เมตร ส่งผ่านกำลังในรูปแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ที่ตอบสนองได้แม่นยำ เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว
MAZDA CX-3 1.5 XDL มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE ที่สามารถคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือน
ผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ALH (Adaptive LED Headlamps)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพถนน ระยะห่างจาก
ตําแหน่งของรถคันหน้า หรือรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยให้การทํางานของไฟสูงไม่ไปรบกวนรถคันอื่น ระบบ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ที่ช่วยควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากพบรถคันหน้าที่มีความเร็วน้อยกว่า ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้า และรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ระบบ SBS (Smart Break Support) ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบจะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณและรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับไม่ได้ทําการเบรก ระบบจะช่วยทําการเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า ระบบ SCBS (Smart City Brake Support) ช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจสอบพบว่าไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ ระบบจะช่วยทําการเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้า เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ ระบบ SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ที่ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหลัง ระบบ LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียงเตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง
นอกจากนี้ ยังเติมเต็มด้วยระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบ ESS (Emergency Signal System) สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง, ABS ป้องกันล้อล็อก, EBD กระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์, DSC ควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัว และ TCS ป้องกันการลื่นไถล
…และนี่คือความโดดเด่นเหนือใครที่ทำให้ MAZDA CX-3 1.5 XDL ได้รับการคัดเลือกให้เป็น BEST SUV UNDER 1,600 cc.
DIESEL ประจำปี 2019 จากคณะกรรมการผู้เข้าทดสอบ
BEST PERFORMANCE SUV
MAZDA CX-5
ยังเป็นรถ SUV ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านขุมพลัง ประโยชน์การใช้สอย เทคโนโลยีทันสมัยและสมรรถนะในการขับที่มั่นใจ จนทำให้ MAZDA CX-5 กลายเป็นรถ SUV ที่คนพูดถึงมากที่สุดตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนมาถึงตอนนี้…และได้รับผลโหวตจากคณะกรรมการให้เป็น BEST PERFORMANCE SUV ซึ่งความพิเศษที่มัดใจใครหลายๆ คนจะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
เหนือระดับกับเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มรูปแบบ
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ MAZDA CX-5 คือ ระบบ G-Vectoring Control หรือ GVC เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ภายใต้เทคโนโลยี
SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ระบบ GVE จะช่วยควบคุมความสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล ซึ่งระบบจะทำงานโดยประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยำในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ MAZDA CX-5 ยังมีระบบ i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้รอบคัน ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมาสด้าที่มอบให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อาทิ ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระจากกันทั้งซ้าย-ขวา ให้เหมาะสมกับระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยไม่ให้การทํางานของไฟสูงไปรบกวนรถคันอื่น MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบจะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณและรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนและเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้า เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนและไฟกะพริบบนหน้าปัด เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลน LAS (Lane-keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่อยู่ในจุดมุมอับสายตา RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบที่กระจกมองข้างขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง และ ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระจากกันทั้งซ้าย-ขวา ให้เหมาะสมกับระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
Special Test
เข้าสู่บทพิสูจน์สมรรถนะความสุดยอดของ MAZDA CX-5 ในสถานีทดสอบ ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 3 สเตชัน เริ่มต้นด้วย Slalom Test, Suspension Test และ Lane Change ซึ่งรถอเนกประสงค์คันนี้สามารถผ่านทุกด่านได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว ในสถานี Slalom Test ผู้ทดสอบจะต้องบังคับรถเปลี่ยนเลนแบบฟันปลา เพื่อสัมผัสระบบความปลอดภัยและการทำงานของระบบช่วงล่าง รวมถึงการสั่งงานของพวงมาลัยว่ามีความแม่นยำขนาดไหน ในช่วงการทดสอบ ระบบ แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS) ที่มีวงเลี้ยวแคบถึง 5.5 เมตร สามารถสั่งการได้อย่างเฉียบคม ควบคุมง่าย
ถัดมาสถานี Lane Changeคณะกรรมการผู้ทดสอบจะต้องควบคุมด้วยการบังคับรถเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน เพื่อสัมผัสระบบความปลอดภัยและการทำงานของระบบช่วงล่าง อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้า และกึ่งอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลัง ให้ความมั่นใจได้ในทุกการขับขี่ เเละเกาะถนนเป็นเยี่ยม ไว้ใจได้ทุกช่วงความเร็ว ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์เเบบ ให้ประสิทธิภาพสูงในการเกาะถนน สร้างความมั่นใจได้ทุกครั้งที่ใช้งาน ปิดท้ายด้วยสถานี Suspension Test ที่ต้องทดสอบระบบช่วงล่างและระบบควบคุม ในสถานีนี้ MAZDA CX-5 ที่มีระบบ GVC สามารถควบคุมรถได้ดี ซึ่งระบบนี้จะประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยำในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น ขณะรถเริ่มเข้าโค้ง ขณะรถอยู่ในโค้ง ขณะรถออกจากโค้ง ซึ่งนับว่ามีการตอบโจทย์ในด้านการใช้งานอย่างครบถ้วน
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือความสุดยอดของ MAZDA CX-5 ที่เหล่าคณะกรรมการเทคะแนนให้ จนทำให้สามารถคว้ารางวัล BEST PERFORMANCE SUV ใน THAILAND CAR OF THE YEAR 2019 มาครองได้สำเร็จ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th