โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศเตรียมนำเทคโนโลยี Vehicle-to-Vehicle (V2V) มาใช้งานในรถยนต์ทุกคันของพวกเขาที่ขายในประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2021 เพื่อให้รถยนต์สามารถสื่อสารข้อมูลระหว่างกัน มั่นใจสร้างสังคมไร้อุบัติเหตุบนท้องถนน และเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ยุครถยนต์ไร้คนขับ

หลังจากความพยายามยาวนานร่วมครึ่งทศวรรษโตโยต้า เตรียมติดตั้งชิพระบบสื่อสารระยะใกล้ Dedicated Short-Range Communications (DSRC) เพื่อให้รถยนต์สามารถสื่อสารระหว่างกันภายใต้เทคโนโลยีการแจ้งเตือนสถานะระหว่างรถยนต์ Vehicle-to-Vehicle (V2V) และการสื่อสารข้อมูลกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน Vehicle-to-Infrastructure (V2I) เช่น สัญญาณไฟจราจรหรือข้อมูลอุบัติเหตุ โดยจะครอบคลุมถึงเล็กซัส แบรนด์รถหรูของพวกเขา และตั้งเป้าหมายจะใช้งานในรถยนต์ทุกรุ่นภายในกลางทศวรรษหน้า

DSRC จะทำงานผ่าน 7 ช่องสัญญาณบนคลื่นความถี่วิทยุ 5.9 GHz ทำให้รถยนต์ที่ติดตั้งระบบนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งสามารถสื่อสารระหว่างรถยนต์ต่างยี่ห้อได้อีกด้วย จากการที่ในอนาคตจะถูกกำหนดให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์ที่ขายในสหรัฐฯ

สำหรับ Vehicle-to-Vehicle และ Vehicle-to-Infrastructure เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Vehicle-to-Everything (V2X) โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ สนับสนุนให้ค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกที่รวมถึงโตโยต้า เข้าร่วมการทดสอบ โดยการทำงานเบื้องต้นจะเป็นการส่งข้อมูลพิกัดของรถยนต์, ความเร็ว และอัตราการเร่งความเร็ว เพื่อให้รถยนต์ที่ติดตั้งระบบ DSRC คันอื่นๆ สามารถนำมาใช้ประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ, ข้อมูลสภาพอากาศ, มีรถยนต์ช้าหรือจอดบนถนนที่กำลังเดินทาง, ป้ายสัญญาณจราจร และคำนวณเส้นทางการเดินทางสู่จุดหมายได้แม่นยำมากขึ้น

Fact: ความจริงโตโยต้า และเล็กซัส เริ่มขายรถยนต์ที่ติดตั้ง DSRC ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2015 โดยนับเป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกที่นำมาใช้งานในรถยนต์ที่ขายทั่วไปและนับจนถึงเดือนมี.ค.2018มีรถที่ติดตั้งระบบนี้ 100,000 คัน วิ่งอยู่บนถนนแดนปลาดิบ 

Jim Lentz ประธานบริหารโตโยต้า มอเตอร์ อเมริกาเหนือ ออกมาประกาศข่าวสำคัญนี้ว่า “การยินยอมให้นำระบบยานยนต์อัจฉริยะมาใช้งานในวงกว้าง และมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยี DSRC เราจะสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงอนาคตของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เป็นศูนย์, การจราจรที่มีความคล่องตัวมากขึ้น และลดความแออัดบนท้องถนน”

“เช่นเดียวกับเมื่อ 3 ปีก่อน เราให้คำมั่นสัญญาณว่าจะติดตั้งระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking: AEB) ในรถยนต์ทุกคันภายในสิ้นปี 2017 ในวันนี้ 92 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์โตโยต้า และเล็กซัส ที่ขายในสหรัฐฯ จะมาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense หรือ Lexus Safety System+ ที่มีระบบเบรก AEB ติดตั้งเป็นมาตรฐาน”

“ถือเป็นความมุ่งมั่นที่ไม่แตกต่างกัน เราเชื่อมั่นว่าความยอดเยี่ยมของ DSRC ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ทุกบริษัทจะนำไปใช้จะช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางสู่จุดหมายด้วยความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งช่วยวางรากฐานสำหรับอนาคตของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ” บอสใหญ่โตโยต้า อเมริกาเหนือ แสดงความมุ่งมั่น

อย่างไรก็ตามเจเนอรัล มอเตอร์ส 1 ในบิ๊กทรีของอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกัน มีการนำเทคโนโลยี V2V มาใช้งานในรถยนต์ Cadillac CTS ที่ออกขายเมื่อต้นปี 2017 เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี โฟลค์สวาเก้น เตรียมติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในรถที่ขายแถบยุโรปช่วงปี 2019

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: pressroom.toyota.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th