ลองขับ ลุยแหลก ใช้งานจริง กับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ 4 ประตูขับ 4 ล้อ
หลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นานสร้างกระแสกลายเป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ กับรูปลักษณ์ภายนอกที่ออกแบบมาได้ฉีกแนวจากรุ่นก่อนหน้าโดยสิ้นเชิงกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ คันนี้
เราได้โอกาสเข้าร่วมทดลองขับเจ้า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ กันที่จังหวัดเชียงใหม่ต้องบอกเลยว่าเส้นทางที่จะทำการทดสอบนี้ครบรสชาติเลยเพราะมีทั้งวิ่งในเมือง ทางเขา ทางฝุ่น คราวนี้ละจะได้รู้ว่าเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มันจะทึก อึด ทน และจะขับดีขนาดไหน รุ่นที่เราจะทำการทดสอบเป็นรุ่นท็อปสุดคือรุ่น 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อ 2.4GT Premium 6AT ราคา 1.099 ล้านบาท
เรามาเริ่มจากการดีไซน์ภายนอกที่ดูแปลกหูแปลกตาด้านหน้าโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ Dynamic Shield ผสานเข้ากับเส้นสายอันดุดันของฝากระโปรงหน้าและไฟหน้าได้อย่างลงตัว ชุดไฟหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์แบบ Bi-LED ถูกยกตำแหน่งให้มีมุมมองที่สูงขึ้นซ้อนด้วยชุดไฟ LED Daytime Running Lights สำหรับวิ่งกลางวัน ด้านล่างรองรับด้วยกรอบไฟตัดหมอกใหม่โดยมีระบบเปิด/ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปรับระดับไฟหน้าสูง/ต่ำอัตโนมัติให้ใช้งาน ด้านข้างยังคงเป็นซุ้มล้อขนาดใหญ่ เด่นด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมบันไดข้างใหม่ ส่วนด้านหลังมีการออกแบบชุดไฟท้ายและกันชนใหม่หมด ไล่ไปตั้งแต่ฝากระบะท้ายที่มาพร้อมสปอยเลอร์ ชุดไฟเบรค LED, ชุดไฟ LED Light Guiding และกันชนท้ายพร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ติดตั้งอยู่บนตำแหน่งที่สูงขึ้น ในส่วนของดีไซน์ตัวถังรูปแบบใหม่ผสานกันอย่างลงตัวด้วยส่วนโค้งมนตัดกับเส้นสายอันโฉบเฉี่ยว พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่เน้นความแกร่ง และความทันสมัย
ห้องโดยสารของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มคุณภาพสูง รองรับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยช่องเก็บของและจุดวางเครื่องดื่ม รวมถึงการติดตั้งช่อง USB ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้โดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง จอแสดงข้อมูลในการขับขี่แบบสีพร้อมอะนิเมชั่นสามมิติ และมาตรวัดแบบไฮคอนทราสต์และกราฟฟิกที่มีความละเอียดสูงขึ้น การแสดงผลระบบนำทางได้รับพัฒนาใหม่เพื่อให้มองเห็นได้สะดวกชัดเจนยิ่งขึ้น พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง และครูสคอนโทรลมาให้ อ่อ มี Paddle Shift ด้วยนะบอกตรงๆเหมือนยกมาจากปาเจโร สปอร์ต ทั้งชุดเลย
ระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ สวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่ที่พวงมาลัย และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ที่เด่นก็คือช่องแอร์พร้อมชุดควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นแค่การดูดลมเย็นมาเฉยๆนะครับไม่มีคอยล์เย็นแยกนะ มาที่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone อันนี้ดีไซน์คล้ายยกมาจากมิราจเลย เบาะหนังฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางนั่งสบายกระฉับตัว มี Push Start พร้อมกุญแจอัจฉริยะ KOS ด้วยนะนอกจากนี้บริเวณคอนโซลหน้ายังมีช่องจ่ายไฟกระแสตรง 12 โวลท์, พอร์ท USB ที่คอนโซลหน้า, พอร์ท USB 2 ตำแหน่งที่คอนโซลกลาง และฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth แบบ A2DP เรียกได้ว่ามันตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันมาครับ
เส้นทางสำหรับกิจกรรมทดลองขับมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ครั้งนี้มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 220 กิโลเมตร เรามาเริ่มขับทดสอบกันเลย จากจุดปล่อยขบวนรถที่โรงแรมใน อ.หางดง นอกตัวเมืองเชียงใหม่ เส้นทางช่วงนี้จะเป็นถนนค่อนข้างดี แต่ก็มีแอบเป็นหลุมบ่อ ขรุขระบ้างบางช่วง ต้องบอกเลยว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เซ็ตระบบช่วงล่างได้นุ่มนวลดีครับสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวของถนนได้ดี ส่วนหนึ่งคงเป็นช่วงล่างปีกนกคู่ที่ด้านหน้า และช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนโช้คอัพเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมทำให้ได้การขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
ขับมาเพลินๆเราก็มาถึงทางขึ้นดอยอินทนนท์ซึ่งทางขึ้นค่อนข้างชัน เราจะได้ทดสอบพละกำลังของเครื่องยนต์ MIVEC ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบ/นาที ซึ่งผมว่าเป็นเครื่องยนต์ที่กำลังเหมาะสม และพอดีที่สุด เพราะเครื่องยนต์ 3.0 ก็ดูเหมือนจะใหญ่ไปกินน้ำมัน หรือจะเป็นเครื่องยนต์ 1.9 มันก็เล็กเกินไปหรือเปล่าแรงปลายจะไม่มีเอา ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะใหม่ พร้อม Sport Mode เกียร์ลูกนี้รับรองว่าทึกทน ดูแลง่าย แน่นอน เพราะจากที่ดูอัตราทดของเกียร์ 6 จังหวะลูกนี้แล้ว มันเป็นเกียร์ลูกเดียวกับที่ โตโยต้า และอีซูซุ ใช้เลยจร้า คอมเฟริ์ม เราเดินหน้าขึ้นดอยอินทนนท์เป็นทางขึ้น-ลงเขา และโค้งซ้าย-ขวา พอเรียกน้ำจิ่ม มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ วิ่งขึ้นไปได้แบบชิลล์ๆไม่เหนื่อยไม่ต้องเค้นเครื่อง วิ่งขึ้นเขามาไม่ไกลก็ถึงจุดทานข้าวกลางวันบนดอยอินทนนท์
หลังพักรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อย เส้นทางที่เราจะทดสอบต่อต้องบอกว่าขับขึ้นอินทนนท์มันธรรมดา และง่ายเกินไป เส้นทางต่อไปเราจะขับเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เข้าไปบนเส้นทางอันสมบุกสมบันเส้นทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ โค้งสลับซ้าย-ขาว แถมโค้งลึกแบบยูเทริ์น ระบบช่วงล่างหน้าอิสระ แบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเห็นกันโคลงขนาดใหญ่ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเพลา พร้อมโช็คอัพไขว้ขนาดใหญ่ ของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ทำหน้าที่ได้ดีครับ ทีแรกผมกลัวว่ามันจะย้วยและโคลง เพราะมันถูกปรับแต่งมาให้นุ่มนวล
แต่ผมทดลองเข้าโค้งด้วยความเร็วปรากฎว่าไม่ได้ย้วยอย่างที่คิดครับ อาจจะดูนิ่มไปสำหรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงแต่ก็ไม่ได้ย้วยโคลงมากนัก เรียกได้ว่าแน่น นุ่ม หนึบ ครับ พวงมาลัยควบคุมง่ายน้ำหนักดีครับ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้เยอะทีเดียวครับ ด้านหน้าถนนค่อนข้างเล็กเลียบหน้าผาปกคลุมไปด้วยผืนป่าที่งดงาม แถมยังต้องเร่งแซงรถช้าด้านหน้าอัตราเร่งของเครื่องยนต์ MIVEC 2.4 ลิตร 181 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทำงานผสานกันได้อย่างลงตัว แถมมี Paddle Shift ให้เราควบคุมเกียร์ได้ง่ายดาย ทำให้การเร่งแซงบนทางลาดชันทำได้อย่างสบายหายห่วง
เรามาเลี้ยวเข้าทางฝุ่นกันต่อเลยครับ เพราะทางนี้อุปสรรคสุดท้าทายหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางชันที่เปียกลื่น ตลอดจนสภาพพื้นผิวถนนแบบฝุ่น ขรุขระเป็นหลุมและบ่อโคลน แถมทางแคบมาก ระยะทาง 20 กิโลเมตร ผ่านหน่วยจัดการต้นน้ำแม่จอนหลวงลัดเลาะขึ้นไปบนทิวเขาถนนธงชัยตะวันออก เพื่อขึ้นสู่ขุนวางที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,500 เมตร มาทดลองระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี Super Select 4WD II กัน
Super Select 4WD II มี 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่
- โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD High-Range) ระบบนี้เหมาะสำหรับการขับขี่บนสภาพถนนปกติให้อัตราเร่งดีประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น
- โหมด 4H (4WD High-Range) ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งจะทำงานแบบ Full Time All Wheel Control เหมาะสำหรับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว ระบบส่งกำลัง Torsen จะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า 40% และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง แต่ถ้าเจอถนนเปียกลื่นระบบจะเปลี่ยนเป็นล้อหน้า 50 % ล้อหลัง 50 % โดยอัตโนมัติ
- โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4WD High-Range with Locked Transfer) ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50 % และล้อหลัง 50 % เท่ากันตลอดเวลาเหมาะกับสภาพเส้นทางที่ขรุขระแต่ยังใช้ความเร็วได้ หรือเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถล ระบบนี้ไม่เหมาะที่จะใช้บนถนนแห้ง
- โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked Transfer) ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าในการส่งกำลังล้อหน้า50% และล้อหลัง 50% ตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลังจะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้นช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับเส้นทางที่วิบาก ลุยโคลน เส้นทางที่มีหินสลับหรือมีความลาดชันมากๆ ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมโหมดออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock รวมถึงระบบล็อกเฟืองท้ายเพื่อสมรรถนะที่เหนือระดับบนเส้นทางออฟโรดที่ท้าทายและสมบุกสมบัน
วิ่งผ่านเขามาพักใหญ่เราก็เลี้ยวเข้าไปใช้เส้นทางออฟโรดที่ทั้งแคบทั้งขรุขระโดยเราเปลี่ยนจากขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ และง่ายดาย เพราะเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีระบบ Super Select 4WD II เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อของมิตซูบิชิให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ทุกสภาพถนน และสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ 2H เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4H ได้โดยไม่ต้องหยุดรถที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แค่นี้เราก็พร้อมจะลุยกันแล้วเส้นทางแบบนี้เราใช้แค่ 4H ก็เพียงพอแล้วเพราะทางไม่ถึงกับโหดมาก
บางช่วงต้องขึ้นเขาสูงชันแถมทางเป็นฝุ่นและมีหินระบบขับ 4 ล้อช่วยพาเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ผ่านไปได้แบบง่ายดายแถมไม่ต้องกลัวหินโดนใต้ท้องรถเพราะเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่มีความสูงใต้ท้องรถถึง 220 มม. และด้วยล้อขนาดใหญ่ 18 นิ้ว จึงขับฝ่าอุปสรรคได้อย่างสบาย บางช่วงเป็นทางแคบมากด้านขวาเป็นเหวลึกทำให้เราต้องชิดซ้ายมากเป็นพิเศษแต่ไม่ต้องกลัวว่าจะตกร่องเขาทางซ้ายเพราะกล้องมองภาพรอบคัน ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคันช่วยในการขับขี่บนทางแคบแบบนี้ได้ดีทีเดียว มาถึงเส้นทางลงเขาลาดชันระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เพื่อรักษาความเร็วรถให้คงที่ขณะลงทางลาดชันช่วยให้เราขับขี่ไปปลอดภัยและผ่านเส้นทางออฟโรดไปได้อย่างง่ายดาย
ลงเขาขับเข้าเมืองกันดีกว่ารถค่อนข้างเยอะเพราะเป็นเวลาเลิกงานแล้วความค่องตัวของเจ้ามิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีค่อนข้างสูงลัดเลาะไปตามช่องว่างได้อย่างสบาย เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า มีอัตราเร่งที่น่าพอใจ เร่งแซงไม่มีปัญหา ขับไปเพลินๆความเร็วไปแตะที่ 160-170 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบบสบายๆ
แถมมีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว กล้องและระบบเรดาร์เลเซอร์ตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนข้างหน้า ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน เพื่อเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถอยู่ด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ตรวจจับว่ามีรถยนต์กีดขวางขณะถอยหลังหรือไม่ และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเหยียบคันเร่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังโดยไม่ตั้งใจระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ สุดไปเลยว่ามั้ยรถกระบะสมัยนี้
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ คันนี้นอกจากหน้าตาที่ดูหล่อบึกบึนและภายในยังหรูหรานั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มนวลไม่แข็งกระด้างเหมือนกระบะทั่วไปเหมาะกับการใช้งานทั้งในและนอกเมืองตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้รถกระบะของคนในปัจจุบันที่ใช้เป็นรถยนต์นั่งขับในเมืองมากกว่าไปบรรทุกหนัก เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป กับอัตราประหยัดน้ำมันที่ 14.7 กิโลเมตร/ลิตร ในรุ่นขับ 2 ล้อ และ 13.2 กิโลเมตร/ลิตร ในรุ่นขับ 4 ล้อ แถมยังอัดเทคโนโลยีต่างๆมาให้แบบไม่มีกั๊ก กับราคาเริ่มต้นที่ 654,000 – 1,099,000 บาท ผมว่ามันน่าสนใจไม่น้อยไม่เชื่อลองไปขับดูครับคุ้มค่าเงินแน่นอน
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th