มีสลึงพึงบรรจบให้ครบ “สามแสนบาท” เลือกฉลาด Used Car ตัวไหน ให้คุ้มค่า !!!
ณ ตอนนี้ สภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ใคร่จะลื่นไหลสักเท่าไร การจะใช้เงินสักก้อนใหญ่ๆ ก็เลยต้อง “นะจังงัง” ไปก่อน การซื้อรถก็เช่นกัน ในงบประมาณก้อนอันจำกัด อาจจะไม่พอซื้อรถใหม่ป้ายแดงแม้แต่ ECO Car เสียด้วยซ้ำ เชื่อเถอะ “Used Car” ยังคงเป็นทางออกที่ดีเสมอ บางทีก็ไม่ใช่คนงบจำกัดหรอก แต่บางคนที่มีความรู้ อยากเสียเงินเท่าเนี้ย แต่ได้ Used Car รุ่นที่ใหญ่ หรูหราว่ารถป้ายแดงในราคาเท่ากันก็มีเยอะ ในตอนนี้ เราขอพูดถึงงบประมาณ “สามสิบหมื่น” กันก่อน เพราะเป็นจำนวนที่ “คนส่วนใหญ่จ่ายได้” และ “ได้รถที่คุ้มค่า” ปีไม่เก่าเกิน เผลอๆ จะได้ “รถหลักล้านในอดีต จ่ายราคาถูกกว่าอีโคคาร์” เสียด้วยนะ แต่ต้องรู้ก่อนครับ ว่ารุ่นใดน่าเล่นบ้าง จะได้ไม่ “โยนหินถามทาง” ไงละครับ…
HONDA CITY MY 2012 – 2013
แม้กระแสของเจ้า CITY “ไฟท้ายห้าเหลี่ยม” ที่เป็นรถซีดาน จะฮิตกันน้อยกว่า JAZZ ที่วัยรุ่นชอบกันมาก แต่อันนี้เราเน้นการ “ใช้งานแบบครอบคลุม” เป็นหลัก ด้วยความที่เป็นรถซีดานแบบครอบครัวเล็กนั่นเอง ซึ่งตอนนี้คนก็ยังนิยมใช้กันอยู่มาก แล้วน่าใช้อย่างไรกัน…
สิ่งน่าคบ
- อัตราเร่งดี ประหยัดน้ำมัน เครื่อง L15A พร้อมระบบ i – VTEC แรงม้ามากถึง 120 PS แถมได้เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด !!! อันนี้จะช่วยเรื่องอัตราเร่งอันต่อเนื่อง ขับสนุก และให้ความประหยัดในการเดินทางได้มาก เกียร์ก็จะทนกว่าแบบ CVT ส่วนช่วงล่าง “ใช้ได้” สำหรับรถรถระดับนี้…
- ซ่อมบำรุงไม่แพง ไม่จุกจิก ระบบไม่ซับซ้อนมากเหมือนรถยุคใหม่ๆ อะไหล่เพียบสไตล์ HONDA…
- ราคานี้ ถ้าเน้นใช้งานจริงๆ ไม่ได้สนของเล่นอะไรมากมาย รุ่นรองท๊อป V ก็ถือว่าเล่นได้แล้ว มีเงินเหลือไว้ซ่อมปรับสภาพ แต่ถ้าจะชอบ Option ต่างๆ ก็ต้องรุ่นท๊อป SV ก็จะได้ล้อ 16 นิ้ว (แต่ยางแพงหน่อยนะ) และ Paddle Shift ที่พวงมาลัย…
สิ่งที่ควรเรียนรู้
- ภายนอก รถเดิมออกจะไม่เตะตา ถ้าจะเอาไปเทียบกับ JAZZ GE ก็สู้ไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าคนที่ชอบความเรียบง่ายก็จัดไป…
- Option มีไม่เยอะมากเหมือนคู่แข่ง ก็เป็นธรรมดาของ HONDA ที่ของจะน้อยกว่าเพื่อน เช่น วิทยุแบบปุ่มกดๆ หมุนๆ ธรรมดา แอร์ไม่ออโต้ คือ “เน้นใช้งานจริงๆ” ได้ความทนทานเป็นหลัก แต่สายแต่งจุกจิกก็ต้องไปหาของ After Market ใส่เอาเอง…
- ไม่มีของแต่งญี่ปุ่นมากเหมือน JAZZ หรือ FIT (ชื่อในญี่ปุ่น) เพราะถ้าเป็นเมืองนอก ไอ้นี่ก็จะเป็น FIT ARIA ที่เป็นรถใช้งานทั่วไปจริงๆ แต่ก็ไม่ยากถ้าจะแต่ง “ของไทย” มีเพียบ ถ้าไม่คลั่งลัทธิ JDM จนเกินไปนะ…
MAZDA 3 MAXX 2.0 Hatchback MY 2012
จากคอนเซ็ปต์ ZOOM – ZOOM ก็ทำให้ MAZDA ดูมีชีวิตชีวาขึ้น เริ่มจากตระกูล 3 มันก็มาจาก 323 ในอดีตนั่นเอง แต่ตัวนี้มันคือ AXELA ในญี่ปุ่น เป็นโมเดลที่ 2 ของตระกูล 3/AXELA โดดเด่นที่เป็นรถสไตล์ Hatchback ในตระกูล C – Segment ซึ่งในตอนนั้นก็แทบจะไม่มีคู่แข่งสายญี่ปุ่นด้วยกันเอง แต่ถ้าใคร “แนวครอบครัว” ก็มี Sedan 4 ประตู ให้เลือกตามชอบ…
สิ่งที่น่าคบ
- ตัวท๊อป MAXX 0 ได้ซันรูฟ เบาะหนัง ปุ่ม Push Start ไว้ขิงคนอื่นได้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ภายในดีไซน์สวยสปอร์ตจริงๆ เกจ์วัดไฟสีม่วงปนแดง (อันนี้ชอบส่วนตัว) เบาะหนังแท้ มี Paddle Shift อีก เรียกว่ามาครบ เพราะราคารถใหม่มัน “ล้านหกหมื่น” ประมาณนี้ ได้ของขนาดนี้ถือว่าคุ้ม…
- คงไม่ต้องพูดถึงกันมากในการขับขี่ของ MAZDA 3 ขับสนุก ช่วงล่าง เบรก โดดเด่น ได้ฟิลลิ่งสปอร์ตเกินหน้าเกินตาพรรคพวก อัตราเร่งก็ดี เป็นเอกลักษณ์ที่คนที่ใช้จะติดใจ…
สิ่งที่ต้องพิจารณา
- ขึ้นชื่อว่า MAZDA “อะไหล่แพง” กว่าพวก (แต่อาจจะไม่ทุกอย่าง แล้วแต่เคสๆ ไป) พวก ผ้าเบรก ช่วงล่าง อะไหล่สิ้นเปลือง กล่องสัญญาณกันขโมยชอบ Error จู่ๆ ร้องเองให้หลอนเล่นเสียอย่างนั้น ถ้าอยากใช้มัน จะเป็นลักษณะ “เจ็บแต่จบ” ยอมซื้อรถสภาพดีจริงๆ แต่จ่ายสูงหน่อย หรือ ยอมซ่อมให้จบ แล้วใช้ยาวๆ ยังงั้นได้…
- ของแต่งต่างๆ ที่เป็น “ของไทย” มีค่อนข้างน้อยมาก จากความนิยมของกระแสวัยรุ่นก็ตาม คนที่จะใช้รุ่นนี้ ส่วนใหญ่ออกแนว “สามสิบอัพ” ถ้าเป็นสายลึกจริงๆ ก็ต้องพึ่ง “ของตัวนอก” มาเล่นกัน หรือของแต่งเฉพาะทาง เช่น MAZDASPEED, AUTOEXE ที่เป็น JDM แท้ๆ อะไรประมาณนี้ครับ…
NISSAN TEANA 250 XV MY 2011 – 2013
ขยับมาเล่นกับรถซีดานขนาดกลางหรูหราอาราเล่ สำหรับ NISSAN TEANA Gen 2 ที่แม้ว่าจะออกมานานประมาณ 10 ปี แต่ทรวดทรงต่างๆ ก็ยังดูดี “ออกแขกได้” หลายคนก็อาจจะกังขาว่า “นิสสัน ราคาตก” ก็คงเป็นไปตามกระแสเล่าลือของสังคม แต่อย่างไรก็ตาม “ขอให้ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน” บางครั้ง สิ่งที่ได้ยิน อาจจะไม่จริงเสมอไป คุณอาจจะชอบรุ่นนี้อยู่แล้ว แต่ได้ยิน “เขาเล่าว่า” ไอ้ “เขา” นี่ “ใครก็บ่ฮู้” จนทำให้คุณพลาดสิ่งที่ดีบางอย่างไป…
สิ่งที่น่าคบ
- ถ้าเทียบกับรถเซกเมนต์นี้ ราคานี้ TEANA จะได้ปีค่อนข้างใหม่กว่าพรรคพวก หน้าตาหรูหรา ทรวดทรงโอ่อ่า เรียกว่าใช้เป็นหน้าเป็นตาได้เหมือนกัน ส่วนภายในก็ “กว้างใหญ่ไพศาล” ขนาดล้อมวงตะกร้อได้ รวมถึงการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม ทำให้สบายมากทั้งขับและนั่งเป็นเจ้านาย…
- ในรุ่น 250 XV จะได้เครื่องยนต์ VQ25DE แบบ V6 สูบ แรงม้าจำได้ว่า 180 PS แรงแบบนุ่มแน่น คนเล่นเครื่อง “หกเม็ด” จะรู้ดีอยู่แล้ว…
- ระบบช่วงล่าง เป็น Multi – Links “อิสระ 4 ล้อ” ตั้งแต่ J31 รุ่นแรก จะได้ชื่อว่า “นุ่ม เงียบ” เป็นจุดขาย ความเร็วสูงก็ยังมั่นใจได้อยู่ แต่ก็อย่าเล่นกันแรงมาก มันไม่ใช่รถสปอร์ตนะ…
สิ่งที่ต้องพิจารณา
- ค่าซ่อมสูง เครื่องยนต์ V6 ชิ้นส่วนมาก แถมยัง “ฝากาง” อีก การซ่อมบำรุงจึงยากกว่าเครื่อง 4 สูบ อยู่เยอะ บางอย่างต้องยกเครื่องออกมาทำชุดใหญ่ เพราะมันมองด้านหลังไม่เห็น รวมถึง “กินน้ำมันพอควร” ด้วยความที่เป็นเครื่องใหญ่ แลกกับ “ความมันส์” ก็ต้องยอม เรียกว่าใครจะใช้รุ่น V6 ก็แสดงว่าเป็นคน “เท้าไฟ” พอควร แบบนี้ต้อง “เจ็บแต่จบ” ซื้อรถมายอมซ่อมชุดใหญ่แล้วก็ใช้ยาวๆ แต่ถ้า “ใจไม่ด้านพอ” ก็เล่นตัว 200 XL 4 สูบ 0 ลิตร ก็จะซ่อมถูกลงไปเยอะ แต่ก็ขับได้แบบชิวๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้รีบร้อนไปไหนต่อไหนนัก…
- ระบบช่วงล่าง นี่ก็ราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน ด้วยความที่เป็นระบบ Multi – Links แท้ๆ ชิ้นส่วนมันเยอะ บูชต่างๆ ยุบยับไปหมด เลยมีโอกาสเกิดเสียงกุกกักได้ในรถที่วิ่งมาเยอะๆ เวลาเสียทีก็ “เหงื่อตก” เช่นกัน แต่ถ้าแลกกับความนุ่มก็ต้องยอม…
- ระบบเกียร์ CVT เอาจริงๆ ผมไม่อยากนับเป็นข้อเสียสักทีเดียว เพราะข้อดีมันก็มี เพียงแต่อาจจะไม่ “สะใจอารมณ์สปอร์ต” ด้วยความที่เครื่องมันแรง เอาเข้าจริงๆ ถ้าเจอรถที่คนใช้ดูแลปกติ เกียร์ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ทนทานใช้ได้เลย ตอนซื้อก็ต้องลองขับว่าเกียร์ทำงานนุ่มนวล ราบเรียบ ฉับไว อยู่หรือเปล่า ถ้าขับแล้ว “วึ่นวือ” กระตุกๆ ลื่นๆ ก็หาคันอื่นเถอะครับ…
- หน้าเชิด ท้ายห้อย อันนี้เป็นตั้งแต่ J31 รุ่นแรกแล้ว ทำให้ดูแล้วตลกๆ หน่อย ขนาดรถไม่ติดแก๊สนะ ถ้าจะจัดทรงก็ต้องยอมเปลี่ยนโช้คอัพและสปริงของแต่งที่สามารถปรับความสูงได้มาใช้แทน แต่ถ้า “งบน้อย” ก็ “รองสปริงหลัง” เอา แต่มันก็ช่วยในระดับหนึ่งเท่านั้น…
SUZUKI SWIFT GLX MY 2015
เป็น ECO Car อีกรุ่นที่ยอดนิยมมากๆ มาแรงไม่แพ้เพื่อน H ยอดฮิต สำหรับ “สวิฟท์” รุ่น GLX ที่เป็นตัวท๊อป ถ้าจะย้อนถึง Gen 1 ที่ตอนแรกมาเป็น 1.5 ลิตร ก็ดูเงียบๆ เพราะ “ทรงมันเรียบเฉยเหลือเกิน” มันก็สวยแต่ต้องดูนานๆ แต่พอ Gen 2 ปรับโฉมให้ดูสวยงามทันสมัย โดนใจวัยรุ่น ก็เลยกลับมากระเตื้องอีกครั้ง…
สิ่งที่น่าคบ
- ด้วยความที่มันเป็นบอดี้ 5 ลิตร เลย “ได้ใหญ่” ดีไซน์ภาพรวมทั้งภายนอกและภายใน “ดี” ดูแล้วสปอร์ตมีแนวของตัวเอง ยิ่งภายนอกทำแล้วเหมือน “มินิ” ก็ทำให้ดูน่าแต่งมากขึ้น แค่ภายนอกเดิมๆ เติมล้อสวยๆ จัด Fitment พอดีๆ มันดูสปอร์ตและน่ารักไปด้วยกัน ทัศนวิสัยดีมาก กระจกหน้ามีมุมมองกว้าง หลังคาสูง มีระบบ Smart Entry Key…
- เครื่องยนต์ ถ้าเดิมๆ ติดรถ อัตราเร่งดี ขับสนุก ความจุจะเหนือกว่าชาวบ้านเขาหน่อยๆ อยู่ที่ 1,242 ซีซี. ส่วนระบบช่วงล่าง เซ็ตมาได้ดี ไม่แข็งกระด้างหรือนิ่มย้วยโย้เย้เกินไป…
- ของแต่งไทยมีน้อยกว่าค่ายอื่นในลักษณะ ECO Car ด้วยกัน โดยเฉพาะของแต่งเพิ่มแรงม้าทั้งหลาย…
สิ่งที่ต้องพิจารณา
- ระบบเซนเซอร์ไอเสียพังง่าย ไฟโชว์บ่อย…
- ของแต่งถ้าจะเล่นของญี่ปุ่นแท้ๆ ราคาโหดใช้ได้ ตรงข้ามตัวรถเลยล่ะครับ…
- ถ้าจะโมดิฟายแรง ก็จะมีข้อจำกัดกว่าสาย H หรือ T อยู่ จริงๆ สามารถโมดิฟายได้ครับ แต่ถ้าขับใช้งานก็อย่าไปยุ่งกับตัวเครื่องดีกว่า แค่ “รีแม็พ” หรือ “พ่วงกล่อง” ขับสนุกขึ้นก็พอ…
- แร็คพวงมาลัยชอบมีเสียงดัง ขนาดรถป้ายแดงก็ยังเป็น เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้…
HONDA CR-V 2.4 EL MY 2010
ปิดท้ายกับ Crossover SUV ยอดฮิตตลอดกาล กับ CR-V (Comfortable Runabout Vehicle) ที่ได้รับความนิยมมากจากสายครอบครัว ด้วยความที่เป็นรถสูงก็จริง แต่ยังใช้พื้นฐานของรถเก๋ง เลยทำให้รถขับได้ดี นุ่มนวลกว่ารถเก๋ง ลุยได้บ้างแต่ไม่ Hardcore แบบ Off – Road SUV แถมความอเนกประสงค์ จึงได้รับความนิยมมาก…
สิ่งที่น่าคบ
- ในรุ่น Gen 3 นี้ ภายนอกก็ดูสวยหรูหราดีนะ ถ้าจะเล่นแนะนำ 4 EL รุ่นท๊อปไปเลย ได้ Option ครบ มี Cruise Control, แอร์แบ็กคู่, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ฯลฯ ภายในก็กว้างขวาง นั่งสบายแน่นอน ตัวปี 2008 ขึ้นมา ก็อาจจะเลยไปถึง “สามกลาง” แต่เพิ่มอีกหน่อย ก็น่าจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ เพราะราคาก็ไม่ได้แพงกว่า 2.0 แบบมากมายอะไรนัก…
- เครื่องยนต์ K24A อันนี้คงไม่ต้องคุยกันมากนะครับ เรียกว่าเป็น “ฮอตฮิตประจำยุค” ไปแล้ว ทันสมัยด้วยระบบ DOHC i – VTEC อะไหล่เพียบ อัตราเร่งดี แรงม้ามีถึง 173 PS เพียงพอกับการเร่งแซง หรือ วิ่งทางไกล แบบสบายๆ…
- ระบบช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ ให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย…
สิ่งที่ต้องพิจารณา
- ด้วยความที่เป็นรถแนว SUV ตัวสูง ต้านลม ทำให้ “กินน้ำมันมาก” จนบางทีก็สะอึกๆ ตอนเติมเหมือนกัน ถ้าเป็นรถที่ติดแก๊สมาแล้ว ก็ต้องเข้าใจว่า HONDA “ไม่อึดกับแก๊ส” สักเท่าไร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับช่างและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง รวมไปถึงการจูนปรับส่วนผสมด้วย เพราะบางคันใช้ได้ดีก็มี…
- แร็คไฟฟ้ามีปัญหา ถ้าเป็นรถ “ไมล์เกินแสน” ถ้าโชคไม่ดีเจอคันที่เริ่มมีปัญหาก็จะเหนื่อยหน่อย เบิกใหม่ประมาณ “สี่หมื่น” ไม่ถูกเหมือนกัน ของมือสองก็ “สองหมื่น” ถ้า “ซ่อม” ก็ประมาณ “สี่ซ้าห้าพัน” แต่ก็อยู่ได้ชั่วคราว…
หมายเหตุ
- รถแต่ละรุ่น แต่ละปี ราคาอาจจะมีความแตกต่างกัน ตามสภาพรถ ความนิยมของสี อุปกรณ์เสริมต่างๆ ของแต่งต่างๆ และ ความพึงพอใจในการตั้งราคาซื้อขายระหว่างเจ้าของรถกับผู้ซื้อ
- ภาพที่ใช้เพียงประกอบเรื่อง รายละเอียด สเป็กต่างๆ ในภาพ อาจจะต่างจากรถที่มีขายอยู่ในประเทศไทย
- ยังมีรถอีกหลายรุ่นที่น่าใช้ในงบประมาณที่กำหนดนอกเหนือจากที่เราได้แนะนำไป สามารถศึกษาเพิ่มได้ตามความชอบ
เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th