ท่าทางจะดราม่าอีกยาว ผู้บริหารโกเบ สตีล บริษัทผลิตโลหะอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก้มหน้ารับสภาพอาจต้องตรวจสอบคุณภาพการผลิตย้อนหลังไปถึง 10 ปี หลังจากพบข้อมูลเพิ่มเติมว่าส่งโลหะผงไม่ได้คุณภาพให้โรงงานผลิตเกียร์อีกล็อตใหญ่ นอกเหนือจากอลูมิเนียม และทองแดงกว่า 40,000 ตัน โดยเจเนอรัล มอเตอร์ส ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เป็นรายล่าสุดที่ออกมายอมรับว่าสั่งซื้อวัตถุดิบจากบริษัทแห่งนี้ จนทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่เฉยไม่ได้ ออกมากำหนดเส้นตายขอคำชี้แจ้งภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้สั่นคลอนความเชื่อมั่นที่มีต่ออุตสาหกรรมของประเทศมากไปกว่านี้

• เจเนอรัล มอเตอร์ส ติดร่างแห-เร่งตรวจคุณภาพรถ
• รัฐบาลญี่ปุ่นขีดเส้นตายชี้แจ้งภายใน 2 สัปดาห์

ในการแถลงข่าวของผู้บริหารโกเบ สตีล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีการปลอมแปลงข้อมูลคุณภาพการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทำให้มีการส่งมอบอลูมิเนียม และทองแดงที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานให้ลูกค้าราว 200 บริษัท รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งโตโยต้า, นิสสัน, ฮอนด้า, มาสด้า, ซูบารุ และซูซูกิ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2016–31 สิงหาคม 2017

หลังจากความผิดแรกถูกเปิดโปงออกมาเพียง 3 วัน โกเบ สตีล แถลงการณ์เพิ่มเติมว่าตรวจสอบเจอการปลอมแปลงข้อมูลคุณภาพโลหะผง (Steel Powder) จำนวน 140 ตัน ที่ส่งมอบให้ผู้ผลิตรายหนึ่งที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ โดยวัตถุดิบนี้จะใช้เป็นส่วนประกอบในการขึ้นรูปผลิตเกียร์ และชิ้นส่วนรถยนต์ รวมทั้งเจอข้อมูลว่าโกเบลโก สถาบันวิจัยในเครือ มีการปลอมแปลงคุณภาพชิ้นส่วน 6,611 รายการที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตเครื่องอ่านแผ่นซีดี และจอภาพแอลซีดี ให้กับลูกค้า 70 ราย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2011

อ่านข่าว ค่ายรถญี่ปุ่นสะเทือน-ใช้อลูมิเนียมเกรดต่ำผลิตรถนานร่วมปี

แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าอลูมิเนียม และทองแดง 40,900 ตัน มีการส่งออกสู่ต่างประเทศหรือไม่!!!

จนทำให้ฮิโรยะ คาวาซากิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโกเบ สตีล ต้องออกมาแถลงข่าวพร้อมแสดงการขอโทษด้วยการโค้งคำนับต่อหน้าสื่อมวลชน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าการปลอมแปลงข้อมูลอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในญี่ปุ่น และจะทำการตรวจสอบขั้นตอนการผลิตของโรงงานในต่างประเทศ รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีเป็นอย่างต่ำ

ฮิโรยะ คาวาซากิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโกเบ สตีล

“ความน่าเชื่อถือของโกเบ สตีล ร่วงหล่นลงไปอยู่ในจุดต่ำสุด เราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” คาวาซากิ กล่าวต่อหน้าสื่อมวลชน โดยเขายังเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายถึงขั้นต้องเรียกคืนรถยนต์เพื่อกลับมาเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานที่อาจจะนำไปสู่การจ่ายเงินชดเชยมหาศาล

อย่างไรก็ตามกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กดดันโกเบ สตีล ให้รายงานผลการตรวจสอบความปลอดภัยภายใน 2 สัปดาห์ รวมทั้งชี้แจงสาเหตุของการปลอมแปลงข้อมูล รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันในอนาคตให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือนอีกด้วย

นอกเหนือจากบริษัทรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น เจเนอรัล มอเตอร์ส 1 ในบิ๊กทรีของอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ ออกมายอมรับว่ามีการสั่งซื้อวัตถุดิบจากโกเบ สตีล โดยพวกเขาจะดำเนินการตรวจสอบชิ้นส่วน และอุปกรณ์ที่ผลิตว่าปลอดภัยหรือไม่อย่างเร่งด่วน ด้วยการที่มีหลายแบรนด์ในเครือไม่ว่าจะเป็น เชฟโรเลต, คาดิแล็ก, บิวอิค, จีเอ็มซี, โฮลเด้น และวูลิ่ง

“เจเนอรัล มอเตอร์ส รับรู้ถึงรายงานข่าวของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพจากโกเบ สตีล ในส่วนของอลูมิเนียม และทองแดง เรากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบถึงผลกระทบ และจะไม่ขอให้ความเห็นเพิ่มเติมในตอนนี้” นิก ริชาร์ดส โฆษกของเจเนอรัล มอเตอร์ส ออกมายืนยัน

ทางด้านโฆษกของนิสสัน ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เราสามารถยืนยันได้ว่ามีการนำอลูมิเนียมจากโกเบ สตีล มาใช้เพื่อผลิตฝากระโปรงหน้า และประตูรถยนต์บางรุ่นของบริษัท โดยฝากระโปรงหน้ามีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของคนเดินถนน (ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ) เรากำลังเร่งทำงานเพื่อประเมินว่าจะมีผลกระทบใดต่อการใช้งานของรถยนต์หรือไม่”

ในปัจจุบันอลูมิเนียมเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตโครงสร้างตัวถังรถยนต์, ชิ้นส่วนเครื่องบิน และรถไฟความเร็วสูงจากการที่มีน้ำหนักเบาทำให้ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ทำให้ความผิดพลาดของโกเบ สตีล ขยายวงกว้างเกินกว่าที่จะคาดการณ์ได้ รวมทั้งสร้างความสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าที่ปั๊มตรา ‘Made in Japan’ ที่คนทั่วโลกเคยยกย่องมาตลอดหลายทศวรรษ

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Automotive News/Bloomberg

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th