ผู้เชี่ยวชาญฟันธง-รถยนต์ไร้คนขับต้องรออีก10ปี! (ชมคลิป)
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Drive) ได้รับการพูดถึงในวงกว้าง ทั้งการโชว์ความก้าวหน้าจากบริษัทรถยนต์, ผู้ผลิตชิ้นส่วน หรือแม้กระทั่งผู้ให้บริการรถยนต์ร่วมโดยสาร (Ride-hailing Service) จนทำให้คนทั่วไปเชื่อว่าอีกไม่นานพวกเขาจะสามารถเดินทางด้วยการเพียงขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ และเลือกจุดหมายที่ต้องการเท่านั้น
แต่ความจริงที่ไม่ได้รับการเปิดเผยตรงกันข้ามกับสิ่งที่ถูกนำเสนอสู่สาธารณชนอย่างสิ้นเชิง โดย Richard Truett คอลัมนิสต์ประจำเว็บไซต์ Automotive News ระบุว่าจากการสอบถามความเห็นผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมรถยนต์ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ารถยนต์ไร้คนขับที่มีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดเวลาที่อยู่บนถนนจริงในทุกสถานการณ์ และในทุกสภาพอากาศของประเทศสหรัฐฯ จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
…และอาจต้องใช้เวลาทดสอบอีกไม่น้อยกว่า 1 ทศวรรษหรือนานกว่านั้น
ตามการประเมินของ Raj Rajkumar ผู้อำนวยการร่วมโครงการทดลองรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กับ General Motors ที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ศึกษาเทคโนโลยีแบบเดียวกันจากมหาวิทยาลัย และโครงการทดลองอื่นๆ จากประสบการณ์ที่พวกเขาเริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ทศวรรษ 1980
https://youtu.be/A5QFXrpQ-ps
การพัฒนาเผชิญอุปสรรคในหลายด้านที่จะสร้างรถยนต์ไร้คนขับที่เพอร์เฟ็กต์ และสามารถผลิตขายจริงจะต้องคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารตั้งแต่เปิดประตูขึ้นรถจนถึงจุดหมาย โดยที่คนไม่ต้องควบคุมถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการพัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุรอบคันเป็นการทำงานร่วมกับกล้อง, เซนเซอร์วัดแสง (LIDAR: Light Detection and Ranging) และระบบเรดาห์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าในปัจจุบันที่สามารถใช้งานภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งหมดยังต้องใช้ต้นทุนการผลิตที่สูงมาก
https://youtu.be/0CyBbX9jiQE
- โปรแกรมประมวลผลต้องมีการทำงานที่สมบูรณ์แบบในการเชื่อมต่อระบบควบคุมรถยนต์กับอุปกรณ์ตรวจจับรอบคัน โดยต้องสามารถเข้าใจสถานการณ์จริงบนท้องถนนตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ, สัญญาณมือของตำรวจจราจร และคนข้ามถนน
- สิ่งอำนวยความสะดวกบนท้องถนนจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา ทั้งเส้นแบ่งช่องจราจร, ป้ายสัญญาณ และสะพาน รวมทั้งการสื่อสารระหว่างรถยนต์จนถึงการสื่อสารกับระบบจราจร เพื่อให้การขับมีความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ และระดับความเร็ว
“ในฐานะมนุษย์เราใช้สามัญสำนึก และหลักเหตุผลเพื่อนำมาดัดแปลงใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งเสมอไปที่เราตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง” Rajkumar ให้ความเห็น “คอมพิวเตอร์มีกระบวนการคิดที่ซับซ้อน แต่น่าเสียดายที่ขาดสามัญสำนึกบางอย่างในแบบมนุษย์ รถยนต์ไร้คนขับสามารถทำในสิ่งที่ถูกโปรแกรมไว้ว่าต้องทำอย่างไรเท่านั้น ระบบควบคุมยังไม่สามารถจัดการกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นบนถนน”
คำพูดของ Rajkumar คงทำให้หลายคนที่รับรู้ข้อมูลจากฝั่งบริษัทรถยนต์รู้สึกสับสน ถึงจะมีเพียงไม่กี่รายที่ประกาศแผนจะสร้างรถยนต์ไร้คนขับที่แท้จริงในระดับ 5 ตามการแบ่งของ Society of Automotive Engineers แม้กระทั่ง Ford ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายเพียงแค่ระดับ 4 ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีพวงมาลัยควบคุม, ไม่มีแป้นคันเร่งหรือเบรก ซึ่งเป็นแนวทางในการรองรับธุรกิจรถยนต์ร่วมโดยสารที่คาดว่าจะได้รับความนิยมสูงขึ้นในอนาคต
ในขณะที่ General Motors คู่แข่งสำคัญของพวกเขาทำเพียงแค่การใช้ Chevrolet Volt ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับรับส่งพนักงานในศูนย์เทคนิค ที่เมืองวอร์เรน รัฐมิชิแกน เท่านั้น หรือจะเป็นเบอร์หนึ่งของฝั่งญี่ปุ่น Akio Toyoda ประธาน Toyota ให้ความเห็นระหว่างร่วมงานปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบของพวกเขาจะมีชื่อว่า Chauffer Mode แต่ต้องใช้เวลาทดสอบอีกยาวนาน
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณภาพ : Ford Media/ Tesla Motors
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th