รถเด็ด!! เตรียมเปิดตัวในไทย เร็วๆนี้
ปีนี้ดูว่าตลาดรถยนต์ในเมืองไทยจะคึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งผู้บริหารค่ายรถยนต์ยักษ์ใหม่หลายค่าย ก็ต่างคาดการณ์ว่าปี2561นี้ยอดขายรวมของตลาดรถยนต์ไทยน่าจะไปแตะที่ 900,000 ขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.4% เพราะมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ GDP ที่ 3.9%* รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีส่วนในการกระตุ้นตลาดให้เติบโต และการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่ายรถยนต์ต่างๆ
และเหล่ารถยนต์ใหม่ที่ค่ายรถยนต์ต่างๆมีแผนกำลังจะเปิดตัวในปีนี้เห็นจะมีเด็ดอยู่ 4 รุ่นที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ วันนี้ราเลยรวบรวมข้อมูลคร่าวๆของทั้ง 4 รุ่น ใหม่นี้ให้ได้รู้จักกันก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปะเทศไทย
NEW SUZUKI SWIFT
เรามาเริ่มจากอีโคคาร์ จากค่ายที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อรถยนต์เล็กอย่าง ซูซูกิ ที่ส่งเจ้า ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้จับจองกันในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ที่กำลังจะถึงนี้ เรามาทำความรู้จักเจ้าสวิฟท์ ใหม่คันนี้กันเลย รูปลักษณ์ภายนอกเสริมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม กระจังหน้า 6 เหลี่ยมที่ดีไซน์ดุดัน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ รวมไปถึงหลังคาที่ลาดลงช่วยเอื้อต่อการรีดอากาศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาบนบนแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Heartect ซึ่งทำให้รถมีสมรรถนะที่ดีขึ้น และยังมีการออกแบบโครงสร้างใต้ตัวถังและมีการจัดวางส่วนประกอบใหม่ทั้งหมด ตัวถังใหม่มีน้ำหนักเบากว่าในรุ่นปัจจุบันถึง 41% แถมแข็งแรง และมีความปลอดภัยมากอีกด้วย โดยมีความยาวและความสูงที่ลดลง 10 มิลลิเมตร แต่ความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้นไปอีก 20 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น และมีเนื้อที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นอีก 25% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
Dual JET เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12C 4 สูบ DOHC 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. ระบบหัวฉีดคู่ Dual Jet กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 118 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ CVT
FORD RANGER RAPTOR
มาต่อกันที่รถปิคอัพ ที่ต้องยอมรับครับว่าค่ายฟอร์ดเค้าออกแบบมาได้โดนใจมากจริงๆ และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ ทาง ฟอร์ด ประเทศไทย จะทำการเปิดตัวรถปิคอัพสุดเท่ห์อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ซึ่งรูปลักษณ์การออกแบบบ่งบอกถึงความแกร่ง รวมถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด จึงน่าจะเป็นกระบะเซ็กเมนท์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยโดยมีรายงานข่าวว่า ฟอร์ด เตรียมวางให้ เรนเจอร์ แร็ปเตอร์ เป็นกระบะพรีเมียม ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูง และความสามารถด้านการขับขี่อันเหนือชั้นอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์ใหม่ ที่จะถูกนำมาจำหน่ายในประเทศไทย เป็นครั้งแรกนั้นก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว EcoBlue TDCi ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบมีครีบ VG Turbo พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 190-210 แรงม้า ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบการขับขี่ TMS ถึง 6แบบทั้ง Normal , Sport ,Weather,Mud/Sand,Baja,Rock/Gravel
MITSUBISHI EXPANDER
ดีไซน์ภายนอก มันคือการผสมผสานกันระหว่างรถยนต์แบบ SUV และ MPV เข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือการออกแบบโครงตัวถังรถยนต์ที่ดูปลอดโปร่งและมีสไตล์ในแบบรถยนต์ MPV แต่มีเส้นสายและมีบุคลิกที่แข็งแกร่งดุจรถยนต์ SUV ดีไซน์ด้านหน้า Dynamic Shield มีรูปโฉมปราดเปรียวล้ำสมัย แต่ออกแบบให้ปกป้องอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุชนผู้คนเดินบนทางเท้า ซุ้มโป่งล้อหนาใหญ่ในแบบรถยนต์ SUV ตำแหน่งบนสุดคือไฟ LED Daytime Running Light และ ไฟหรี่ ตำแหน่งตรงกลาง คือ ไฟหน้าปกติ แบบฮาโลเจน อยู่เหนือไฟเลี้ยว ล่างสุด คือไฟตัดหมอก ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว มือเปิดประตูภายนอกโครเมี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไฟหรี่ไฟท้ายแบบ LED Tube ไฟเบรกดวงที่ 3 ทางมิตซูบิชิยังไม่บอกว่าจะเปิดตัวและขายเมื่อไหร่ อดใจรออีกนิดนะครับ
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ยังไม่มีการระบุตัวเลขพละกำลังออกมา บอกแต่เพียงว่าจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ (ขับเคลื่อนล้อหน้า) ทางบริษัทเคลมว่าให้พละกำลังสูง และประหยัดน้ำมัน ตัวรถมีการพัฒนาให้สามารถขับขี่อย่างสบายและให้ความมั่นใจขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง เนื่องจากโครงสร้างตัวถังถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะทนต่อการบิดตัวสูง และมีการปรับปรุงช่วงล่างให้ดีที่สุดจนเห็นความแตกต่างจากรถยนต์ MPV คันอื่น
TOYOTA C-HR
TOYOTA C-HR จะใช้พื้นฐานตัวรถ หรือ Platform พัฒนาขึ้นใหม่ Toyota New Global Architecture (TNGA) เช่นเดียวกับ Toyota Prius, Toyota Camry และ รุ่นอื่นๆที่จะตามมานับจากนี้ ภายนอกดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ออกแบบมาได้เก๋ไก๋มากครับ ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-LED (Full LED) พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ มีเส้นสายยาวจากโลโก้ ดูสปอร์ต ล้ำสมัย ไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนไฟท้ายรูปทรงบูมเมอแรงแบบ Full LED ด้านหลังรถตรงที่เปิดฝาท้ายกระโปรงมีติดกล้องถอยหลังมาให้ ล้อแม็ก มีขนาด 17 นิ้ว จะปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือน มีนาคม 2561 นี้
TOYOTA C-HR มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือ
เบนซิน 1.8 รหัส 2ZR-FBE 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูเล่ย์ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำม้น E85
เบนซิน 1.8 Hybrid รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง DOHC Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) 28 Modules 6.5 Ah รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ภาพ: drivemag.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th