ปี2018กำลังจะผ่านพ้นไปกับตัวเลขยอดขายรถรวมที่น่าชื่นใจเพราะ11เดือนผ่านขายได้ถึง 928,158 คัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 17.9% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 23% สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาอย่างต่อเนื่องทั้งปีไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุนและการใช้จ่ายส่งผลให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และคาดการณ์ว่าจะไปแตะที่ 1 ล้านคันภายในเดือนธันวาคม2018อย่างแน่นอน  ในปี2019ที่กำลังจะมาถึงนี้คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์คงจะคึกคักไม่น้อยเพราะน่าจะมีรถยนต์อีกหลายรุ่นทยอยเริ่มเปิดตัวกันในปีหน้าแถมน่าจะมีรถใหม่กันอีกหลากหลายรุ่นในปี2019 ว่าแต่รถยนต์ที่จะมาเปิดตัวในปี2019นั้นจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันแบบเรียกน้ำจิ้มกันก่อนเลย เพราะหลายค่ายยังคงเก็บไว้เป็นความลับอีกหลายรุ่น

ALL NEW MAZDA 3

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย มีแผนที่จะทำการเปิดตัว มาสด้า 3 รุ่นใหม่ล่าสุดในช่วงกลางปี 2019 ภายนอกของ All NEW Mazda 3 กระจังหน้ารังผึ้งขนาดใหญ่ดูหรูหรามากว่ารุ่นก่อนหน้า ไฟหน้าทรงเพรียวยาว ดูโดดเด่นปราดเปรียว ตัวถังหน้ายาวท้ายสั้น และไฟท้ายโดนัท ทำให้ผมนึกถึงรถยนต์สุดหรูอย่าง Ferrari GTC4 Lusso ด้านท้ายดูผ่านๆนี่เกือบแยกไม่ออกเลยทีเดียวเรียกได้ว่าถ้าเปลี่ยนโลโก้เป็นม้านี่ใช่เลย ฮาฮา ท่อไอเสียออก 2 ฝั่ง และเสาหลังคา D-Pillar ที่ค่อนข้างลาดเอียงแต่น่าจะไม่ลาดเอียงเท่ากับรถยนต์ต้นแบบ เพราะถ้าลาดเอียงขนาดต้นแบบมันจะบรรทุกของอะไรไม่ได้ นั้นคือเหตุผลที่หลายคนสงสัยว่าทำไมผลิตออกมาขายไม่เหมือนต้นแบบ เพราะถ้าเหมือนเลยมีจะไม่สะดวกต่อการใช้งานครับ

ห้องโดยสารจะดูพรีเมี่ยมหรูหราไฮโซมากขึ้น เพราะมาสด้าจะขึ้นไปเทียบชั้นกับรถจากฝั่งยุโรป ภายในจะตกแต่งด้วยหนัง และวัสดุบุนุ่มรอบคันให้สัมผัสที่หรูหรา หน้าจอแสดงผลอาจเป็นแบบดิจิตอลเต็ม ตำแหน่งเบาะคู่หน้าเตี้ยลงเพื่อให้สัมผัสถึงอารมณ์สปอร์ต ด้านหลังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน

ด้านขุมพลัง คาดว่าเป็น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร SKYACTIV-X ที่ทั้ง แรงขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเครื่องยนต์ตัวนี้ทำงานได้ 2 รูปแบบทั้งการจุดระเบิดด้วยหัวเทียนเหมือนเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป และ เผาไหม้ด้วยการอัดอากาศเหมือนเครื่องยนต์ดีเซล โดยที่ยังใช้เชื้อเพลิงเบนซินอยู่ แต่เจ้า All NEW Mazda 3 ก็มีเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G และเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D จาก Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน ให้เลือกด้วยนะ ส่วนเรื่องราคาคาดว่าน่าจะปรับเพิ่มกว่ารุ่นปัจจุบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือไม่อาจจะขายราคาเดิมก็เป็นได้

ALL NEW SUZUKI ERTIGA

All New Suzuki Ertiga คันนี้ต้องบอกว่าคิดคาดครับ พราะทางเราคาดการณ์ว่าจะมาเปิดตัวในไทยปลายปี2018 แต่ไม่มาครับอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถนำเข้ามาขายได้ภายในปี 2018 เหตุผลหนึ่งที่ผมคาดก็คือผมทราบมาว่าไอ้เจ้า Suzuki Ertiga ได้รับความนิยมมากในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ และประเทศไทยก็นำเข้ามาจากอินโนนีเซีย ก็เพราะว่ามันขายดีจึงผลิตไม่ทันว่าง่ายๆโควต้าที่จะเข้ามาในไทยก็เลยต้องเลื่อนออกไป แต่เข้ามาขายไทยแน่นอนในปี 2019 ที่กำลังจะถึงนี้

ภายนอกกันก่อนเลยว่า All New Suzuki Ertiga 2018  (ออล นิว ซูซูกิ เออร์ติก้า 2018) มันสวย มันหรู มันน่าใช้ขนาดไหน แน่นอนครับมันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์กลุ่ม MPV 7 ที่นั่ง เหมือนเดิม และก็คาดว่านำเข้ามาจาก อินโดนีเซียเช่นเดิม เพราะรถยนต์เซ็กเม้นท์นี้ฮอตฮิตมากในประเทศอินโดนีเซีย และสำหรับเจ้า All New Suzuki Ertiga 2018 นี้เป็นรถยนต์อีกรุ่นที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม HEARTECT (ฮาร์ทเทค) โครงสร้างน้ำหนักเบาลง ความแข็งแรงมีมากขึ้น ซึ่งรุ่นเก่าไม่มีเทคโนโลยีนี้ครับ รูปร่างหน้าตาโดยรวมของ All New Suzuki Ertiga 2018 มีความภูมิฐาน เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เพราะหน้าตารุ่นเก่าจะออกไปทางวัยรุ่นหน่อยและสปอร์ตกว่า รุ่นใหม่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมในทุกมิตินะครับ อุปกรณ์ภายนอกที่ให้มาหรูหราขึ้นความเดิมอัพเกรดดีไซน์กระจังหน้า และเส้นสายด้านข้างตัวรถให้มีความหรูหราโดดเด่น ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์, ไฟท้าย LED Tube , ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว ยาง 185/65/15 ดีไซน์ใหม่ดูหรูหราขึ้น , ระบบเปิด-ปิดประตูอัจฉริยะ และสัญญาณเซ็นเซอร์ 2 จุดเตือนเวลาถอยหลัง

ภายในให้สีเบจ เลือกการตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ที่คอนโซลหน้าไหลเชื่อมต่อที่ประตูข้างและพวงมาลัย เบาะที่นั่ง 3 แถว เบาะแถวสองสามารถพับได้ 60/40 เบาะแถวสามพับได้ 50/50 ความจุสูงสุด 803 ลิตร ให้จุดเชื่อมต่อไฟแถวสอง มีกิมมิคเล็ก ๆ อย่างที่วางกระป๋องในคอนโซลกลางมีช่องแอร์เป่าให้เย็น

เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว  ขนาด 1,462 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 104.7 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ระบบดิสก์เบรก ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริง ระบบดรัมเบรก ระบบความปลอดภัยให้ชุดถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกกันล้อล็อก ABS, กระจายแรงเบรก EBD ช่วยการทรงตัว ESP และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX

ALL NEW HONDA ACCORD

มาแน่นอน Honda Accord 2018 ถูกพัฒนามาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 ดีไซน์ภายนอกของ Accord 2018 ใหม่ นับเป็นการพลิกโฉมไปจากเดิมอย่างชัดเจน ด้วยไฟหน้าแบบ Full-LED ที่ประกอบด้วยหลอดแอลอีดีจำนวน 9 หลอดในแต่ละข้าง รับกับกระจังหน้าโครเมียมและช่องดักลมขนาดใหญ่บริเวณกันชน ด้านข้างออกแบบให้ตัวถังดูเพรียวมากขึ้น เส้นสายดูเฉียบคม เพิ่มกระจกโอเปร่าคู่หลังช่วยทำให้รถดูยาวมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายแบบ LED ถูกออกแบบให้เป็นรูปตัว C ดีไซน์แปลกตาจากรุ่นที่แล้ว พร้อมท่อไอเสียแบบคู่ มิติตัวถัง ยาว x กว้าง x สูง : 4,920 x 1,860 x 1,450 มิลลิเมตร (สั้นลง 10 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร, เตี้ยลง 15 มิลลิเมตร) ระยะฐานล้อ : 2,830 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 55 มิลลิเมตร)

ภายในห้องโดยสารของ แอคคอร์ด 2018 ใหม่ เน้นความหรูหราและเพิ่มฟังก์ชั่นมากขึ้น เบาะนั่งออกแบบให้มีช่วงไหล่ที่หนาขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร สามารถปรับไฟฟ้า 12 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ พร้อมระบบดันหลังปรับสูง-ต่ำได้ รวมถึงเพิ่มระบบอุ่นเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้ ติดตั้งระบบอินโฟเทนเม้นท์หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมระดับเสียงและเปลี่ยนคลื่นวิทยุแบบหมุน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ รองรับระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย, NFC, Wi-Fi ผ่านระบบ 4G LTE, รองรับการอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่าน Wi-Fi โดยเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ยังมาพร้อมระบบ Honda Link ที่สามารถใช้งานระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน, ระบบล็อค/ปลดล็อคและสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล, ระบบติดตามรถหาย, ระบบตรวจจับความเร็ว

เครื่องยนต์ที่คาดว่าจะนำมาขายในไทยจะมี 2 เครื่องยนต์คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ Dual VTC ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT (แทนเครื่องเบนซินขนาด 2.4 ลิตร)  และเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 3 Two-motor hybrid system (โดยแยกให้มอเตอร์ 1 ตัว ไว้เร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง และใช้มอเตอร์อีกตัวทำหน้าที่สตาร์ตเครื่องยนต์) ทำงานประสานกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร VTEC ให้กำลังรวมกันทั้งระบบ 212 แรงม้า ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่มีฟังก์ชัน Sport Mode และ Deceleration Selectors และมีการปรับปรุงใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 มีการย้ายชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion จากท้ายรถ มาไว้ที่ใต้เบาะนั่งด้านหลัง

ALL NEW TOYOTA COROLLA (ALTIS) SEDAN

โตโยต้า โคโรล่า หรือ โตโยต้า อัลติส ที่บ้านเราเรียกกัน งานดีไซน์ภายนอก ถูกแบ่งออกเป็น 2 ดีไซน์ คือ แบบเรียบหรู Prestige และ แบบสปอร์ต Sporty ไม่รู้บ้านเราจะขายโฉมไหน แต่คาดว่ามาแน่ในปี 2019 นี้ ทั้งหมดทุกโฉมสร้างบนพื้นฐานแพลตฟอร์ตใหม่ TNGA Platform : Toyota NEW Global Architecture มิติตัวถัง ยาว x กว้าง x สูง : 4,640 x 1,780 x 1,435 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมจะยาวขึ้น 20 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 5 มิลลิเมตร เตี้ยลง 25 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม Toyota Corolla

ในตลาดโลก ทั้ง 3 รูปแบบตัวถังCorolla Wagon ,Corolla Hatchback ,Corolla Sedan ที่จะขายไทยน่าจะเป็นตัวซีดานนี่ละครับ กระจังหน้า 2 แบบให้เลือกด้วยกันคือกระจังหน้าแบบ Sporty (สีส้ม) และ Prestige (คันสีบรอนซ์) ซึ่งในประเทศจีนนั้นจะมีให้เลือกทั้ง 2 แบบ ส่วนบ้านเราก็อาจจะต้องลุ้นกันว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบไหน สำหรับภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่หรูหรา เร้าอารมณ์ แผงหน้าปัดต่ำสบายตาเบาะนั่งคู่หน้าสปอร์ตสวยงาม

• เครื่องยนต์ เบนซิน 1.6 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ปรับปรุงใหม่ กำลังสูงสุด 132 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT หรือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราสิ้นเปลือง 17.24 km/l ปล่อย CO2 132/km.
• เบนซิน 1.8 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FAE ขนาด 1.8 ลิตร ที่ปรับปรุงใหม่ เพิ่มพละกำลัง และ อัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น
• เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT
• เบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส M20A-FKS ขนาด 2.0 ลิตร Dynamic Force D4-S VVT-iE อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ Dynamic-Shift CVT ที่มีโปรแกรมอัตราทดเกียร์เสมือน 10 จังหวะ

เราต้องคอยและรอลุ้นกันว่าเจ้า ALL NEW TOYOTA COROLLA (ALTIS) SEDAN จะมาในรูปโฉมไหนแล้วจะมีเครื่องยนต์อะไรให้คนไทยได้จับจองเป็นเจ้าของบ้างปีหน้ารู้กันครับ

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

ภาพ : netcarshow.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th