รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023
รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023 เริ่มแล้วกับงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอย่าง Bangkok International Motorshow 2023 ซึ่งงานนี้มีรถยนต์รุ่นใหม่มากมายหลายหลายรุ่น ตบเท้าเข้ารวมอวดโฉมกันแบบไม่มีใครยอมใคร วันนี้เรามาพามารู้จักรถยนต์เด่นภายในงานนี้ว่ามีอะไรกันบ้าง รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023 รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023
BMW
XM
XM 2023 รถยนต์สมรรถนะสูงแบบ Crossover SUV ขนาดใหญ่ 5 ที่นั่ง จากแผนกมอเตอร์สปอร์ตของ BMW เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 653 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 14,899,000 บาท มาพร้อมกับการออกแบบของ BMW ยุคใหม่ที่ดูโมเดิร์น ตั้งแต่การใช้กระจังหน้า Kidney Grille ทรงแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ ไฟหน้าสองชั้น โดยด้านบนเป็นไฟวิ่งกลางวันและซ่อนไฟใหญ่ไว้ที่มุมกันชน ส่วนพื้นผิวตัวถังเน้นสันเหลี่ยม พร้อมกับใช้สีทองเพิ่มความโดดเด่นตามจุดต่าง ๆ รอบคัน
ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมกันระหว่างความโมเดิร์น พรีเมียม ความคลาสสิก และความสปอร์ต BMW XM 2023 ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (M Hybrid) ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ วี 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 489 แรงม้า ที่ช่วง 5,400-7,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ช่วง 1,600-5,000 รอบ/นาที ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 197 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร
โดยมีกำลังรวมกันทั้งระบบ 653 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง (และ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน) ส่วนระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนทำได้ 82-88 กิโลเมตร
i4 eDrive35 M Sport รุ่นปี 2023 ใหม่
i4 eDrive35 M Sport ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ระบบไฟหน้า LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assistant ชุดตกแต่งภายนอก M Aerodynamics ระบบเบรก M Sport, สปอยเลอร์ท้าย M ระบบช่วงล่าง Adaptive M พวงมาลัย Variable sport steering และล้ออัลลอย M aerodynamic สี Bicolour ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ M Sport มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม. และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 70.2 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุดราว 483 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP เคาะราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 3,899,000 บาท
HYUNDAI
Stargazer
Stargazer (ฮุนได สตาร์เกเซอร์) รถอเนกประสงค์แบบ Mini MPV ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และรุ่น 6 ที่นั่ง Captian Seat ชูจุดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารทุกที่นั่ง พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ นำเทรนด์ Mini MPV สู่ความแตกต่างที่ล้ำสมัย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง Smartstream ขนาด 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ IVT ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 2 โหมด ได้แก่ eco mode และ sport mode ราคาเริ่ม 769,000 – 889,000 บาท
Rolls-Royce
Black Badge Ghost
โรลส์-รอยซ์ แบล็กแบดจ์ โกสต์ ยนตรกรรมในกลุ่มอัลตราลักชัวรี่ และเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุด ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 สะดุดตากับสีตัวถังแบบทูโทน คือ เทา Anthracite ตัดกับ ดำ Black Diamond ขณะที่สัญลักษณ์นางฟ้า หรือ Spirit of Ecstasy รวมถึงกระจังหน้า คิ้วขอบกระจก และปลายท่อไอเสียเป็นโครเมียมรมดำ ซึ่งผ่านกรรมวิธีการชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้า ผสานขั้นตอนการชุบแบบดั้งเดิมบนชิ้นงาน สเตนเลส ส่งผลให้ได้พื้นผิวที่มีสีเข้ม ลงตัวกับล้อแม็กขอบ 21 นิ้ว ผลิตจากวัสดุคาร์บอนคอมโพสิต
ซึ่งติดตั้งกับ โรลส์-รอยซ์ แบล็กแบดจ์ เท่านั้น เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.75 ลิตร ปรับแต่งอีซียูใหม่ มีกำลัง 600 แรงม้า (เพิ่มจากรุ่นพื้นฐาน 27 แรงม้า) แรงบิด 900 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมปรับปรุงระบบกันสะเทือนและระบบเบรกให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปิดท้ายด้วย ชุดท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ในแบบฉบับของตระกูล แบล็กแบดจ์ เท่านั้น ภายในห้องโดยสารได้ผ่านการคัดสรรวัสดุอย่างพิถีพิถัน เบาะหนังสีดำ ตัดกับสีฟ้า Turchese ราคาจำหน่าย 40,000,000 ล้าน +++
ASTON MARTIN
DBX707
เร็วสุด แรงจัด และทรงตัวเป็นเลิศ คือ 3 คุณสมบัติเด่นของ แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์707 ที่สุด แห่งซูเปอร์เอสยูวี ระดับอัลตราลักชัวรี่ ทั้งด้านพละกำลังและความแม่นยำในการบังคับควบคุม กระจังหน้าใหญ่ขึ้น 27% มาพร้อมแผ่นรีดอากาศ (front splitter) ด้านใต้และข้างกันชนหน้า รวมถึงสเกิร์ตข้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นชัดเจน ด้านหลังเพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์บนสปอยเลอร์หลังคา มาพร้อมดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดเขื่องแบบเดียวกับรถแข่ง และ 4 ปลายท่อไอเสียยิงออก 2 ฝั่ง (Quad Exhaust Tailpipes)
ขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการเปลี่ยนใช้เทอร์โบบอลแบริ่งขนาดใหญ่ พร้อมปรับแต่งอีซียู เพื่อรีดแรงม้า-แรงบิด ส่งกำลัง ผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ multi-plate wet clutch 9 จังหวะ ที่สามารถรับมือกับพละกำลัง 707 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 900 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,500 รอบต่อนาที อีกทั้งยังช่วยให้เกียร์สามารถเปลี่ยนได้รวดเร็วและกระชับกว่าเดิม มาพร้อมอัตราเร่งกระชากใจ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.3 วินาที ท็อปสปีด 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคาจำหน่าย 24,900,000 บาท
MARSERATI
MC20 Cielo
เอ็มซี20 แชย์โล (Cielo) เวอร์ชั่นเปิดหลังคาท้าสายลม ของซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของ มาเซราติ ที่ถ่ายทอดสมรรถนะของสุดยอดรถสปอร์ตพันธุ์แท้ ผสานสุนทรียภาพของการขับขี่ ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สะกดทุกสายตา ด้วยความงามสง่าและดูเป็นสปอร์ต ประตูปีกผีเสื้อ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร โครงสร้างตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เบาแต่แข็งแกร่ง ขุมพลัง ‘เน็ททูโน’ (Nettuno) เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 630 แรงม้า (HP) แรงบิด 730 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผสานความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร กับนวัตกรรมหลังคากระจกพับเก็บได้ ใช้เวลาเพียง 12 วินาที ความพิเศษอยู่ที่กระจก electrochromic (smart glass) ที่ใช้เทคโนโลยี Polymer-Dispersed Liquid Crystal (PDLC) สามารถปรับให้ใสหรือทึบแสงได้อัตโนมัติผ่านการกดปุ่ม ราคาจำหน่าย 21,500,000 บาท
PEUGEOT
New Peugeot 408 PHEV
เปอโยต์ 408 PHEV ใหม่ รูปลักษณ์สไตล์ฟาสแบ็ค (Fastback) ช่วงล่างระยะห่างจากพื้นถนนมากขึ้น แต่ยังคงความโฉบเฉี่ยวของตัวถัง ผสานห้องโดยสาร ‘Peugeot i-Cockpit’เจเนอเรชั่นล่าสุด โดยรวมเป็นรถที่ดูสวยแบบแฮตช์แบ็ค แต่ให้ความสะดวกสบายแบบเอสยูวี ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 225 แรงม้า (HP) แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ‘Peugeot i-Cockpit’ เจเนอเรชั่นล่าสุด ติดตั้งมาตรวัด 3 มิติ ขนาด 10 นิ้ว บริเวณด้านหน้าผู้ขับ ขณะที่กลางแดชบอร์ดติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ ขนาด 10 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
Peugeot 2008 EV
เปอโยต์ 2008 ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับคนรุ่นใหม่ หัวใจพรีเมียม มาพร้อมขุมพลังแบบใหม่ ไร้มลพิษ เพราะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ 50 kWh ทำได้ 136 แรงม้า (HP) 260 นิวตันเมตร ตัวถังกะทัดรัด เน้นรายละเอียดการดีไซน์ ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดี พร้อมเดย์ไทม์รันนิงไลท์แนวตั้ง คล้ายเขี้ยวสิงโต กระจังหน้าไร้กรอบ (frameless grille) พร้อมเพิ่มไฟตัดหมอกด้านหน้า ตัวถังด้านข้างเน้นเหลี่ยมสัน เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยลูกเล่นบริเวณเส้นข้างประตู ดูบึกบึนและสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่ไฟท้ายดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ตัดกับคิ้วสีดำเงาอย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ราคา 1,189,000 บาท
JEEP
Wrangler Rubicon ‘Monster Edition’ และ ‘Urban Edition’
จี๊ป นำรุ่น ‘แรงเลอร์ รูบิคอน’ มาตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ Mopar ภายใต้แนวคิด ‘Outdoor Adventure Awaits’ 2 แบบ 2 สไตล์ เริ่มจาก จี๊ป ‘แรงเลอร์ รูบิคอน 4 ประตู’ สีน้ำเงิน Hydro Blue แต่งดุสไตล์ ‘Monster Edition’ ด้วย Jeep® Performance Parts ประกอบด้วยกันชนหน้าเหล็กกล้าออฟ-โรด 3 ชิ้น, สปอตไลท์แอลอีดีขนาด 7 นิ้ว พร้อมโรลบาร์บริเวณกันชนหน้ากันชนหน้า, Jeep® Performance Parts ออกแบบพิเศษสำหรับ แรงเลอร์ รูบิคอน, ชุดท่ออากาศออฟ-โรด, ประตูแบบโรลบาร์ (Tube-Doors) พร้อมมือจับด้านบน, โช้กอัพ FOX ยกสูง 2 นิ้ว, ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Extreme Recon XR Beadlock Capable Bronze จับคู่ยาง All-Terrain 35 นิ้ว และติดตั้งสัญลักษณ์ ‘Monster Edition’
คันที่สองเป็นรุ่นเดียวกัน สีเทา Sting Grey แต่งสไตล์ ‘Urban Edition’ สำหรับการใช้ชีวิตในเมือง ติดตั้งชุดกันลมขอบประตู, บันไดข้าง, แร็คหลังคา, โต๊ะฝาท้าย, ถาดเก็บสัมภาระ, ชุดคลุมล้ออะไหล่, ล้อแม็กขอบ 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ จับคู่ยาง Highway-terrain 32 นิ้ว และติดตั้งสัญลักษณ์ ‘Urban Edition’
AUDI
Audi A4 40 TFSI S line Icon Black
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid MHEV 4 สูบ ชุดตกแต่งภายนอกแบบสปอร์ต S line และ Black Edition รอบคัน ดีไซน์เน้นความเรียบหรู โฉบเฉี่ยว ลายล้อใหม่เสริมลุคสปอร์ตมากยิ่งขึ้น มาพร้อมไฟหน้า Matrix LED สร้างความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่และรถคันอื่นๆ เท่ทั้งภายนอกและภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกอัพเกรดให้รองรับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสี Silver Aluminium Ellipse มาพร้อมหน้าจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว A4 40 TFSI S line Icon Black มีให้เลือก 4 สี อาทิ Glacier white, Mythos black, Chronos grey และอัพเกรดสีใหม่ District Green สียอดฮิต วางจำหน่ายในราคา 2,699,000 บาท
HONDA
All New Honda CR-V
All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในไทย โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน1.5 ลิตร VTEC TURBO และไฮบริด e:HEV 2.0 ลิตร และมีให้เลือกทั้ง 6 ที่นั่ง กับ 7 ที่นั่ง แบ่งออกเป็น 5 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่าย 1,419,000 – 1,729,000 บาท ดีไซน์ภายนอกของ All-new Honda CR-V 2023 ใหม่ ถูกออกแบบเน้นความสปอร์ตพรีเมียม ติดตั้งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black, ไฟหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential, ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED, ไฟท้าย LED, หลังคา Panoramic Sunroof, ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
ภายในห้องโดยสารของ Honda CR-V 2023 ใหม่ มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องด้านหน้าและเรดาร์ เพื่อใช้ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญมีกล้องมองภาพรอบทิศทางมาให้แล้ว
MITSUBISHI
All New Mitsubishi Triton Prototype
มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้นำรถ All New Mitsubishi Triton เป็นตัว Prototype มาอวดโฉมบนเวทีในงาน มอเตอร์โชว์ 2023 นี้ โดยหลังจากอวดโฉมเรียบร้อย คาดว่าจะเปิดตัว และจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565 ประมาณเดือน มิถุนายน นี้
โดย All NEW Mitsubishi Triton คันนี้ถูกสร้างขึ้นบนเฟรมแชสซีส์ของ Nissan Navara รุ่นปัจจุบัน ซึ่งมันมีขนาดใหญ่กว่าแชสซีส์เดิมของ Triton รุ่นปัจจุบัน จึงทำให้ All NEW Mitsubishi Triton จะมีขนาดตัวถังที่ใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ และมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น การออกแบบภายนอกมีการปรับทรงของตัวรถใหม่ให้มีเหลี่ยม บึกบึน ขึ้น
มีการออกแบบกระจังหน้าใหม่สไตล์ Dynamic Shield แบบล่าสุดสีดำ ขนาบข้างด้วยคิ้วโครเมียมรูปตัว C ชุดไฟหน้าแบบ LED แยกออกจากไฟ Daytime Running Light คล้ายรุ่นปัจจุบัน แต่ปรับดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น ไฟตัดหมอกหน้า LED เช่นกัน ด้านข้างดูมีเหลี่ยมมีสันบึกบึน ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่ New Triton นี้จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมด้านข้างตัวรถ ยังคงมีดีไซน์กรอบช่องประตู และกระจกต่างหน้าคล้ายกับ Navara รุ่นปัจจุบัน ด้านขุมพลัง คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร Common-Rail Turbocharger Intercooler และอาจจะมีรุ่นพลังไฟฟ้า 100% (BEV) ตามมาให้เลือกภายหลัง
PORSCHE
911 Carrera GTS- 30 Years Porsche Thailand Edition
เผยโฉมในงาน ฉลองครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ ประเทศไทย ครั้งแรกและคันเดียวในโลก ขายเพียง 30 คัน โดย เอเอเอส กรุ๊ป พร้อมชมคันจริงได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ความพิเศษของ ปอร์เช่ 911 Carrera GTS-30 Years Porsche Thailand Edition คันนี้เป็นยนตรกรรมสปอร์ตไอคอนิครุ่นพิเศษ ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ประเทศไทย ถูกสรรสร้างขึ้นจากฝีมือการตกแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญแผนก Porsche Exclusive Manufaktur โดดเด่นด้วยดีไซน์ชั้นเลิศของตัวถัง 7 สีพิเศษจาก Paint-to-Sample (PTS) ผสาน 7 สีในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังได้รังสรรค์ตราสัญลักษณ์ “30 Years Porsche Thailand Edition”
ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ประกอบขึ้นด้วยมือ เสริมความสง่างาม เรียบหรูอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ช่องดักอากาศด้านหน้า ขอบกระจกประตู ชิ้นส่วนตัวถังด้านข้าง ชิ้นส่วนตัวถังด้านท้ายรถ และครอบกระจกมองข้าง ตกแต่งสีดำเงา gloss black ส่วนล้ออัลลอยด์ centre lock ลาย Turbo S ขนาด 20 และ 21 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานในรุ่น Carrera GTS พ่นด้วยสี two-tone คาลิเปอร์เบรกสีดำ
อีกหนึ่งความพิเศษคือ สีธงไตรรงค์ของไทย สีแดง ขาว และน้ำเงิน ปรากฏบนฝากระโปรงท้าย ซี่กระจังห้าจุดบริเวณฝั่งขวา และตัวอักษรชื่อรุ่นดีไซน์มาตรฐานจะถูกแทนที่ด้วยตราสัญลักษณ์ ‘911’ รมดำเงาพิเศษ โดยรถสปอร์ตปอร์เช่รุ่นพิเศษคันนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ประเทศเยอรมัน อีกด้วย
MERCEDES BENZ
EQB 250 AMG Line
EQB เป็นรถครอสโอเวอร์ตัวถัง 5 ประตู ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง ที่เมอร์เซเดสพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม MFA2 หรือ Mercedes Front Antrieb Platform เป็นรถนำเข้าแบบ CBU ตัวรถมากับแพคเกจตกแต่งรอบคัน AMG bodystyling, กระจังหน้า Radiator grille พร้อมแถบคาดกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบ Twin blade, ชุดไฟหน้าความละเอียดสูง LED High Performance
ตกแต่งด้วยเส้นไฮไลท์สีฟ้าเพื่อแสดงตัวตนของรถในตระกูล Mercedes-EQ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist, ราวหลังคาอลูมิเนียม และล้ออัลลอย AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้วห้องโดยสารตกแต่งแบบสปอร์ตตามสไตล์ AMG
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Nappa อุปกรณ์มาตรฐานมีจอดูอัลสกรีน ควบรวมมาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และจอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 10.25 นิ้วเอาไว้ในกรอบเดียวกัน พร้อมติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX6 รุ่นใหม่ล่าสุด ชุดระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ
Permanently Excited Synchronous Motor หมุนล้อคู่หน้า กำลังสูงสุดผลิตได้ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 39.2 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 8.9 วินาที
แบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน แรงดันสูง (High-Voltage) ความจุ 66.5 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ของยุโรป
ชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สูงสุด 100 กิโลวัทท์ จาก 10 – 80% ใช้เวลา 32 นาที ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) สูงสุด 11 กิโลวัทท์ จาก 0 – 100% ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 50 นาที ราคาจำหน่าย 3,020,000 บาท
KIA
The Kia Carnival LX
LX ทำตลาดในฐานะรุ่น entry-level ของ Carnival ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,892,000 บาท Carnival LX เป็นรถมินิแวนตัวถัง 5 ประตู ห้องโดยสาร 11 ที่นั่ง ตัวรถมากับตราสัญลักษณ์ KIA แบบใหม่ ที่ฝากระโปรงหน้า, ดุมล้อ และไฟท้าย, กระจังหน้าแบบใหม่, ชุดไฟหน้า LED แบบ Multi Focus Reflector พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
และแร็คหลังคาเอนกประสงค์ ห้องโดยสารตกแต่งเบาะผ้าด้วยสีทูโทน น้ำตาล Saddle Brown ตัดขอบดำ, เบาะแถวที่ 4 เป็นแบบ Pop-up Sinking Seat พับเก็บได้แบบเรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ อุปกรณ์มาตรฐานมีจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว
พละกำลังเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแปรผัน จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ CRDi (คอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชั่น) กำลังสูงสุด 202 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 45 กก.-ม. ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ผ่านมาตรฐาน Euro 5 โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง Normal, Sport, Eco หรือ Smart
BYD
Dolphin
Dolphin รถยนต์ไฟฟ้า 100% ถูกสร้างบนพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า BYD e platform 3.0 มาในสไตล์ตัวถังแบบแฮทช์แบ็กหน้าตาคล้ายโลมาสมชื่อ ด้านหน้าดูเท่ด้วยชุดไฟหน้า LED ในโคมโปรเจกเตอร์ ล้อมด้วยไฟ DayTimeRunningLight กระจังหน้าแบบปิดเติมลูกเล่นด้วยการพิมพ์ลายด้านใน ด้านข้างมีเส้นสายที่เฉียบคมแปลกตา สวยงามด้วยการใช้คู่สีแบบทูโทน
รวมถึงลูกเล่นการเดินเส้นไฟท้าย LED ไขว้สลับกันไปมา ส่วนล้ออัลลอยที่ให้มีทั้งขนาด 16 และ 17 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ภายในของ DOLPHIN น่าสนใจมากครับ โดยรวมดูน่ารักด้วยเส้นสายโค้งมนต่อเนื่อง อิงจากรูปทรงของโลมา ชุดแผงหน้าปัดคาดแถบสีเงินพร้อมช่องแอร์ทรงกลม มือจับประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน ทรง D Shape
จออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 10.1 นิ้ว และ 12.8 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย หลังคา Panoramic พร้อมม่านกันแดด เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตทรง Bucket Seat ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchonous Motor พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ขนาด 44.9 kWh
ขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel Driveอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.9 วินาที Top Speed ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชาร์จเต็ม 100% วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 405 กิโลเมตร การชาร์จไฟฟ้ารองรับการชาร์จ 800 Volt Technology กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 7 kW เปิดจองภายในงาน มอเตอร์โชว์ 2023 คาดราคา 800,000 บาท +++
ISUZU
The New Mu-X Phantom Collection
New Mu-X Phantom Collection รุ่นพิเศษใหม่นี้ มาพร้อมกับความหรูหรา และสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วย 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเทาใหม่ Islay Gray Opaque และสีขาวมุก Dolomite White Pearl พร้อมเสริมความสปอร์ตหรูอย่างลงตัว ด้วยพลังของเฉดสีเข้มที่ภายในห้องโดยสาร โดยการตกแต่งในโทนสีดำ ทั้งในส่วนเบาะที่นั่ง, แผงข้างประตู และคอนโซล ขณะที่ภายนอกตัวรถนั้นเติมความเร้าใจด้วยชุดล้ออัลลอย Gloss Black สีดำ ขนาด 20 นิ้ว นอกจากนั้น Isuzu MU-X Phantom Collection ยังคงความสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ประตูท้าย และถอยออกมา
ประตูท้ายก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ที่เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS แบบกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน
ขุมพลังยังคงมาพร้อมความประหยัด และแรงด้วยขุมพลัง เครื่องยนต์ 1.9 Ddi BLUE POWER ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Rev Tronic ราคา 1,506,000 – 1,663,000 บาท
MG
MG ES
รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ออกแบบมาเพื่อประโยชน์ใช้สอย ด้วยตัวถังทรงแวกอน 5 ประตู 5 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้มีความจุได้สูงสุด 1,367 ลิตร สำหรับขนของหรืออุปกรณ์กิจกรรมได้หลายรูปแบบ ดีไซน์คงความเรียบง่าย แต่ดูทันสมัยขึ้น ด้วยชุดไฟหน้าเป็นทรงแคบลงคาดยาวตลอดแนวแทนกระจังหน้า โดยเป็นโคมโปรเจกเตอร์หลอด LED และไฟวิ่งกลางวันเป็นหลอด LED เรืองแสง ตรงกลางมีช่องชาร์จไฟ
ด้านล่างเป็นช่องดักอากาศเพื่อช่วยระบายความร้อนให้กับชุดแบตเตอรี่ ทางด้านไฟท้ายเดินเส้นไฟ LED ทรง Y-Shaped ตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียม และล้ออัลลอยให้มาเป็นลาย V-Shaped ภายในดูทันสมัยขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้น
ด้วยมาตรวัดดิจิทัลใหม่ขนาด 7 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน รวมถึงระบบ iSmart ช่องแอร์กลางถูกจับย้ายลงมาด้านล่างสุด ติดกับคอนโซลกลางใหม่แบบลอยตัว ตกแต่งด้วยพลาสติกสีเงิน ซึ่งติดตั้งเกียร์ไฟฟ้าชนิดปุ่มหมุนกับเบรกมือไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 51 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (NEDC) เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยครบครัน ราคา 959,000 บาท
MAXUS 9
MG เปิดตัว NEW MG MAXUS 9 รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% ในรูปแบบรถ MPV 6-7 ที่นั่ง รูปลักษณ์จะมากับความหรูหราเน้นในเรื่องดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย
ชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า พร้อมตีตราแบรนด์ไว้ที่ปลายฝากระโปรง ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟส่องสว่าง ด้านท้ายจะเป็นอีกจุดที่ดูโดดเด่น
โดยจะมากับไฟท้าย LED แบบ Galaxy Halberd Fantasy ที่ดีไซน์เป็นแนวยาวรูปตัว Y ประตูหลังปิด-เปิดด้วยไฟฟ้า ส่วนประตูเข้าห้องโดยสารเปิดแบบบานสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้ง 6 – 7 ที่นั่ง ขุมพลังมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขนาด 180 kW ติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง Normal, Eco และ Sport มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 440 กม. ตามมาตราฐาน CATL พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 8.5 ชม. และระบบชาร์จไฟแบบ DC จะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 36 นาที
TOYOTA
All-New Toyota Prius PHEV 2023
Prius PHEV รุ่นใหม่ล่าสุดในรุ่น Z ขับเคลื่อนล้อหน้า ดีไซน์ภายนนอกของ Prius Plug-in Hybrid (PHEV) ดูสวยงามตั้งแต่ไฟหน้าแบบ LED รูปตัว C พร้อมด้วยไฟ Daytime Running Light แบบ LED ชุดกรอบไฟหน้าแปะโลโก้ Toyota เข้ากับชุดฝากระโปรงหน้าและชุดกันชนหน้า หลังคารถลาดลงมากขึ้น เช่นเดียวกับมือจับประตูผู้โดยสารด้านหลังออกแบบให้ติดกับกระจกเสา C ไฟท้ายแบบ LED พาดเรียวยาวเป็นรูปตัว A พร้อมอักษร Prius เว้นช่องไฟให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น สอดรับกับชุดกันชนท้ายตกแต่งกรอบป้ายทะเบียนสีดำขนาดใหญ่ มีล้ออัลลอย 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 195/50R19
ภายในห้องโดยสาร ชุดแผงคอนโซลหน้ามีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แผงมาตรวัดฟูลดิจิทัล TFT LCD ตำแหน่งเดียวกับ Head-Up Display ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชัน
ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ Toyota bZ4X ส่วนเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต ขุมพลังใช้รูปแบบเดียวกับเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร เจน 5 ใหม่ล่าสุด กำลัง 151 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร
จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า กำลัง 163 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 13.6 kWh เมื่อทำงานผนวกกัน ส่งกำลังสูงสุด 223 แรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 ใน 6.7 วินาที ที่สำคัญ จับคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และหากขับขี่ในโหมดไฟฟ้าจะวิ่งได้ไกลที่สุด 87-105 กม.
Japan Taxi Phev
งานนี้โตโยต้า ประเทศไทย ขนรถ JPN Taxi ข้ามทะเลมาทำสีใหม่ให้เป็นแท็กซี่ไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน และเทคโนโลยีของพลังงานที่ใช้ ถ้ามีผู้สนใจมาพออาจจะมีการผลิต และจำหน่ายในประเทศไทย JPN Taxi คันนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ และสะดวกสบายกับผู้คนหลากหลาย รวมทั้ง เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ใช้รถเข็น พื้นรถที่ราบและอยู่ในระดับที่ต่ำช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าและออกจากรถได้อย่างรวดเร็ว ประตูบานเลื่อนด้านหลังกว้าง เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า พื้นรถราบ และหูยึด พร้อมที่จับใช้งานสะดวก ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าและออกจากรถได้ง่าย และออกแบบสำหรับผู้ใช้รถเข็น รูปทรงหลังคาสูง เสาเรียวเล็กและการใช้กระจกบังลมขนาดใหญ่ทำให้มีวิสัยทัศน์ดี หน้าต่างขนาดใหญ่ด้านหน้าและพื้นที่ที่นั่งด้านหลังที่กว้างขวาง มีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางพอสำหรับใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบตามแนวนอน และถุงกอล์ฟ 4 ถุง
และสามารถเพิ่มพื้นที่ด้านหลังเป็น 560 มม. เมื่อพับเบาะหลังด้านขวาลง เครื่องยนต์เน้นประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะด้านพลังงาน ด้วยการใช้ระบบไฮบริด LPG-hybrid system เครื่องยนต์ 1NZ-FXP ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งใช้แก๊ส LPG ที่พัฒนาขึ้นใหม่ กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ด้วยรูปแบบใหม่นี้ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ 19.4 กม. /ลิตร และลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ Toyota Safety Sense C (TSS-C) ซึ่งเป็นชุดป้องกันการชนกันของรถมาพร้อมกับมาตรฐานสำหรับทุกเกรด
ในขณะเดียวกัน Sonar Intelligent Clearance Sonar ซึ่งตรวจจับสิ่งกีดขวางและช่วยป้องกันหรือบรรเทาการชนที่เกิดจากการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการปรับปรุงอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัย SRS 6 ชุดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
LEXUS
Lexus RZ 450e
รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบ Crossover SUV ขนาดกลาง รถใหม่อีกหนึ่งรุ่นสำหรับกลุ่มรถยนต์พรีเมียม โดยวางตำแหน่งไว้เหนือกว่า Lexus UX 300e ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Toyota bZ4X แต่พละกำลังและความหรูหราต่างกัน ส่วนระยะทางวิ่งน่าจะทำได้เกิน 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ราคาเริ่ม 3,870,000 -4,190,000
ด้านดีไซน์ภายนอกจะมาพร้อมกับความพรีเมียม หรูหรา ด้านหน้าตัวรถยังคงเอกลักษณ์ของ Lexus ด้วยกระจังหน้าสีดำทรงกระสวยอวกาศ (Spindle Grille) แต่มาในแบบปิดทึบ เล่นลวยลายด้านข้างให้ดูพริ้วไหว
ตรงกลางโดดเด่นด้วยโลโก้ของทาง Lexus ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED พร้อม DRL ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เส้นสายข้างตัวรถออกแบบให้มีเหลี่ยมคมดูสปอร์ต ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยแถบสีดำตามสไตล์รถครอสโอเวอร์สายลุย ด้านท้ายรถดีไซน์ให้ดูใหญ่บีกบึน ล้อจะมีขนาด 18 กับ 20 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับแผงหน้าปัด Full LED ขนาดกะทัดรัด หน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว จอแสดงผลบนกระจก Head Up Display ช่องปรับอากาศออกแบบให้วางอยู่เหนือหน้าจอ พวงมาลัยแบบ One-Motion Grip เหมือนบนตัวรถแข่งในสนาม และสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยทรงกลมแบบธรรมดาได้ พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม
ขุมพลังขับเคลื่อนจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ไว้ที่เพลาคู่หน้าให้กำลัง 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 435 นิวตันเมตร เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ DIRECT4 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 71.4 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางราว 450 กม. ตามมาตราฐาน WLTC และกินไฟต่ำกว่า 18 kW / 100 กม. นอกจากนี้ทาง Lexus ยังเคลมว่าแบตเตอรี่ของ RZ 450e จะสูญเสียประสิทธิภาพเพียงประมาณ 10% หลังจากใช้งานไปแล้ว 10 ปี หรือ 240,000 กม. เท่านั้น
GWM
TANK 500
TANK 500 HEV คือรถเอสยูวีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ระดับพรีเมียม ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมความสามารถในการขับขี่ออฟโรดและบุกตะลุยทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ยังให้ความหรูหรานั่งสบายแบบเดียวกับรถยนต์นั่งแบบพรีเมียม
และยังมีความอเนกประสงค์เหมาะสำหรับทุกครอบครัว การตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light, วัสดุสี Black, Silver, Piano Black, Chrome
คอนโซลหน้าสีทูโทน เบาะหนัง NAPPA เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร
ระบบเกียร์แบบ DHT อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD พร้อมโหมดการขับขี่ All-Terrain Control System และ Diff-Lock ไฟฟ้า หน้าหลัง รองรับการขับขี่ที่หลากหลายพร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 11 รูปแบบ
NISSAN
KICKS 2023
NISSAN KICKS e-POWER 2023 ปรับออปชั่นใหม่ พร้อมปรับราคาขายใหม่เพิ่มขึ้น 2-3 หมื่นบาทจากรุ่นเดิม
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ รถคอมแพคเอสยูวีรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมสมรรถนะกับเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 พร้อมระบบอี-เพดดัล สเต็ป (e-Pedal Step)
ที่ทำให้การขับขี่ง่าย และราบรื่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคันของ Nissan’s 360° SAFETY SHIELD แบบครบครัน
ครั้งแรกในแรกในประเทศไทยของรุ่น AUTECH ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีความพิเศษ เพิ่มความสปอร์ต และพรีเมี่ยม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งภายนอก และภายใน รุ่นใหม่นี้มีการปรับใหม่เล็กน้อย ดีไซน์ทั้งหมดเหมือนเดิม แต่ปรับราคาเพิ่มขึ้น 2-3 หมื่นบาท โดยมีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา 3 รายการ
อาทิ วัสดุหุ้มพวงมาลัยหนังแท้สีดำ ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวลขึ้น ทุกรุ่น ถ้าใน Autech สีวัสดุหุ้มสีดำ เดินด้ายตะเข็บน้ำเงิน , เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ การทำงานจะกว้างขึ้นเพิ่มฟังชั่นฮีตตอร์ปรับตั้งอุณหภูมิได้ในช่วงกว้างตั้งแต่ 18-32 องศา หมดปัญหาห้องโดยสารเย็นเกินไป ,
Wireless Chager รองรับการชาร์จอุปกรณ์แบบพกพาอัตโนมัติไร้สาย ติดตั้งกำลังไฟที่ 15 วัตต์ บริเวณคอนโซลหน้า ติดตั้งเฉพาะรุ่น VL และ Autech (เป็นอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษกับชุดแต่ง Stylis package)
ติดตั้งมาจากโรงงาน ราคาเริ่มต้น 779,000 – 980,000 บาท (บวกเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้า ประมาณ 20,000 บาท )
FORD
Ford Everest Wildtrak
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว เน้นความเท่ แข็งแกร่ง และมีสไตล์ ภายในห้องโดยสารหรูหราสะดวกสบาย มอบประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางผจญภัยให้กับคุณและครอบครัว แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ทั้งกระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นไวลด์แทรค พร้อมตัวอักษร WILDTRAK สีดำบนฝากระโปรงหน้า ออกแบบเพื่อสะท้อนสไตล์ของนักผจญภัยโดยเฉพาะ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งสีดำให้มีความดุดันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ไวลด์แทรค เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำพร้อมเดินด้ายสีส้ม และโลโก้ซิกเนเจอร์ ‘Wildtrak’ ที่เบาะคู่หน้า มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E- Shifter
มอบพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ราคา 1,899,000 บาท
BENTLEY
Bentley Flying Spur Mulliner Hybrid
ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ยนตรกรรม 4 ประตูตัวท็อปที่สุดจากค่ายผู้ผลิตยนตรกรรมหรูแห่งเมืองผู้ดีที่มาพร้อมการตกแต่งภายนอกและภายในแบบเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ ประณีต และ งดงามจาก เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ โดย ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 19,000,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ทวินเทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.9 ลิตร กับ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบพละกำลังสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร
และ อัตราเร่งที่ตอบสนองอย่างง่ายดาย ควบคู่ไปกับความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที
และ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 285 กม./ชม. E-motor มอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และ สามารถชาร์จไฟได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค)
พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่แรงสูงเพื่อจ่ายให้กับ E-motor หรือเสริมกับอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าของรถยนต์ขนาด 12 วัตต์ สำหรับในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว และ ความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร
BRABUS
SUBARU IMPREZA 22B Prodrive
SUBARU IMPREZA 22B Prodrive ตัว 55,000,000 บาท เปิดขายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 หนึ่งเดียวในไทย รถอัลตร้า แรร์ ไอเท็ม ที่ได้โควต้านำมาจำหน่าย
เพียงคันเดียวในเมืองไทย จากสายพานการผลิตแค่ 25 คันในโลก P25 แต่ละคันจะมีพื้นฐานมาจาก WRX รุ่น 2 ประตูแบบดั้งเดิม (ไม่ใช่ 22B แบบดั้งเดิม) ซึ่งแผงตัวถังทั้งหมดสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์
นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุคอมโพสิตสำหรับฝากระโปรงหน้า หลังคา ซุ้มล้อหน้าและหลัง กระจกมองข้าง สปอยเลอร์หลังและกันชนรอบคัน ซึ่งช่วยตัดน้ำหนักตัวรถให้เหลือเพียง 1,200 กก. เทียบกับ 1,245 กก. จาก 22B ส่วนการลดน้ำหนักอื่นๆ
ได่แก่ การติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ เฟืองท้ายแบบแอ็คทีฟ ชุดช่วงล่างจาก Bilstein แบบปรับได้และระบบเบรกจาก AP Racing
พร้อมจานเบรกด้านหน้าขนาด 380 มม. และคาลิปเปอร์เบรก 6 ลูกสูบ ขณะที่จานเบรกด้านหลังจะมีขนาด 350 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรก 4 ลูกสูบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 รุ่นล่าสุดของ Subaru
แต่ได้รับการออกแบบใหม่อย่างครอบคลุม ด้วยลูกสูบ ก้านสูบและชุดวาล์วใหม่ พร้อมหายใจผ่านเทอร์โบชาร์จจาก Garrett อินเตอร์คูลเลอร์ประสิทธิภาพสูงและระบบไอเสียไทเทเนียมจาก Akropovic เพื่อมอบกำลังที่ 400 แรงม้าและแรงบิด 600 นิวตันเมตร
ซึ่งทำให้ P25 มีกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับ 22B กำลังทั้งหมดถูกส่งไปยังถนนด้วยเกียร์ Sequential 6 จังหวะ ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนเกียร์ได้ในระดับ 80 มิลลิวินาที
มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 3.5 วินาที ซึ่งเร็วกว่า 22B ประมาณ 1 วินาที
รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023 รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023 รวมรถเด่นในงาน Motor Show 2023
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th