เพื่อนๆหลายคนคงประสบปัญหาแบบนี้ใช่ หรือไม่ ที่รถยนต์คันงามสีเงาวิบวับของคุณ อยู่ดีๆก็มี รอยขนแมว ทั้งที่คุณระวังอย่างเต็มที่แล้ว มันก็ยังมีอยู่ดี โดยเฉพาะรถยนต์สีเข้ม หรือสีดำ ยิ่งเห็นชัดเจนเลยครับ เวลาเห็นแล้วมันช่างบาดใจเหลือเกิน รอยขนแมวมันจะมีลักษณะเป็นเส้นวง ๆ คล้ายขนแมวเกิดขึ้นบนผิวรถโดยเจ้ารอยนี้มักจะเกิดขึ้นจากการขูดขีดจากอะไรก็ตามที่เป็นวัสดุที่แข็งกว่าชั้นเคลือบสีของรถ สักเกตุได้ง่ายถ้าอยู่บรถสีเข้มเช่นสีน้ำเงิน หรือสีดำ เมื่อสะท้อนกับแสงแดดนั้นเองครับ มันทำให้รถเราดูเก่าขาดการดูแล นั้นมันคือปัญหาใหญ่ชวนปวดหัวสำหรับคนรักรถเลยก็ว่าได้ วันนี้เรามาดูสาเหตุหลักที่ทำให้รถยนต์ของเราเกิดรอยขนแมว และวิธีป้องกันรอยขนแมวกันครับ

สาเหตุหลักๆที่ทำให้รถยนต์ที่เงาวิบวับของเราเกิด รอยขนแมว นั้นก็คือวิธีการล้างรถไม่ถูกวิธีนั้นเอง ผ้าเช็ดรถ หลายคนนำเสื้อผ้าเก่าๆ มาเช็ดทำความสะอาดรถหลังล้างเสร็จ ซึ่งเนื้อผ้าอาจมีความหยาบกระด้างมากจนกระทั่งทำให้ชั้นสีเกิดริ้วรอยได้ อีกทั้งเสื้อผ้าอาจยังมีป้ายยี่ห้อ, ตะเข็บ หรือกระดุม ซึ่งเหล่านี้ทำให้เกิดรอยขูดขีดบนตัวถังรถได้ทั้งสิ้น ทางที่ดีควรซื้อผ้าสำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะมาใช้งานจะดีกว่า การปัดฝุ่นบนตัวถังรถด้วยไม้ขนไก่ หรือแปรงปัดฝุ่น ก็เช่นกัน อาจก่อให้เกิดรอยขนแมวได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ทำแปรงด้วย หากมีความแข็งกระด้างมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ อีกทั้งการปัดฝุ่นด้วยแปรงเหล่านี้ ควรทำเฉพาะเมื่อฝุ่นเกาะอยู่เพียงบางๆ เท่านั้น เพราะฝุ่นที่เกาะตัวสะสมหนา จะทำให้เกิดริ้วรอยบนตัวถังขณะปัดออกได้เช่นกัน สุดท้ายคือการล้างรถไม่ถูกวิธีมีผลทำให้เกิดริ้วรอยบนตัวถังได้เช่นกัน เช่น การใช้ฟองน้ำล้างรถจุดที่สกปรกมากกว่า ไปใช้กับจุดที่สกปรกน้อยกว่า โดยไม่ล้างฟองน้ำเสียก่อน ก็จะทำให้สิ่งสกปรกไปขูดขีดตัวถังรถส่วนอื่น ทำให้เกิดรอยขนแมวตามมา ทางที่ดีการล้างรถควรล้างจากจุดที่สกปรกน้อยกว่า ไปยังจุดที่สกปรกมากกว่าจะช่วยลดโอกาสเกิดรอยขนแมวได้ครับ

เรามาดูวิธีป้องกันไม่ให้รถที่เรารักเกิดรอยขนแมวกันครับ

1. ล้างรถสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้เราควรล้างรถยนต์ของเราอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อชำระล้างพวกฝุ่น และคราบสกปรกต่างๆ เพราะถ้าคุณปล่อยให้ฝุ่นจับหนามาก เวลาคุณไม่จอดรถมีคนมาโดนรถ หรือ คุณไปจับลูบรถ เจ้าฝุ่นบนรถคุณนั้นละจะทำให้เกิดรอยขนแมวได้ หากไม่มีเวลาล้างแบบเต็มระบบ ให้ใช้น้ำสะอาดล้าง ฉีดน้ำแรงๆเพื่อล้างคราบสกปรก ดินโคลนและฝุ่นออกไป และใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
2. ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดรถหลังจากฝน ขับรถตากฝนมา มีทั้งคราบสกปรก ดินโคลน และฝุ่น หากใช้ผ้าเช็ดสีรถมีแต่จะทำให้เกิดรอยขนแมวตามมาอีกเพียบ ทางที่ดีฉีดน้ำล้างก่อนดีที่สุด
3. การเลือกผ้าเช็ดรถ ควรเลือกผ้าเช็ดรถที่มคุณภาพสูง เนื้อผ้าที่มีความนุ่ม และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหรือฟองน้ำเช็ดรถที่มีฝุ่นเกาะหรือสิ่งสกปรกในการเช็ดรถนะครับ
4. แนะนำเคลือบสีรถ การเคลือบสีรถ ไม่ว่าจะเป็น การแวกซ์ เคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิก เห็นว่าจะเป็นวิธีการดูแลสีรถที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้สีรถเงางาม ยังช่วยป้องกันคราบน้ำฝน น้ำไม่เกาะที่ผิวรถ จึงช่วยลดคราบฝังแน่นบนสีรถได้ และทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th