ระบบ LKS และ CTA ช่วยผู้ขับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยขึ้น
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย นับว่ามีคนใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก อุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้มีผู้ชีวิตมากกว่า 300,000 คนต่อปีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเป็นผู้ใช้ถนนที่มีความเสี่ยง เช่น คนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน และผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์
ณ ปัจจุบันนี้ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยบนรถยนต์ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้การใช้รถใช้ถนนปลอดภัยสำหรับทุกคนมากขึ้น ด้วยกล้องอินฟาเรดตรวจจับคนเดินเท้า ผู้ใช้จักรยาน และสัตว์ รวมถึงกล้อง 360 องศา ที่ทำงานคู่กับเซนเซอรเพื่อเตือนผู้ขับขี่หากตรวจพบคน รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งระบบที่กล่าวมานั้นคือ LKS และ CTA มาดูกันว่าระบบทั้งสองมีวิธีการทำงานอย่างไร
LKS (Lane Keeping System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบดังกล่าวใช้กล้องที่ติดตั้งไว้ด้านหลังของกระจกมองหลัง เพื่อคอยตรวจจับเส้นแบ่งเลนถนนและการไถลออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ หากกล้องตรวจจับได้ว่ารถกำลังเคลื่อนตัวออกนอกเลนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะทำการเตือนผู้ขับขี่ ด้วยสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด พร้อมการสั่นบนพวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่รักษาตำแหน่งรถยนต์ให้อยู่ในเลน ทั้งยังระวังผู้ใช้จักรยาน หรือพาหนะอื่น ๆ ที่อยู่ในเลนอื่น
CTA (Cross Traffic Alert) ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยจอดอื่น ๆ เช่น กล้องมองหลัง หรือกล้อง 360 องศา ระบบ CTA ใช้เซนเซอร์สองตัวเพื่อจับภาพด้านหลัง และด้านใดด้านหนึ่งของรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง โดยระบบดังกล่าวใช้เสียง และสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด เพื่อเตือนผู้ขับขี่หากตรวจพบคน รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์
สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ๆ นับว่ามีความสำคัญไม่น้อยที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ใช้ถนนร่วมกันได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th