รู้จัก New Toyota Camry ก่อนขายไทย 3 พ.ย. นี้
New Toyota Camry รุ่นใหม่ล่าสุด มีการปรับรูปแบบการทำตลาดของ Camry ใหม่ เป็น Global Model คือ ใช้ดีไซน์เดียวกันทั่วโลก จะไม่มีการแบ่งแยกโฉมอเมริกา กับ โฉมเอเชีย อีกต่อไป
New Toyota Camry สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ TNGA : Toyota NEW Global Architecture New Toyota Camry รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนจะเน้นหลักไปที่การปรับเพิ่ม อัพเกรดอุปกรณ์ และระบบความปลอดภัย
ภายนอกดีไซน์ด้านหน้าของรถใหม่ ทั้งกันชนหน้า กระจังหน้าทั้งส่วนบนที่อยู่ใต้โลโก้ มีการเสริมคิ้วตกแต่งโครเมียมเพิ่มเติมบริเวณด้านซ้าย-ขวา ของช่องดักลมกันชนหน้า และส่วนล่างที่ขยายแถบสีดำให้กว้างขึ้น ส่งผลให้รถดูกว้างและมีมิติมากขึ้น ส่วนกันชนท้ายส่วนที่เป็นพลาสติกสีดำ ถูกเปลี่ยนเป็น สีเมทัลลิคแทน ไฟท้ายรูปทรงเดิมเปลี่ยนสีของไฟเท่านั้น ลายล้อขนาด 18 นิ้ว สีเทา Deep Metal Grey แม้จะดูคล้ายเดิม แต่มีการเปลี่ยนลวดลายใหม่ ให้ดูมีมิติมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารมีการย้ายช่องแอร์บริเวณแดชบอร์ดกลางเลื่อนตำแหน่งลงมาแทนหน้าจอ ส่วนหน้าจอเปลี่ยนไปใช้เป็นเป็นแบบ Floating Screen ของ JBL ลอยตัวออกมา แบบที่โตโยต้ารุ่นใหม่ๆนิยมใช้กัน และเพิ่มขนาดจากเดิม 7 นิ้ว เป็น 9 นิ้ว มีการเพิ่มปุ่มเข้ามาด้านข้างจอเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในขณะที่กำลังขับขี่รถอยู่ รวมถึงปรับให้การตอบสนองจอสัมผัสดีขึ้น และแน่นอนว่ารองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พวงมาลัยทรงเดิมมีการเพิ่มวัสดุตกแต่งสีเงินบริเวณขอบของปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยทั้ง 2 ข้างทำให้ดูหรูหราขึ้น
ระบบความปลอดภัยก็มีการอัพเกรด และ เพิ่มความสามารถ Toyota Safety SENSE เวอร์ชั่น 2.5 เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control with Low-Speed Following เพิ่มเติมฟังก์ชั่นหยุดรถได้ถึง 0 km/h มาให้ รวมไปถึง ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ เบรกอัตโนมัติ ครอบคลุมการตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection (PCS w/PD), ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง และ ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
สำหรับขุมพลังของ Toyota Camry Minorchange เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะเหลือแค่ 2 รูปแบบ โดยตัดเครื่อง เบนซิน 2.0 ออกไป เหลือเพียง เบนซิน 2.5 และ 2.5 Hybrid เท่านั้น
- 2.0 ลิตร D-4S (ยกเลิกการจำหน่าย )
เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. VVT-iw & D-4S กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมัน E85
- 2.5 ลิตร Dynamic Force
เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. ติดตั้งวาล์วแปรผันอัจฉริยะไฟฟ้า VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ รองรับน้ำมัน E85
- 2.5 ลิตร Dynamic Force Hybrid THS II (Toyota Hybrid System II) (NEW)
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. Atkinson Cycle VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุดรวม 211 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับน้ำมัน E20
แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์-ชั่วโมง ย้ายไปติดตั้งที่ใต้เบาะนั่งด้านหลัง แทนที่ท้ายรถ ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเพิ่มขึ้น รวมไปถึงจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ดีขึ้นอีกด้วย ในตลาดหลายๆประเทศ เช่น สหรัฐฯ แบตเตอรี่ มีการเปลี่ยนไปใช้ Lithium-ion ต้องรอติตตามกันว่าเวอร์ชั่นไทย จะมีการใช้แบตเตอรี่แบบเดิม หรือ แบบใหม่ อดใจรอกันอีกไม่นาน ทั้งข้อมูลอย่างเป็นทางการ และลุ้นราคาจำหน่ายในประเทศไทยพร้อมกันในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 นี้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th