รู้ทันเกียร์ออโต้ และ เกียร์ CVT ก่อนจะพัง !!
ในปัจจุบัน รถยนต์ส่วนมากจะเป็น เกียร์ออโต้ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบธรรมดา หรือไม่ก็เป็น CVT เพราะสามารถขับได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเหยียบคลัชท์เวลาเปลี่ยนเกียร์ และไม่ต้องกลัวรถดับ แต่ด้วยความที่ใช้งานง่าย ทำให้เราไม่ค่อยสนใจที่จะดูแลรักษาระบบเกียร์ของรถยนต์เกียร์ออโต้เท่าใดนัก ซึ่งบางครั้ง การละเลยปัญหาความ ผิดปกติ เล็กๆ ของระบบเกียร์ ก็อาจทำให้คุณต้องเสียค่าซ่อมรถที่แพงกว่าที่ควรจะเป็นได้
ก่อน เกียร์ออโต้ จะพังมันจะมีอาการบอกเราก่อนว่ากำลังจะพังแล้วนะ
- มันมักเริ่มต้นด้วย เครื่องเย็นเข้าเกียร์ แล้วเกิดอาการกระตุกแรงไม่นิ่มนวล เข้าเกียร์ยาก โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเกียร์ถอยหลังก่อนเกียร์เดินหน้าแต่เมื่อเครื่องร้อนอาการดังกล่าวจะดีขึ้น
- ต่อมาจะเกิดอาการ กระตุก-สั่น-อืด ขณะเปลี่ยนเกียร์ระหว่างที่รถวิ่งอยู่ แบบขับๆอยู่รถมันกระตุกๆอันนี้ต้องคอยสังเกตอาการดีๆนะครับ อาจจะเริ่มแบบกระตุกเล็ก เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย
- ตามมาด้วย อาการคลัตช์ลื่น ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ รอบเครื่องขึ้น แต่รถไม่ไป หรือไปช้ากว่าที่ควรจะเป็น อาการคลัชท์ลื่นอาจเกิดจากผ้าคลัชท์ใกล้หมด หรือใช้น้ำมันคลัชท์ผิดประเภท หรือเกิดจากการไปลุยน้ำท่วมสูงมา ก็จะทำให้คลัชท์ลื่น เร่งไม่ไป แต่รอบเครื่องยนต์ขึ้นตามปกติ
- จากนั้นเข้าเกียร์ แล้วรถไม่เคลื่อนตัว ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง ต้องเร่งเครื่องช่วยถึงเกียร์ถึงจะเข้า โดยมักจะมีอาการเกียร์ไม่เปลี่ยน และไฟ D กระพริบ ร่วมด้วย
- สุดท้าย คืออาการเกียร์วืด หมายถึงระหว่างวิ่งใช้งานปกติ เกียร์จะวืดเหมือนไม่ได้เข้าเกียร์ ในรถบางรุ่นเมื่อจอดทิ้งไว้ให้เย็นยังสามารถวิ่งได้ แต่ก็จะเกิดอาการดังกล่าวซ้ำอีกเช่นกัน ข้อนี้ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายที่สุด
แนวทางการซ่อม
- เปลี่ยนเกียร์ใหม่ศูนย์ ซึ่งมีราคาสูงมาก แต่ถ้ารถยังอยู่ในช่วงรับประกัน แล้วพบมีลางบอกเหตุอาการเกียร์เสีย ให้รีบเข้าศูนย์แจ้งซ่อม และถ้าซ่อมไม่หาย ต้องให้เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ โดยหลายท่านมักเกรงใจ เมื่อเจ้าหน้าที่สาวสวยของศูนย์บอกให้ใช้รถไปก่อน จนสุดท้ายหมดระยะประกัน
- เกียร์มือสองเชียงกง ราคาถูก แต่บางครั้งต้องวัดดวง เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเกียร์ลูกดังกล่าวใช้งานมานานแค่ไหน
- ซ่อมโอเวอร์ฮอล ราคาไม่แพง โดยยิ่งถ้าได้เปลี่ยน “คลัตช์” โอริง และซีล ทุกตัว รับรองใช้ได้เหมือนของใหม่เลยทีเดียว
เกียร์มีปัญหาก็จะมีสาเหตุมาจากระบบเดียวกัน ซึ่งปัญหาและสาเหตุที่พบได้ในเกียร์ CVT มีดังนี้
- สายพานเกียร์ CVT เสีย สายพานของเจ้าเกียร์ CVT ที่ใช้ในบ้านเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเหล็กหรือ Steel Belt สายพานที่เสียหรือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกียร์สลิป หรือเกียร์ลื่น แบบเหยียบคันเร่งลงไปรอบขึ้นแต่รถไม่ไปนั้นละครับ สายพานเกียร์ CVT ไม่สามารถซ่อมได้นะครับ เมื่อเกิดการสึกหรอจะต้องทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งเส้น และในกรณีนี้ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนเฉพาะสายพานเท่านั้น ต้องตรวจสอบสภาพผิวหน้าของพูลเลย์ที่สัมผัสกับขอบของสายพานด้วยว่ามีการสึกหรอหรือไม่ ถ้าสึกหรอก็จะต้องทำการขัดผิวหน้าใหม่ให้เรียบถ้าเปลี่ยนสายพานใหม่แต่ผิวหน้าของพูลเลย์ยังเป็นรอยไม่นานสายพานก็จะเสียอีก
- Pressure Control Valve เสีย Pressure Control Valve หรือโซลินอยด์วาล์วจะติดตั้งอยู่กับ Valve Body หรือส่วนที่ควบคุมการทำงานของเกียร์ทำหน้าที่ในการควบคุมแรงดันน้ำมันในระบบ จะมีแกนวาล์วอยู่ด้านในซึ่งมีการทำงานหรือการเปิด-ปิดแบบลิเนียร์ เมื่อโซลินอยด์ตัวนี้เสียไม่ว่าจะด้วยแกนวาล์วขัดข้องหรือระบบไฟฟ้าของตัวโซลินอยด์เสียก็ตาม เมื่อแกนวาล์วนี้ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลให้การทำงานของเกียร์มีปัญหาไปด้วย ปัญหาที่พบได้ เช่น เกียร์กระตุก จังหวะการเปลี่ยนเกียร์เพี้ยนหรือไม่ปกติ บางทีก็เปลี่ยนบางทีก็ไม่เปลี่ยน เป็นต้น การซ่อมแซมก็คือ ต้องถอด Valve Body ออกมาแล้วทำการเปลี่ยนโซลินอยด์ตัวนี้ใหม่ พร้อมกันนั้นควรจะต้องทำการตรวจเช็คระบบการทำงานของ Valve Body ด้วย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกียร์ทำงานผิดปกติหรือการตอบสนองของเกียร์ผิดเพี้ยนไป
- ลูกปืนเกียร์แตก ลูกปืนเกียร์ CVT จะเป็นตลับลูกปืนขนาดใหญ่พอสมควร ถ้าลูกปืนเกียร์แตกจะมีเสียงดังคล้ายๆ ลูกปืนล้อแตกเกิดขึ้นภายในเกียร์ ถ้าพบว่ามีเสียงดังผิดปกติมาจากเกียร์ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็คและทำการซ่อมก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย ถ้าปล่อยไว้หรือฝืนใช้ไปอย่างนั้น จากที่จะต้องเปลี่ยนแค่ลูกปืนอาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่เลย เพราะถ้าลูกปืนแตกออกจากตลับจะเข้าไปทำให้ระบบต่างๆ ภายในเกียร์พังไปด้วย ซึ่งชิ้นส่วนอื่นๆ ภายในเกียร์จากที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย อาจจะเสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้ ก็คิดดูว่าถ้าเม็ดลูกปืนเข้าไปเบียดไปบดกับชิ้นส่วนต่างๆ มันจะสึกหรอและเสียหายแค่ไหน และถ้าจะต้องเปลี่ยนลูกปืนก็ควรที่จะเปลี่ยนใหม่ทุกจุดทุกตลับที่มีอยู่ภายในเกียร์ไปเลยในคราวเดียว
- ทอล์คคอนเวอร์เตอร์เสีย (Torque Converter) เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ทำหน้าที่ในการรับกำลังงานจากเครื่องยนต์และถ่ายทอดกำลังงานไปยังเกียร์ ปัญหาของทอล์คที่ส่งผลต่อการทำงานของเกียร์และพบบ่อยก็คือ รถเร่งไม่ขึ้นหรือวิ่งไม่ออกเหมือนไม่มีแรง ซึ่งมีสาเหตุมาจากไลน์นิ่วไกด์ของ Lock Up Clutch สึกหรอ ไลน์นิ่งไกด์บน Lock Up Clutch ก็เหมือนกับผ้าคลัชท์ของเกียร์ธรรมดาที่เวลาผ้าคลัทช์หมดกำลังจากเครื่องยนต์ก็ถูกส่งไปยังเกียร์ได้ไม่เต็มที่หรือมีอาการคลัทช์ลื่น
การแก้ปัญหาเกียร์ CVT คงมีอยู่ 2 แนวทางคือ ไม่ซ่อมก็เปลี่ยน เปลี่ยนในทีนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ เพราะเกียร์ CVT ของใหม่มีราคาลูกละประมาณ 150,000 บาท ไม่ใช่ถูกๆ เลย แพงนรก การเปลี่ยนเกียร์ก็คือ การเปลี่ยนเกียร์มือสองนะเลือกดูแบบตาดีได้ตาร้ายเสีย ทางที่ดีให้ช่างไปซื้อให้ดีกว่านะจ๊ะ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ข้อมูล : www.mmsboschcarservice.com / www.motorshop.online
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th