ลองขับใช้งานจริง !! NEW NISSAN NAVARA VL นุ่มนวล ขับสนุก คุ้มราคา
NEW NISSAN NAVARA อย่างที่หลายท่านคงทราบกันอยู่แล้วว่า NEW NISSAN NAVARA คันนี้ไม่ใช่โมเดลเชนจ์ แต่มันคือ บิ๊กไมเนอร์เชนจ์โดยจะใช้โครงสร้างเดิมแต่ก็มีการปรับปรุงหน้าตาให้ดูดุดัน ดูเท่ห์ ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า เรียกได้ว่าการดีไซน์ภายนอกใหม่ของ NEW NISSAN NAVARA โดนใจใครหลายๆคนแน่นอน
ครั้งก่อนเราเคยได้ลองขับเจ้า PRO4X กันไปแบบสั้นๆแล้ว แต่มันก็ไม่ได้รู้อะไรมากนักเพราะมันเป็นแค่การลองขับในสนามปิดแถมสั้นโครตๆ วันนี้เรากลับมาลองขับเจ้า NEW NISSAN NAVARA อีกครั้งบนถนนจริงใช้งานจริง โดยเราจะลองขับ NEW NISSAN NAVARA รุ่น VL ซึ่งราคาถูกกว่า PRO4X แต่ดันได้ออฟชั่นเยอะกว่าอย่างเช่นเบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า และวัสดุภายในที่ดูจะพรีเมี่ยมกว่าเล็กน้อย เราจะลองขับกันบนเส้นทาง กรุงเทพ – กาญจนบุรี ระยะทางวนไปวนมาอยู่ที่ประมาณ 400 กิโลเมตร ออนโรดล้วนๆทั้งไฮเวย์ ขึ้น-ลง เขา ครบๆ มาดูกันว่า NEW NISSAN NAVARA VL คันนี้จะขับดีขนาดไหน
เริ่มจากรูปโฉมภายนอกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดุดัน กระจังหน้าใหม่แบบ Interlock โดยในรุ่น VL จะดูหรูหรากว่ารุ่น PRO4X โดยจะใช้วัสดุโครเมี่ยมเข้ามาช่วยให้หรูหรา ซุ้มล้อขนาดใหญ่เพิ่มความโดดเด่น ระบบไฟหน้าแบบ QUAD – LED คุณภาพสูง 4 ดวงพร้อม Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED แบบเส้นเดียวที่ทันสมัย แต่ยังคงความแข็งแกร่งทนทาน บอกเลยว่านี่ละคือการออกแบบที่ลงตัวที่สุด (ตามความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ)
ภายในห้องโดยสารมีการตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยการใช้กระจกแบบ Noise-reducing acoustic glass และกระจกตอนหลังกรองแสงสีชาเพื่อความสบายตา (กระจกของ NEW NISSAN NAVARA ดีมากครับ แต่ต้องระวังเรื่องเลือกฟิลม์หน่อยเพราะคันที่เอามาติด 3M 40% ยังมืดเลยครับ เพราะฉะนั้นใครไม่ชอบฟิลม์มืดเลือกดีๆครับ ) เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งภายในด้วยหนังแท้รอบห้องโดยสารโทนสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ที่นั่งด้านหลังเพิ่มความสบายด้วยดีไซน์ใหม่นุ่มสบาย (Comfort rear seating cushions) คอนโซลโดยรวมไม่ค่อยโดยใจเท่าไหร่นักเพราะเป็นดีไซน์แบบเดิมๆ
มีที่พักแขนและที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง ซึ่งวางไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นักวางแก้วกาแฟอ้วนๆไม่พอ ผมว่าถ้าไม่เอาที่วางแก้วน้ำบนคอนโซลซ้าย-ขาว แบบรุ่นก่อนหน้าออกไป จะดีกว่าครับ เพราะจุดนี้มันใช้งานสะดวกกว่าครับ ดันเอาออกไปซะนี่ พอร์ต USB Type C บริเวณคอนโซลกลาง มาพร้อมเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน สามารถทำได้ผ่าน NissanConnect ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ ระบบนำทาง (Navigation system) หรือ แอปพลิเคชันฟังเพลงต่าง ๆ ผ่านหน้าจอเครื่องเสียงรถยนต์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงหรือ Voice Recognition
เรามาเริ่มลองขับ NEW NISSAN NAVARA VL กันดีกว่าครับออกจากโรงแรมแถวย่านสาธร รถค่อนข้างแน่น รถกระบะคันใหญ่ๆวิ่งผ่านเมืองรถหนาแน่น ถนนเล็กๆ หลายท่านคิดว่ามันขับยากผมบอกเลยว่า NEW NISSAN NAVARA VL คันนี้มีความคล่องตัวเมื่อขับขี่ในเมือง สามารถลัดเลาะไปตามช่องว่างได้แบบสบายๆ ช่วงล่างนุ่มนวลดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีทีเดียว นุ่มนวลไม่ดีดเด้งเหมือนรุ่นก่อนหน้าแน่นอน
หลุดออกมาจากการจารจรหนาแน่นออกมารถเริ่มบางตามีทางตรงยาวให้ลองอัตราเร่งบอกเลยว่าเครื่องยนต์ใหม่ของ NEW NISSAN NAVARA VL ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ยกมาจาก Nissan Terra มีอัตรเร่งดี ขับสนุก กดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องและนุ่มนวลมากครับ อยากจะไม่แรงกระโดดกระชาก แต่บอกเลยว่าฟิลลิ่งในการขับดี ออกตัวไม่มีห้อยหาย ช่วงกลาง และปลายไหลลื่นสมูทมากครับ ผมว่านิสสันเค้าเซ็ทเครื่องยต์ กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อมโหมดแมนนวล ได้อย่างลงตัวและลื่นไหล ผมชอบมากครับฟิลลิ่งออกตัวรอบต้นดีกว่าคู่แข่งเพราะมีเทอร์โบลูกเล็กคอยช่วยในการออกตัวรอบต้น ไปรอบกลางปลายมีเทอร์โบลูกใหญ่คอยประสาน ทำให้ NEW NISSAN NAVARA VL คันนี้ขับดีมากรับ เร่งแซงได้อย่างสบายๆไม่เสียวไม่ลุ้น มาถึงช่วงขึ้น-ลง เขา สบายๆเลยครับ อัตราเร่งดี เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดทำงานได้ต่อเนื่องลื่นไหล
ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโครง และระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อนพร้อมโช๊คอัพ โดยทั้งหมดถูกปรับจูนใหม่ เพื่อสมรรถนะและการทรงตัวรถขณะขับเข้าโค้งที่ดีเยี่ยม เสริมความมั่นใจได้ทุกเส้นทางนอกจากให้ความนุ่มนวลแล้ว ในช่วงโค้งยังในความแน่น หนึบ พวงมาลัยน้ำหนักดีเฉียบคมควบคุมง่ายมากครับ ระบบเบรคดีมากนุ่มนวลไม่มีหยุดฉึกหัวทิ่มเอาอยู่แน่นอน
นอกจากนี้ NEW NISSAN NAVARA VL ยังมีระบบเพื่อความปลอดภัยแบบเต็มๆ ครบครันกับ Passive Safety จากเทคโนโลยีความปลอดภัย เซฟตี้ ชิลด์ (Safety Shield Technology)
- TCS, VDC, และ TSA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) ช่วยควบคุมล้อให้ค่อยๆหมุนออกตัวโดยไม่เกิดอาการล้อหมุนฟรี มาพร้อม ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักเลี้ยวกะทันหัน รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง Trailer Sway Assist (TSA)
- ระบบเบรก ABS, EBD และ BA ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist – BA) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบหยุดรถอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
- ถุงลมนิรภัย SRS 7 จุด* ประกอบด้วย คู่หน้า / ข้าง และม่านข้างซ้ายขวา และบริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ โดยถุงลมนิรภัยคู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในทุกรุ่น
ระบบขับเคลื่อน เทคโนโลยี และคุณสมบัติเด่นเพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจ
- เทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อ 4×4 (4WD)* ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ หรือ two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ four-wheel drive ได้ทั้ง 4H และ 4L ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อม ฟังก์ชัน shift-on-the-fly ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ขณะขับขี่ (จาก 2H เป็น 4H) เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive หรือ 4LO สำหรับการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร อาทิ ทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูงชัน หรือลงในเส้นทางลาดชัน มาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) โดยระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H ขณะที่ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differential ช่วยเสริมกำลังฉุดเมื่อขับขี่ในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L
เทคโนโลยีความปลอดภัยของนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)
- เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) ระบบจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
- เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) ระบบจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ โดยจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
- เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI) ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) ระบบเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่ของคุณมั่นใจยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิดระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น หากยังพบการเบี่ยงเข้าหาช่องทางด้านข้างที่มีรถตามมา ณ จุดอับสายตา เทคโนโลยีจะส่งแรงเบรกอย่างนุ่มนวลเพื่อดึงรถกลับสู่เส้นทางการขับขี่
- เทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention – ILI) ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนด้วย สัญญาณและเสียงเมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องทางขับขี่ โดยระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้หากพบว่ารถกำลังออกนอกช่องทางขับขี่อย่างต่อเนื่อง และสัญญาณไฟเลี้ยวไม่ได้ถูกเปิด เทคโนโลยีจะส่งแรงเบรก เพื่อดึงรถกลับสู่ช่องทางการขับขี่ เพื่อช่วยและเตือนผู้ขับให้รู้ว่ารถกำลังออกนอกช่องทาง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
- เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ระบบจะเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM)เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ ซึ่งช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้น และพิเศษขึ้นไปอีกสำหรับ นาวารา ใหม่ ที่เพิ่มระบบ Off-Road Meter เพื่อมุมมองขณะขับขี่ไปข้างหน้าในโหมด 4L* นอกจากนี้จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอกลาง ซึ่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและให้ความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
- เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว ขณะที่เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไถลเมื่อขับลงทางลาดชันสูงโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย
นี่คือทั้งหมดของ NEW NISSAN NAVARA VL ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นรถกระบะที่มีช่วงล่างที่นุ่มนวล คล่องตัวขับขี่ในเมืองสบาย ออกต่างจังหวัดเข้าป่า แคมป์ปิ้ง ได้หมด เครื่องยนต์ และเกียร์ทำงานได้อย่างนุ่มนวล ขับสนุก อัดแน่นดด้วยเทคโนโลยีต่างๆมากมาย พาคุณไปได้ในทุกเส้นทาง กับราคา 1,129,000 บาท ผมว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียวครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th