ตู้แอร์คืออีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ต้องดูแล เพราะบางคนอาจมองข้ามไปจนทำให้เกิดการเสื่อมก่อนถึงเวลาอันควร ลองคิดดูว่าถ้าเราขับรถในเมืองที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงแต่แอร์เสียมีแต่ลมไม่มีความเย็นจะทรมานแค่ไหน สำหรับคนที่ ล้างตู้แอร์ ปีละครั้งก็ไม่ต้องห่วงอะไร แต่สำหรับคนที่ไม่เคยดูแลเลยอันนี้แย่แน่เพราะการสะสมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจะทำให้ตู้แอร์อุดตันได้

การล้างตู้แอร์ส่วนใหญ่มีอยู่ 2 วิธี คือ

1. การล้างแบบถอดตู้แอร์
   ข้อดีล้างได้สะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม แถมยังสามารถเช็กสภาพชิ้นส่วนต่างๆ รวมไปถึงสภาพของตู้แอร์ ว่ายังปกติดี หรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้วได้อีกด้วย
   ข้อเสีย ใช้เวลาในการถอดรื้อ และประกอบกลับค่อนข้างนาน อีกทั้งหากเจอช่างที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อประกอบกลับไม่แนบชิด ไม่สนิทเหมือนเดิม แถมยังมีค่าใช้จ่ายสูง
2. การล้างแบบไม่ถอดตู้แอร์
   ข้อดี ประหยัดเวลา ไม่ต้องยุ่งยากถอดคอนโซลออก และไม่ต้องกลัวเรื่องการประกอบคอนโซลกลับไม่แนบสนิท แถมค่าใช้จ่ายยังถูกกว่าการล้างแบบถอดตู้
   ข้อเสีย อาจทำความสะอาดได้ไม่หมด หากตู้แอร์ไม่เคยล้างหลายปี และมีความสกปรกมาก อีกทั้งไม่สามารถตรวจสอบชิ้นส่วน อุปกรณ์ภายในได้ ว่ายังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่

สำหรับวิธีการล้างตู้แอร์แบบไหนที่จะเหมาะสมกับรถของคุณ ต้องดูปัจจัยต่างๆ ให้ดี เช่น หากรถของคุณเป็นรถใหม่มือหนึ่ง ผ่านการใช้งานมาไม่กี่ปี การล้างแบบไม่ถอดตู้แอร์ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม หรือหากเป็นรถเก่า ที่มีการดูแลรักษาระบบแอร์มาเป็นอย่างดี วิธีนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ถ้าหากรถของคุณผ่านการใช้งานมานานแล้ว และไม่เคยล้างตู้แอร์ หรือทำความสะอาดเลย แนะนำว่าให้ล้างแบบถอดตู้แอร์ดีกว่า เพราะคราบสกปรก ฝุ่นผงที่สะสมมานานหลายปี มันจะมีเยอะมาก และฝังคราบไว้แน่นแน่นอน การถอดออกมาล้างข้างนอกทำให้เห็นทุกซอกทุกมุม จึงทำความสะอาดได้ดีกว่า และยังตรวจสอบสภาพตู้แอร์ได้อีกด้วย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th