มีกระแสข่าวลือหลุดออกมาว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Carlos Ghosn ประธานใหญ่กลุ่มพันธมิตร Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance ต้องเผชิญคดีทุจริตที่สร้างความสั่นสะเทือนวงการรถยนต์โลก เกิดจากความพยายามที่จะดูด Nissan เข้ามาอยู่ภายใต้ Renault แบบถาวร ทำให้ถูกคัดค้านอย่างหนักจากผู้บริหารฝั่งญี่ปุ่นที่จะต้องเปลี่ยนสเตตัสไปเป็นบริษัทลูกไล่ของพวกฝรั่งเศส

Ghosn ถูกอัยการญี่ปุ่นจับกุมตัว ที่สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในข้อหาแจ้งตัวเลขรายได้เป็นเท็จต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แดนอาทิตย์อุทัย และนำสินทรัพย์ของบริษัทไปใช้หาประโยชน์ส่วนตัวจนสร้างความเสียหายมหาศาลกว่า 5,000 ล้านเยนหรือราว 1.46 พันล้านบาท

อ่านข่าว-นิสสันเตรียมเด้งบอสใหญ่ Carlos Ghosn-เจอหลักฐานโกงเงิน 1.4 พันล้านบาท

ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมายถึงสาเหตุเบื้องลึกการโค่นอำนาจ Ghosn ที่มีมายาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ Financial Times หนังสือพิมพ์ธุรกิจชั้นนำของประเทศอังกฤษ ออกมาเผยข้อมูลว่าผู้บริหารมือทองวัย 64 ปี กำลังเผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากการเสนอแผนควบรวมกิจการ Nissan เข้าไปอยู่ภายใต้ Renault โดยพยายามจะทำให้เกิดขึ้นจริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

อย่างไรก็ตามแผนควบรวมกิจการครั้งนี้ถูกคัดค้านอย่างหนักจากบอร์ด Nissan จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง Ghosn กับ Hiroto Saikawa ประธานบริหาร Nissan เกิดความตึงเครียดอย่างหนัก โดยหากการควบรวมกิจการเกิดขึ้นจริงจะทำให้สถานะความเป็นพันธมิตรระหว่าง Renault-Nissan ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิม จากการที่ Renault ครอบครองหุ้น 43 เปอร์เซ็นต์ใน Nissan แต่ในทางตรงกันข้ามผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นถือหุ้นเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ในแบรนด์รถยนต์ฝรั่งเศส ทำให้ Renault จะกลายเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่าทันทีหากแผนควบรวมกิจการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ Financial Times ว่า “บอร์ดบริหาร Nissan ประกาศอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อต่อต้านการปรับโครงสร้างองค์กรที่จะทำให้บริษัทต้องถูกเปลี่ยนสถานะกลายเป็นเบี้ยล่าง”

Hiroto Saikawa ประธานบริหาร Nissan

Ghosn รั้งตำแหน่งประธานของทั้ง 2 บริษัท รวมทั้ง Mitsubishi Motors ที่ถูกเทคโอเวอร์เข้าสู่กลุ่มพันธมิตร Alliance เมื่อปี 2016 แต่หลังจากเกิดคดีอื้อฉาว Renault จัดการแต่งตั้ง Thierry Bolloré ขึ้นมารับตำแหน่งประธานบริหารชั่วคราวทันที เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า 2 เก้าอี้ใหญ่ที่เหลือของเขาใน Nissan และ Mitsubishi กำลังจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่นานนี้

แต่ในด้านฝีมือการทำงาน Ghosn ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนวาทยกรของวงออร์เคสตร้าคุมจังหวะให้กลุ่มพันธมิตรที่เป็น 3 ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกดำเนินงานอย่างสอดประสานกัน จนถึงขนาดที่ Osamu Masuko ประธานบริหาร Mitsubishi Motors ยอมรับกับผู้สื่อข่าวหลังจากเกิดเหตุการณ์จับกุมตัวว่า “บนโลกใบนี้คงจะไม่มีใครเหมือน Ghosn ที่สามารถบริหาร Renault, Nissan และ Mitsubishi ในเวลาเดียวกัน”

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Fortune.com/Financial Times

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th