วิธีเลือกผ้าเบรก เลือกให้ดี จะได้ไม่เสียเงินฟรี
“ผ้าเบรก” คือ ชิ้นส่วนสำคัญสำหรับเบรกหรือหยุดความเร็วของรถ โดยใช้หลักการสร้างแรงเสียดทานให้กับดิสก์หรือดรัมเบรก ผ้าเบรกมีหลายประเภทหลายแบบ แต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป เมื่อเราใช้รถยนต์ได้ซักระยะเราควรหมั่นตรวจเช็คผ้าเบรกให้ดีว่ามันหมดหรือยัง หลายคนถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่ามันจะหมด แน่นอนมันมีสัญญาณเตือนครับ ไม่ว่าจะเป็น อาการ เบรกลึก เบรกไม่อยู่ มีเสียงดัง เป็นต้น นั้นแสดงว่าคุณถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกแล้ว และเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกมักเกิดเป็นคำถามขึ้นอยู่ในหัวตลอด เลือกยี่ห้อไหน เกรดอะไรดี บางครั้งเราซื้อแพงสุดไม่ใช้ว่าจะดีจะคุ้มค่าเสมอไปนะครับ ประเด็นสำคัญคือการเลือกเกรดของผ้าเบรก สิ่งที่เจอเป็นประจำคือ เราขับรถ City Car แต่ทางร้านชอบเชียร์ผ้าเบรคเกรดระดับ Super car ให้เรา ซึ่งมันเกินความจำเป็นครับเสียเงินแพงโดยใช่เหตุ รถจะเบรกได้ดี อยู่ไม่อยู่ ทนทานแค่ไหนอยู่ที่เนื้อผ้าเบรกโดยตรง ประสิทธิภาพ ของการเบรก ฟิวลิ่งความรู้สึกเบรคที่แตกต่างกันเลือกยังไงให้ครบทั้ง ความปลอดภัย ใช้งานคุมค่า ราคาเหมาะสม เรามาดูกันครับ
สำหรับผ้าเบรกที่มีขายอยู่ในตลาดบ้านเรา ปัจจุบันมีอยู่ 4 ประเภท ดังนี้
- ผ้าเบรกในกลุ่มที่ เนื้อผ้าเบรก มี ส่วนผสมของสาร Asbestos (กลุ่มผ้าเบรก Standart)
เป็นผ้าเบรกที่ใช้งานตามาตรฐานทั่วไป ใช้งานได้ง่ายสะดวก เหมาะกับการใช้งานในรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงมากนัก ผ้าเบรกในกลุ่มนี้ราคาอาจไม่สูงมาก และสามารถทำงานได้ดีในช่วงตั้งแต่ความเร็วต่ำ เบรกจับได้แน่นและค่อนข้างนุ่มนวลและไม่กินหรือทำให้จานเบรกเป็นรอยมากนัก.. แต่ข้อเสียคือ อาจมีฝุ่นผงของเศษผ้าเบรกเป็นละอองออกมาปะปนในอากาศ หรือสร้างคราบสกปรกติดที่ล้อรถได้ ?ซึ่งผ้าเบรกในกลุ่มนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานในลักษณะของการเบรกหนักๆ ในความเร็วที่สูงต่อเนื่องบ่อยๆ ?เพราะผ้าเบรกในกลุ่มนี้ เมื่อมีความร้อนสะสมมากๆ ?ประสิทธิภาพจะลดลง หรือ หากความร้อนสะสมในตัวผ้าเบรกมีมากจนไม่สามารถคลายตัวได้ในช่วงเวลานั้น ?อาจส่งผลให้เกิดอาการเบรก Fade ในระบบเบรกได้ (อาการเบรก Fade คือ อาการที่เบรกหาย หรือ การที่เหยียบเบรกไปแล้วไม่มีแรงดันในระบบเบรก ..จึงไม่สามารถหยุดรถได้..หากเกินอาการนี้เมื่อไหร่ ท่องไว้ครับ สติๆๆ ..พยายามลดความเร็วด้วยเกียร์ / ค่อยๆ ดึงสลับปล่อยเบรกมือ / ประคับประคองทิศทางรถให้ดีครับ ที่เหลือก็อาศัยประสบการณ์ความสามารถพิเศษที่ผู้ขับขี่มีติดตัวมาครับ)
2.ผ้าเบรกในกลุ่มที่ เนื้อผ้าเบรก ไม่มี สวนผสมของสาร ?Asbestos (กลุ่มผ้าเบรก Semi-metallic)
ผ้าเบรกในกลุ่มนี้อาจดูแล้ว มีความพิเศษกว่าในกลุ่มแรก แต่ก็แน่นอนราคาค่าตัวอาจจะสูงกว่าตามลำดับ ซึ่งผ้าเบรกในกลุ่มนี้ ตัวเนื้อผ้าเบรกจะไม่มีการผสมสาร Asbestos แต่จะผสมสารต่างๆ ในกลุ่ม metallic ลงไปในเนื้อผ้าเบรก ..ซึ่งผ้าเบรกในกลุ่มนี้เหมาะที่เรานำมาใช้กับรถที่เน้นในเรื่องของความเร็วสูงๆ และต้องใช้เบรกบ่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ?เพราะตัวผ้าเบรกสามารถรองรับงานหนักและสามารถทนความร้อนได้สูงวกว่าแบบแรก .. แต่นอกจากข้อดีที่สามารถมองเห็นได้ในความแตกต่างแล้ว ?ผ้าเบรกในกลุ่มนี้ก็ยังมีข้อเสียในตัวมันเองด้วย เช่น ผ้าเบรกในกลุ่มนี้ ในช่วงเวลาที่เบรกเย็นตัวอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เบรกอาจมีลื่นหรือไหลบ้างต้องรอเวลาหรือได้รับการ Warm หรือ มีความร้อนสะสมสักนิดความสามารถในปการเบรกก็จะสูงขึ้น ?จากนั้นขอเสียอีกอย่างหนึ่งที่แตกต่างก็คือ ตัวผ้าเบรกจะมีความทนทานสูงแต่อาจส่งผลเสียกับจานเบรกที่จะทำให้จากเบรกสึกหรอไปได้อย่างรวดเร็ว หรือ มักสร้างรอยต่างๆ ให้เกิดขึ้นบนจานดิสก์เบรกได้
- Metallic แบบอัดขึ้นบล็อคด้วยผงเหล็ก
มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง สามารถทนความร้อนได้ดี มีความไวเมื่อเหยียบเบรกแบบกระทันหัน แต่อาจมีเสียงดังเมื่อใช้งาน และทำให้จานเบรกสึกไวกว่าปกติ
- Semi-metallic ส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นโลหะ
แม้จะทำมาจากโลหะเป็นส่วนใหญ่ แต่มันสามารถระบายความร้อนได้เร็วมาก แต่ก็ยังทนความร้อนได้ไม่ดีเท่าแบบที่ 3 แถมยังมีเสียงดังขณะเหยียบเบรกอีกด้วย
การเลือกผ้าเบรกให้เหมาะกับรถคุณ
สำคัญมากนะครับสำหรับการเลือกผ้าเบรกให้เหมาะสมกับการใช้งานกับรถของคุณ เพราะหากรถของคุณแค่ขับใช้งานธรรมดา ก็ให้เลือกผ้าเบรกชนิดที่เป็นแบบเดียวกันกับของเดิมโรงงาน เพราะมันได้ถูกคำนวณเรื่องการใช้งานมาแล้ว แต่ถ้ารถของคุณแต่งซิ่ง มีกำลังเครื่องยนต์มากขึ้น ก็ควรที่จะเลือกใช้ผ้าเบรกที่มีคุณภาพสูงไปเลย เนื่องจากเบรกธรรมดาอาจเอาไม่อยู่ เมื่อคุณขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- รถบ้าน ใช้งานเดินทางในเมืองไปทำงาน ช้อปปิ้ง ออกต่างจังหวัด นานๆ ครั้ง ในสไตล์นี้ ใช้ผ้าเบรก ในเกรด Standart ที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ก็เพียงพอแล้วครับ ใช้งานง่ายสะดวก ไม่ต้องรออุณหภูมิที่สูงมาก เบรกก็เริ่มทำงานได้ดีในช่วงต้นๆ แล้วครับ
- รถแต่งซิ่ง รถโมดิฟาย เครื่องแรงกว่าเดิม เดินทางต่างจังหวัดใช้ความเร็วสูงๆลากยาวๆ กดไม่ยั้ง ในการใช้รถสไตล์นี้ ขยับมาใช้ผ้าเบรกใน กลุ่มผ้าเบรก Semi-metallic ก็ได้ครับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจ ความทดทานของการสึกหรอของระยะผ้าเบรกได้อีกระดับหนึ่ง เนื่องจากอาจต้องใช้เบรกเยอะ ความร้อนสะสมเยอะเวลาใช้งาน จะได้ไม่เกิดอาการเบรก Fade แต่ช่วงเริ่มการใช้งานในตอนเบรกยังเย็นตัว ควรรอให้อุณหภูมิสะสมในผ้าเบรกสูงสักนิดนะครับ เพราะ ในช่วงเริ่มการใช้งานใหม่ๆ ความร้อนในเบรกยังไม่สูงมาก ลักษณะการเบรกอาจจะมีอาการไหลๆ ลื่นๆ อยู่บ้าง ก็ตามสไตล์ผ้าเบรกใน เกรดนี้
- รถตู้ รถโดยสาร รถกระบะที่ขนของหนักๆ ลุยทางไกล ขึ้นเขาลงห้วยเป็นประจำ สำหรับรถกลุ่มนี้บอกเลยว่า จัดเต็มเลยครับเรื่องผ้าเบรกใช้เกรดดีหน่อยจะดีกว่า กลุ่มผ้าเบรก Semi-metallic เลยครับ เพราะใช้งานคุ้มแน่นอน ที่สำคัญรถในกลุ่มนี้ต้องใช้งานเบรกบ่อย เจอความร้อนที่สะสมสูงๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทางยาวๆ รถหนัก ขึ้นเขาลงเขาบรรทุกสิ่งของต่อเนื่องยาว ๆ งานนี้ เรื่องเบรกต้องสำคัญ จัดเต็มเลยอย่าได้ประหยัดตรงจุดนี้ การใช้งานรถในกลุ่มนี้ต้องตรวจสอบระบบเบรกและส่วนควบทั้งระบบ ทุกระบบเป็นประจำ ครับ เพราะรถใช้งานหนักต่อเนื่องความสึกหรอย่อมเกิดได้มากและเร็วกว่าการใช้งานในรูปแบบอื่นๆ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ข้อมูล : Lensowheel
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th