สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อรถยนต์ subaru forester 2021
ปัจจุบันรถยนต์สำหรับครอบครัว หรือรถยนต์แบบ SUV กำลังมาแรงโดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อรถยนต์ประเภทนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวแบบครอบครัวกำลังได้รับความสนใจ เพราะฉะนั้นการมีรถยนต์ที่สมาชิกทุกคนสามารถโดยสารไปพร้อมกันได้ และยังขนสัมภาระต่าง ๆ ไปพร้อมกันได้ อาจจะมีจำนวนหลากหลายรุ่นและยี่ห้อ แต่สำหรับบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ subaru forester 2021 ซึ่งเป็นรถยนต์แบบ SUV เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ สำหรับคนที่สนใจสามารถศึกษาสิ่งที่ควรรู้ก่อนได้เพื่อใช้ในการตัดสินใจ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ subaru forester
สำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์สำหรับครอบครัว การเลือกซื้อรถยนต์ subaru forester ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเป็นรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นก่อนอาจจะมีความแรงไม่เพียงพอ ทำให้ทางญี่ปุ่นได้ทำการคิดค้นและพัฒนามาเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดรถรุ่นล่าสุดและได้ทำการเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่กำลังลังเลว่าจะซื้อรถยนต์รุ่นนี้ดีหรือไม่ สามารถศึกษาข้อมูลก่อนได้
- เครื่องยนต์แบบใหม่
สำหรับรถยนต์ซูบารุรุ่นนี้ที่ได้ทำการเปิดตัวแล้วในปี 2021 มีการพัฒนาเครื่องยนต์รูปแบบใหม่ให้มีความเร็วและแรงมากขึ้น โดยรุ่นปัจจุบันเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร มีกำลังสูงสุดคือ 174 แรงม้า ที่ไม่เกิน 5,600 รอบต่อนาที จึงส่งผลให้มีความเร็วเป็นอย่างมาก แม้ว่าในประเทศไทยจะมีการจำหน่ายที่กำลังสูงที่สุดคือ 156 แรงม้าก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ SUV ของยี่ห้อซูบารุที่มีความเร็วและแรงมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด e-Boxer ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 2 ลิตร มีกำลังสูงที่สุดคือ 145 แรงม้า ถือว่าเป็นรถที่มีความเร็วมากที่สุดในสายรถยนต์ไฮบริด
- ภายนอกรถยนต์
มีกระจังหน้ารถยนต์แบบหกเหลี่ยมซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่ถูกสร้างขึ้นมาให้รถยนต์รุ่นนี้มีความโดดเด่น ซึ่งกระจังหน้ามีสีดำและยังมีล้อสีเข้มซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 17 ไปจนถึง 18 ด้วยกัน มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ที่จะส่องสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ที่มีรูปร่างตัว C ที่โค้งรับการตัวรถเพิ่มความหรูหราให้แก่รูปทรงของรถยนต์ เสริมด้วยไฟตัดหมอกเพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยเพิ่มขึ้น กระจกมองข้างที่มีไฟเลี้ยงในตัว
- ภายในรถยนต์
มีเบาะหนังกลับด้านแบบสีพิเศษ ที่มีให้เฉพาะในรถยนต์รุ่นนี้เท่านั้น เบาะหลังสามารถพับเก็บได้ถึง 60 : 40 ด้วยกัน ถ้าหากไม่มีคนนั่งก็พับและวางของได้ มีจอสัมผัสขนาดใหญ่เพื่อให้รับชมความบันเทิงได้อย่างจุใจ ทั้งดูหนัง ฟังเพลงขณะขับรถไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ มีแผงคอนโซลหน้าหรูหราอย่างดี ที่จะช่วยให้คุณสามารถอ่านง่ายเพิ่มขึ้นและมีความชัดเจน มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามด้าน
- รุ่นของรถยนต์ที่มีการจำหน่าย
สำหรับรถยนต์ subaru forester ได้มีการจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว แม้ว่าราคาเปิดตัวคือ 900,000กว่าบาท แต่เมื่ออยู่ในประเทศไทยและมีการเสียภาษีทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากกว่ารถยนต์รุ่นอื่น โดยรุ่นนี้มีให้เลือกซื้อทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,330,000 บาท ไปจนถึง 1,550,000 บาทด้วยกัน ได้แก่ รถยนต์รุ่นที่ 1 คือ 2.0i-L ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่เล็กสุด มีราคาเริ่มต้นที่ 1,330,000 บาท รุ่นที่ 2 คือรุ่น 2.0i-L 360 camera โดยรุ่นนี้จะมีกล้องมองเสริมเข้ามาในรถด้วย มีราคาเริ่มต้นที่ 1,350,000 บาท รุ่นที่ 3 คือรุ่น 2.0i-S มีราคาเริ่มต้นที่ 1,380,000 บาท รุ่นที่ 4 คือรุ่น 2.0i-S 360 camera มีราคาเริ่มต้นที่ 1,400,000 บาท รุ่นที่ 5 คือรุ่น 2.0i-S EyeSight มีราคาเริ่มต้นที่ 1,450,000 บาท รุ่นที่ 6 คือรุ่น 2.0i-S GT-Lite 360 camera ตัวใหม่ล่าสุด มีราคาเริ่มต้น 1,425,000 บาท รุ่นที่ 7 คือรุ่น 2.0i-S EyeSight 360 camera มีราคาเริ่มต้น 1,470,000 บาท และรุ่นที่ 8 คือรุ่น 2.0i-S EyeSight GT-Edition 360 camera มีราคาเริ่มต้นที่ 1,550,000 บาท จะเห็นได้ว่าทั้ง 8 รุ่นมีราคาที่แตกต่างกันไม่มาก สำหรับคนที่ต้องการซื้อควรจะตรวจสอบข้อมูลเฉพาะของแต่ละรุ่นด้วย เพื่อให้ได้รุ่นที่ตามความต้องการของตนเอง
- ศูนย์บริการ
เนื่องจากรถยนต์ซูบารุ เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม ทำให้ศูนย์บริการอาจจะมีไม่มาก อาจจะต้องตรวจสอบศูนย์บริการใกล้บ้านตนเองก่อนที่จะเลือกซื้อ แม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้และยี่ห้อนี้จะมีราคาที่ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ แต่ด้วยที่เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น ทำให้บางคนอาจจะยังไม่ค่อยชอบและอาจจะคิดว่ารถยนต์มีกำลังน้อย ส่งผลถึงศูนย์บริการมีเปิดน้อย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกและหาศูนย์บริการที่ใกล้คุณได้ง่ายเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นหมดห่วงได้เมื่อรถเกิดปัญหา
สำหรับคนที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับรถยนต์ subaru forester 2021 เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเริ่มจากการหาศูนย์รถยนต์ของยี่ห้อที่ใกล้บ้านก่อน เพื่อใช้ในการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจะเลือกสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ เมื่อซื้อรถยนต์รุ่นนี้แล้วจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากจะมีราคาที่ไม่แพงมากแล้วความคุ้มค่าในเรื่องของการใช้งานก็สูง สามารถใช้ได้นานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และผู้ขับขี่ควรที่จะตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขณะเดินทางไกล
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th