สุดยอดรถในตำนาน ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังคงความฮอตฮิตไม่เสื่อมคลาย หลายท่านอาจจะอยู่ในยุคที่รถเหล่านี้เพิ่งออกมาใหม่ๆบางท่านอาจจะเคยเคยวิ่งบนท้องถนนปัจจุบัน บางท่านเป็นเจ้าของครอบครองรถสุดคลาสสิกเหล่านี้อยู่ เรามาดูกันว่าเจ้ารถพวกนี้ทำไมมันยังได้รับความนิยมตลอดจนมาถึงทุกวันนี้

1.Nissan Skyline GT-R 1999 (R34)

สุดยอดแล้วครับคันนี้ เป็นรถยนต์ที่หลายต่อหลายคนฝันว่าอยากจะได้เป็นเจ้าของ เพราะทั้งรูปทรงที่เท่ห์โดนใจ เครื่องยนต์ที่แรงซะใจ ของเจ้า R34 GT-R เจนอร์เรชั่นที่10 ของตระกูล GT-R เกิดขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิตอลในยุค2000 R34 ทุกคันติดตั้งจอแสดงผลแบบ LCD ที่สามารถแสดงข้อมูลของเครื่องยนต์และตัวรถในขณะขับใช้งานได้ถึง 7 แบบส่วนรุ่น V-Spec มีโครงรถผสมกันระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์อลูมินัมและเหล็กกล้าฝากระโปรงหน้าทำจากอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักจึงนับได้ว่ารถรุ่นนี้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงมาก นักเลงรถ Skyline บางคนถึงกับยกให้มันเป็นรถSkyline Gt-r ที่มีรูปทรงสวยงามอมตะและคงความคลาสสิกตลอดกาล R34 GT-R วางเครื่องยนต์แถวเรียงหก6 สูบ RB 26 DETT ขนาด 2568 c.c.ทวินเทอร์โบ 330แรงม้า เร่งจาก0-100 กิโลเมตรภายในเวลาแค่ 4.5 วินาทีเท่านั้น  ราคาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท จนไปถึงแถว 2 ล้านบาทก็ยังมี

2.Toyota Supra A80

Toyota Supra A80 ในช่วงปี 1989 ที่เจ้าคันนี้ออกวางจำหน่ายมันเป็นรถที่เร็วที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่น เป็นรถที่นิยมเอามาแต่งแรงอย่างมากเพราะความสามารถในการรองรับเครื่องได้หลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีรูปทรงรถที่ลู่ลมดีเยี่ยมรูปลักษณ์สวยงาม โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ไม่ว่าจะผ่านไปนานหลายปีก็ยังคงดูดี และเป็นที่นิยมอยู่ โดยโครงสร้างพื้นฐษนของรถรุ่นนี้นำมาจากรถ Z30 Soarer (Lexus SC300/400) เครื่องยนต์ 2JZ-GTE  Twin Turbocharged เกียร์ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 276 แรงม้า ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 9 แสนปลาย ไปถึง 1 ล้านปลายเลยครับ

3.Nissan Silvia S15

Silvia S15 เผยโฉมในปี 1999-2002 ถือว่าเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูล Silvia โดย S15 มีไฟหน้าที่แบบโปรเจคเตอร์(Projector), หลังคาซันรูฟ(Sunroof) และใบปัดน้ำฝนด้านหลัง  มีให้เลือกทั้ง Sport Coupe และ Convertible (เปิดประทุน) รุ่นย่อย Spec-S และ Spec-R  เครื่องยนต์ SR20DE 4สูบแถวเรียง ความจุ 1,998 ซีซี. 16 วาล์ว ไม่มีระบบอัดอากาศ(N/A) ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า และขุมพลัง SR20DET, SR20DE 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1,998 ซีซี. 16 วาล์ว พร้อมระบบอัดอากาศจาก(เทอร์โบ) ให้พละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิด 274 นิวตันเมตร ราคาปัจจุบันประมาณ 8 แสนปลาย ถึง 1 ล้านต้น

4.Mazda RX-7 FD 1991-2002

RX-7 รุ่นที่3 รุ่นนี้ถือเป็นสายพันธุ์สุดท้ายของสปอร์ตขุมพลังโรตารี่ เพราะขณะที่ตลาดรถสปอร์ตญี่ปุ่นเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง บวกกับมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้นเช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่เริ่มแพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มาสด้าไม่ต่อยอดในการทำตลาดให้กับ RX-7 ต่อไป และเลิกการผลิตในปี 2002 แต่ก็ยังไม่เลิกผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ เพราะหลังสิ้นสุด RX-7 มาสด้าก็มี RX-8 สปอร์ต 4 ประตูเปิดในแบบตู้กับข้าวออกมาขายแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่เพราะรูปทรงไม่โดนใจ  Mazda RX-7 ชื่อเต็มว่า Efini RX-7 หรือ FD3S ซึ่งตลอด 9 ปีนี้ Mazda เองได้ปรับแต่งเจ้า FD ไปหลายแบบมาก ตั้งแต่ FD3S Type R ตัวมาตรฐาน ต่อมาจะมี Type RS ซึ่ง ขยายไปใช้แม็ก 17” และลดน้ำหนักลง เหลือ 1280 กก. ตามมาด้วย Type RZ ที่โดยรวมจะเหมือนกันแต่ลดน้ำหนักลงไปอีก 10 กก. ตามมาด้วย Spirit R ที่ จะถูกตกแต่งเป็น 3 รุ่นย่อยตาม Feature ที่ Mazda เคยแต่งพิเศษไปก่อนหน้านี้ โดยมี 3 Type 1.Type A มาพร้อมกับ เกียร์ 5 สปีดที่สมรรถนะ สูงสุดใน 3 รุ่น 2.Type B มาพร้อมกับ ที่นั่ง 2+2 (โอ้ชอบมาก หายากด้วยนะเนี่ย ใครมีครอบครัวผมขอคันนี้เลยนะครับ ) มาพร้อมกับ เกียร์ 5 สปีด 3.Type C ที่นั่ง 2+2 เหมือนกันแต่มาพร้อมกับ เกียร์ ออโต้ 4 สปีด การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ตามที่คง Concept นี้มาตั้งแต่ รุ่นก่อนๆ รวมถึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ทำให้เรายังสามารถพบ FD3S ในการแข่งขันในปัจจุบันนี้ได้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์โรตารี่กำลังสูงสุดของรถที่ออกมาจากโรงงานคือ 280 แรงม้า ปัจจุบัน FD3S นั้นยังเป็นนิยมไม่ว่าการแข่งขันรูปแบบของ Drag ,Circuit , Drift FD3S จุดเด่นอีกอย่างของ FD คือ สาวๆชอบไม่น้อยเรียกได้ว่าขับไปหญิงโดนขึ้นแน่นอน หากไม่เชื่อลองดูครับ  ราคาปัจจุบันประมาณ 9แสนถึง 1 ล้านปลาย

5.Mitsubishi Evolution 9 MR

เมื่อกล่าวถึงรถยนต์ซีดานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แน่นอนว่า Mitsubishi Evolution ต้องเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่แวบเข้ามาในหัวเราอย่างแน่นอน  แม้ชื่อรุ่นของอีโวลูชั่น 9 MR (รหัสรุ่น CT9A) และ แวกอน MR (CT9W) จะระบุชัดว่าเป็นเลข 9
ทว่ารถรุ่นใหม่นี้ถือเป็นรุ่นที่ 14 ในสายพันธุ์อีโวลูชั่น นับตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 1992 เจ้าคันนี้เน้นการตอบสนองการขับขี่ บนถนนทางเรียบได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเสริมความแข็งแรง และเปลี่ยนมาใช้วัสดุรูปแบบใหม่ๆ เป็นหลัก อีกทั้งยังเน้นอัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ เอาใจลูกค้าผู้รักทั้งความแรง แต่ขอความสบายเหลือไว้ให้สมกับค่าตัว ที่ต้องถือว่าแพงในบรรดารถยนต์ที่จำหน่ายในแดนปลาดิบ รุ่น MR ช่องรับอากาศของกันชนหน้า มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และเพิ่มครีบดักอากาศ บริเวณฝั่งซ้าย และขวา ของเปลือกกันชนหน้าเอาไว้ด้วย เพื่อลดกระแสลมยกด้านหน้า ขณะวิ่งด้วยความเร็ว นอกจากจะเป็นอีโวลูชันรุ่นสุดท้ายของตัวถังนี้แล้ว มิตซูบิชิ ยังประกาศอีกว่า อีโวลูชัน 9 MR จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่วางขุมพลัง เจ้าเก่ารหัส 4G63 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี โดยในเวอร์ชันนี้ จะถูกปรับปรุงอินเตอร์คูลเลอร์และเทอร์โบที่ถูกเปลี่ยนมาใช้ใบพัดเทอร์โบแบบใหม่ ใบเล็กทำจากไทเทเนียม และใบใหญ่ทำจากแม็กนีเซียมอัลลอยเบายิ่งขึ้น ตัวเลขพละกำลังยังคงเหมือนเดิมทุกรุ่น โดยรุ่นอีโวลูชัน 9 MR ซีดานทุกคัน จะยังคงอยู่ที่ 280 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ราคาปัจจุบันอยูที่ประมาณ 9 แสนถึง1ล้านต้น

6.Subaru Impreza WRX STi Version3

Impreza คู่ปรับของ Evo ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถสปอร์ต 4×4  ในเวอร์ชั่นที่ 1 กับ 2 ใช้เครื่องยนต์ Boxer EJ20G (คอไอดียังไม่เป็นสีแดงยังคงเป็นสีขาวธรรมดาอยู่) แรงม้าสูงสุด 250 แรงม้าที่ 6,500 รอบ ก่อนที่ ซูบารุ นั้นจะผลิตเจ้า Imperza STi Version2 ออกมาก็ได้ทำการปล่อยตัว WRX STi Type RA ออกมาก่อน โดยตัวนี้นั้นได้มีการพัฒนาจากตัว Version1 ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 275 แรงม้าแต่คอไอดีก็ยังคงเป็นสีขาวเช่นเดิมนะครับ บ้านเราจะมาฮิตกันในเวอร์ชั่นที่ 3 Subaru Impreza WRX STi Version3 ของขายในปี 1996 Subaru ภายนอกนั้นได้ทำการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ไล่มาตั้งแต่ ไฟหน้า เป็นมุมเป็นเหลี่ยมมากขึ้น หางหลังนั้นก็จะเหมือนตัว Version 2 ล้อจะมีลักยิ้มสีทองๆ แต่มี Option พิเศษเป็นล้อ BBS ขอบ 16 มาให้เลือกด้วยครับ และก็เพิ่มไลน์การผลิตของตัว 2 ประตูคูเป้ด้วย ซึ่งชื่อรุ่นของมันก็คือ STi Version3 Type R นั่นเองครับ และใน Version3 นี้ก็ได้ทำการเพิ่มระบบเบรคเข้ามาจากเดิมเบรคหน้า 2 Ports เป็น 4 Ports ครับ ส่วนของเครื่องยนต์ ก็ได้รับการพัฒนาไปมากพอสมควร โดยเปลี่ยนจากรหัส EJ20G เป็น EJ20K (ในบ้านเรานิยมเรียกว่า เครื่องคอแดงคอยล์กลาง) แรงม้าสูงสุด 280 แรงม้าที่ 6,500 รอบ สุดยอดเลยครับคันนี้ ราคาปัจจุบันอยู่ที่ ประมาณ 3 แสนถึง 4 แสนปลาย

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

ขอบคุณภาพประกอบ : AUTOWP.RU , RACEFRIV.COM , GOOGLE