อั ล ติ ส 2014 รถยนต์ยอดนิยมในไทย เปิดตัวมาพร้อมกับรูปโฉบที่ปราดเปรียวมากกว่าเดิม
สำหรับรถยนต์ อั ล ติ ส 2014 หรือที่หลาย ๆ ท่านรู้จักกันในชื่อ Toyota Altis โดยรถยนต์รุ่นนี้จะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เมื่อรถยนต์รุ่นนี้ได้มีการออกเจเนอร์เรชั่นใหม่ มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียว ดูทันสมัย แถมยังคงแฝงมาด้วยความสปอร์ต พร้อมทั้งยังมีการวางเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการขับขี่สูง และที่สำคัญยังมีการเสริมเข้ามาด้วยระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ทำให้ในรุ่นนี้เป็นที่สนใจแก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ด้วยความที่ทางบริษัท Toyota ต้องการให้ผู้ใช้งานทุกท่านมองว่ารถรุ่นนี้ มีความแตกต่างไปจากเดิม ด้วยการออกแบบเส้นสายแบบใหม่ ที่เรียกว่า Waku Doki ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นจะหมายถึง การสร้างความตื่นเต้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น จึงส่งผลให้การพัฒนารถรุ่นใหม่จะเน้นในเรื่องความประณีตเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Toyota อั ล ติ ส 2014
ในส่วนของสมรรถนะการขับขี่ หรือเครื่องยนต์ของ อั ล ติ ส 2014 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ให้ผู้ใช้งานเรื่องได้ทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
- เครื่องยนต์ 2ZR-FBE DUAL VVT-i 4 สูบ 16 วาล์ว 8 ลิตร ที่จะมีการให้สมรรถนะในการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยระบบวาล์วอัจฉริยะคู่ Dual VVTi และระบบ ACIS ที่จะช่วยในเรื่องของการควบคุมอากาศ ที่จะไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องยนต์รุ่นนี้มีสมรรถนะในการขับขี่ และแรงบิดดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในรุ่นนี้ยังสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้อีกด้วย ในส่วนของสมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์รุ่นนี้จะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 177 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ในส่วนของระบบเกียร์ จะมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีด
- เครื่องยนต์ 1ZR-FE DUAL VVT-i 4 สูบ 16 วาล์ว 6 ลิตร โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบ Dual VVTi ที่จะให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 90 กิโลวัตต์ หรือ 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และจะให้กำลังแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 154 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบต่อนาที ในเครื่องยนต์รุ่นนี้ จะมีให้เลือกทั้งแบบระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVTi 7 สปีด อีกทั้งยังมีเวอร์ชันของพลังงานทางเลือกติดตั้งแก๊ส CNG ที่จะมีการติดตั้งให้มาจากโรงงาน โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ตามต้องการเลยทีเดียว
โดยเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual-I ที่จะมีการทำหน้าที่ปรับจังหวะของลิ้นไอดี และไอเสียแปรผัน โดยจะมีการทำงานสอดคล้องกับเครื่องยนต์ ซึ่งการปรับจังหวะของลิ้นไอดีนี้ จะเป็นการทำงานในส่วนของการช่วยควบคุมปริมาณไอดีให้เหมาะสมกับการจุดระเบิด เพื่อให้เครื่องยนต์มีอัตราการเร่งที่ดีกว่าเดิม และสำหรับการปรับจังหวะของลิ้นไอเสีย จะมีส่วนช่วยในเรื่องการปล่อยไอเสียที่มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงทำให้เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม และสมบูรณ์แบบมากที่สุดเลยทีเดียว
รูปลักษณ์ภายนอก และรูปลักษณ์ภายในของ อั ล ติ ส 2014
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ อั ล ติ ส 2014 จะมาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการเน้นในเรื่องของความทันสมัย ผสมผสานกับความเป็นสปอร์ตให้มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจึงสามารถตอบโจทย์ให้แก่ผู้ใช้งานในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนโฉมในครั้งนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ ชุดไฟหน้าที่จะใช้เป็นไฟ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ที่จะมีการกลมกลืนเข้ากับดีไซน์กระจังหน้ารูปแบบใหม่ ในส่วนของไฟท้ายจะใช้เป็นไฟ Surface illumination ดีไซน์ใหม่ ที่จะทำให้ดูเรียวงาม และมีความคมเข้มมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว
ในส่วนของภายในห้องโดยสารของรถยนต์ อั ล ติ ส 2014 จะเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายเป็นส่วนใหญ่ ด้วยการเพิ่มระยะห่างระหว่างผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลัง มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 75 ม.ม. โดยในห้องโดยสารจะมีการตกแต่งมา 3 โทนสีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ สีเบจ และสีเทา ซึ่งจะเพิ่มความเรียบหรูได้มากยิ่งขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการออกแบบการใช้งานต่าง ๆ ให้ง่าย และสะดวกต่อผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยคอนโซลด้านหน้าจะทำมาจาก Cyber Carbon ให้การสัมผัสที่นุ่มนวล และยังมาพร้อมกับพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงดูเร้าใจ ให้ความเป็นสปอร์ตคาร์มากขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญยังมีกระจกมองหลัง ที่จะแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้อีกด้วย ให้ความสะดวก และความปลอดภัยในการขับขี่ได้ดีมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
จากที่เพิ่งกล่าวมานี้จะเห็นได้เลยว่า Toyota อั ล ติ ส 2014 จะมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์ ที่จะมาพร้อมกับระบบอัจฉริยะมากมาย อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งานได้ถึงสองรุ่นด้วยกัน อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ยังมีพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเดี่ยว ดูทันสมัย และให้ความเป็นสปอร์ตมากกว่าเดิม ในส่วนของรูปลักษณ์ภายในจะเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการออกแบบอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสี หรือเครื่องของการจัดวางต่าง ๆ ภายในตัวรถ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th