ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐอเมริกาต้องลุ้นกันจะได้รับผลกระทบอะไนจากนโยบายของทรัมป์บ้าง ทางฝั่งอังกฤษก็ต้องลุ้นหนักไม่แพ้กันว่าจะมีข่าวร้ายอะไรที่กระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นผลมาจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรหรือ Brexit บ้าง และล่าสุดก็มีข่าวร้ายออกมาจาก Ford ที่ตัดสินใจปิดโรงงานที่เวลส์เนื่องจากยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรปหลังการแยกตัว

จากที่ก่อนหน้านี้ทาง Ford เคยเตือนว่าการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรโดยไม่มีข้อตกที่ชัดเจนอาจส่งผลกระทบตามมา ล่าสุดทางผู้ผลิตรถยนต์อเมริกาได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบนั้นแล้ว ด้วยการประกาศยุติการผลิตเครื่องยนต์และปิดโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ Bridgend ทางใต้ของเวลส์ซึ่งมีคนงานประมาณ 1,700 คนในช่วงปลายปี 2020 หลังสิ้นสุดสัญญาการผลิตเครื่องยนต์ให้ Jaguar Land Rover แม้จะอ้างว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างประสิทธิภาพและเน้นธุรกิจในยุโรปมากขึ้นก็ตาม

Stuart Rowley ประธาน Ford ยุโรปบอกว่า “เรายังมั่นใจในสหราชอาณาจักร แต่อย่างไรก็ตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ รวมทั้งการไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ที่จะผลิตต่อไปในอนาคตที่ Bridgend ส่งผลต่อความไม่มั่นคงด้านรายได้ของโรงงานในอนาคต” นอกจากนี้ผู้บริหารของ Ford ยุโรปยังบอกเพิ่มว่าบริษัทต้องการขยายแผนงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับตลาดโลกเพื่อการรองรับที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ในอนาคต

สำหรับโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ Bridgend เปิดมาตั้งแต่ปี 1977 โดยนอกจากเป็นสถานที่ผลิตเครื่องยนต์ให้กับ Jaguar Land Rover แล้ว ยังเป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ EcoBoost 1,500 ซีซี เจนเนอเรชั่นใหม่ของ Ford ด้วย โดยแผนการปิดโรงงานแห่งนี้จะเริ่มด้วยการยุติผลิตเครื่องยนต์ EcoBoost ของตนเองในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 และตามด้วยการยุติผลิตเครื่องยนต์ให้ Jaguar Land Rover ในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตามในสหราชอาณาจักร Ford ยังมีโรงงาน Dagenham สำหรับผลิตเครื่องยนต์ดีเซลทางตะวันออกของลอนดอน และโรงงาน Halewood Getrang Ford Transmission ซึ่งเป็นโรงงานร่วมทุนที่เมอร์ซีย์ไซด์ รวมไปถึงมีศูนย์เทคนิค Dunton Technocal Center ในเอสเซก และสำนักงาน Mobility Innovation Office ในลอนดอน

Ford เป็นผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศรายล่าสุดที่ประกาศปรับแผนงานในสหราชอาณาจักรภายหลังการลงประชามิติแยกตัวจากสหภาพยุโรป โดยก่อนหน้านี้ได้มีผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่ออกมาประกาศถึงแผนการที่เปลี่ยนไปก่อนแล้วทั้ง Nissan ที่ยุติแผนการผลิตรถเอสยูวีรุ่น X-Trail เจนเนอเรชั่นต่อไปสำหรับยุโรปในโรงงานที่ซันเดอร์แลนด์ตามที่เคยวางแผนไว้ แต่เปลี่ยนไปผลิตที่โรงงาน Kyushu ในญี่ปุ่นแทนทั้งที่ได้มีการขยายโรงงานที่ซันเดอร์แลนด์ไปแล้ว

หลังจาก Nissan ก็เป็น Honda ที่ถึงขั้นประกาศปิดโรงงานที่เมืองสวินดอนในปี 2022 ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานที่ผลิต Civic แฮทช์แบ็กสำหรับอังกฤษ ยุโรป รวมทั้งตลาดภูมิภาคอื่นและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผู้ผลิตรถถยนต์ของอังกฤษเองแม้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการย้ายการผลิต แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาทั้ง Jaguar Land Rover, Mini รวมทั้ง Vauxhall ก็ได้มีการยุคิการผลิตในระยะเวลาที่แตกต่างกันจากความไม่ชัดเจนเรื่องข้อตกลงหลัง Brexit

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th