ฮอนด้า City Hatchback ที่สายแคมป์จะต้องถูกใจ
เห็นรูปร่างของ ฮอนด้า City Hatchback แล้วทำให้นึกถึงสายลม แสงแดด และแนวป่า เพราะด้วยคุณสมบัติสำคัญของเค้าคือการปรับพื้นที่ห้องโดยสารได้หลากหลายตามการใช้งาน ด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีท (ULTR) นั่นทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตร่วมกับรถคันนี้ได้แบบเต็มที่ ตามแต่สไตล์ของแต่ละคน และหากเป็นสายแคมป์ที่ไม่อยากได้รถทรงกล่องหรือรถขนาดใหญ่แบบเอสยูวี แต่ยังชอบรถทรงแฮทช์แบคที่สามารถออกแคมป์เที่ยวธรรมชาติตามอุทยานได้ คิดว่านี่แหละคือรถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบนี้ที่สุดในเวลานี้
ความพิเศษที่รองรับไลฟ์สไตล์ของฮอนด้า City Hatchback ดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ผ่านการคิดมาแล้วหลายตลบอย่างแน่นอน เพราะการที่จะทำให้พื้นที่ห้องโดยสารปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของขนาดพื้นที่ห้องโดยสารและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องโดยสาร และที่สำคัญที่สุดนั่นคือเบาะนั่งนั่นเอง หากมองดูรถในกลุ่มนี้ในตลาดแล้วลองปรับเบาะดูจะเห็นความแตกต่างในทันที ซึ่งปกติแล้วเบาะจะไม่สามารถพับให้ราบเรียบได้ แต่สำหรับฮอนด้า City Hatchback เบาะนั่งเป็นแบบอัลตร้า ซีท (ULTR) ที่สามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 แล้วยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มีความอเนกประสงค์ได้อีก 4 โหมด แถมยังมีห้องสัมภาระขนาดใหญ่ แม้ว่าจะยังไม่ได้พับเบาะอีกด้วย
นอนยาวๆ กับ Refresh Mode
เพิ่มพื้นที่ในแบบ Long Mode
พับเรียบแบบปกติ Utility Mode
พับเบาะขึ้นในแนวตั้งแบบ Tall Mode
เจ้า 4 โหมดที่ว่านี้ คือการปรับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน ปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง (Utility Mode), เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว (Long Mode), เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง (Tall Mode) และเบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ห้องโดยสารให้กลายเป็นพื้นที่นอนเหยียดยาวได้สบายสุดๆ (Refresh Mode) นั่นเท่ากับว่ารถคันนี้สามารถใช้พื้นที่ห้องโดยสารให้สามารถจัดวางสัมภาระได้ตั้งแต่กระเป๋าเดินทาง จักรยาน ต้นไม้ที่สูง 1.50 เมตร หรือถ้าใครชอบแต่งบ้านจะมีปัญหากับการไปซื้อของแต่งบ้านที่บางอย่างใหญ่เกินกว่าจะใส่ไว้ในห้องโดยสารของรถในแบบซีดานได้ ซึ่งการปรับพับเบาะของฮอนด้า City Hatchback ช่วยได้เยอะ แถมยังขนของได้อีกเพียบ ไม่ต้องจ้างรถมาส่งของที่บ้านกันอีกแล้ว
หรือจะออกไปแคมป์ อย่างในช่วงอากาศเย็นๆ แบบนี้ อยากไปนอนกางเต้นท์ที่ทุ่งแสลงหลวง ก็เปลี่ยนจากนอนในเต้นท์เป็นการปรับเบาะให้เป็น Refresh Mode แล้วปูฟูกนอนในรถได้สบาย ซึ่งในพื้นที่ปกติสามารถจัดเก็บสัมภาระด้านท้ายได้มากอยู่แล้ว เรื่องอุปกรณ์ตั้งแคมป์ โต๊ะเก้าอี้ กระเป๋าเสื้อผ้ามีพื้นที่ได้ใช้อย่างจุใจจริงๆ พูดได้ว่าค่ำไหนนอนนั่นได้เลยล่ะ
เขียนเกี่ยวกับพื้นที่ห้องโดยสารมาซะเยอะ เพราะนี่แหละเป็นไฮไลท์ของ ฮอนด้า City Hatchback ส่วนเรื่องของการขับล่ะเป็นอย่างไร..ต้องบอกว่ามีความแตกต่างจากรุ่นตัวถังซีดานเพียงเล็กน้อยแทบจะไม่รู้สึก ความแตกต่างไปอยู่ที่น้ำหนักของตัวถังที่น้อยกว่า ช่วงตัวถังที่สั้นกว่า ทำให้การขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมีความมั่นคงมาก ยิ่งมีสัมภาระถ่วงท้ายเอาไว้อีกหน่อยจะยิ่งทำให้ช่วงล่างแน่นมากขึ้นไปอีก โดยรวมยังคงให้ความขับสนุก และมั่นใจในทุกโค้ง การเร่งแซงในจังหวะเร่งด่วน ด้วยขุมพลัง 1 ลิตร เทอร์โบ 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ทำได้กระฉับกระเฉงมาก ซึ่งเจ้าเครื่องเล็กๆ ขนาด 1 ลิตรนี้ ขยับความแรงไปสู้กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 หรือ 1.8 ลิตร ได้สบาย เรื่องของความแรงเมื่อเทียบกับพิกัดตัวถังถือว่าสอบผ่าน
ส่วนเรื่องของอัตราสิ้นเปลือง มีตัวเลขเคลมเอาไว้ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร แต่จากการทดลองขับแบบเปลี่ยนตัวคนขับระหว่างทาง มีกระเป๋าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ถ่ายทำเก็บไว้หลังรถ ขับด้วยความเร็วตามการใช้งานปกติ เจอรถติดในบางช่วงจากกรุงเทพไปเขาใหญ่ ตัวเลขเฉลี่ยออกมาที่ 18 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจใช้ได้ (นี่ถ้าเป็นฮอนด้า City Hatchback แล้วพ่วงเทคโนโลยีไฮบริดเป็น City Hatchback e:HEV ไปด้วยแล้วล่ะก็….งานนี้ต้องได้เปลี่ยนรถใหม่กันอย่างแน่นอน)
โดยสรุปแล้ว ฮอนด้า City Hatchback เป็นรถที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งการขับขี่ในเมืองที่คล่องตัว ขับออกนอกเมืองช่วงล่างและอัตราเร่งไว้ใจได้ ที่สำคัญมีห้องโดยสารที่สามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย และมีราคาที่เป็นเจ้าของได้ ซึ่งมีจำหน่าย 3 รุ่น คือ รุ่น RS ราคา 749,000 บาท, รุ่น SV ราคา 675,000 บาท และรุ่น s+ ราคา 599,000 บาท และด้วยการเป็นโมเดลซิตี้ที่ทำยอดขายได้มากที่สุดของฮอนด้า น่าจะเป็นการยืนยันได้ถึงคุณภาพและความไว้วางใจจากผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี..เอาเป็นว่าถ้าไลฟ์สไตล์เป็นสายแคมป์รับรองว่า ฮอนด้า City Hatchback ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th