การถูกแรงกดดันจากข้อกำหนดการปล่อยไอเสียที่เข้มงวดของฝั่งยุโรป น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ฮอนด้า ตัดสินใจใส่ระบบสปอร์ตไฮบริดลงใน All-new CR-V และเตรียมเผยโฉมรถต้นแบบในงานแฟร้งค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2017 ที่ประเทศเยอรมนี วันอังคารที่ 12 กันยายนนี้ ก่อนจะเริ่มต้นขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2018

CR-V Hybrid Prototype กลายเป็นเอสยูวีที่ใช้ระบบไฮบริดรุ่นแรกของฮอนด้า ที่ขายในยุโรป และเป็นครั้งแรกที่รถรุ่นนี้ได้มาปรากฏตัวในงานมอเตอร์โชว์ฝั่งยุโรป นับตั้งแต่รอบเวิลด์พรีเมียร์ ที่ประเทศสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2016

ฮอนด้า เลือกใช้สปอร์ตไฮบริด i-MMD (Intelligent Multi-Mode Drive) เหมือนกับ Accord Hybrid ที่ขายในบ้านเราตอนนี้ โดยจะมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0-litre i-VTEC พร้อมทั้งใช้ระบบเกียร์ Single Fixed-gear เพื่อสร้างแรงบิดที่สม่ำเสมอส่งสู่ระบบ

ระบบไฮบริด i-MMD ของฮอนด้า จะควบคุมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่มีการติดตั้งโหมดการขับให้เลือกใช้งาน 3 รูปแบบได้แก่:

• EV Drive: มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์เท่านั้น และไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาระหว่างการใช้งาน
• Hybrid Drive: มอเตอร์ไฟฟ้าจะสลับการทำงานกับเครื่องยนต์ แต่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก โดยพลังงานที่เกินจากเครื่องยนต์จะถูกเปลี่ยนเพื่อส่งไปเก็บในแบตเตอรี่
• Engine Drive: จะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเป็นหลัก เพื่อขับบนทางด่วนที่ต้องใช้ความเร็ว โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยเสริมกำลังในจังหวะที่เครื่องยนต์ทำงานในรอบสูง

เปรียบเทียบกับให้เห็นระหว่าง All-new CR-V รุ่นที่ขายในไทย (รูปบน) กับเวอร์ชั่นไฮบริดของฝั่งยุโรป (รูปล่าง) ว่าแตกต่างกันแค่ไหน

อย่างไรก็ตามฮอนด้า เตรียมอีกทางเลือกให้ลูกค้าชาวยุโรป ด้วยการออกรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 litre Vtec Turbo ที่จะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลขายในตลาดแถบนี้ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมพวกเขาจะเปิดเผยในช่วงที่ All-new CR-V เริ่มขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2018

เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล : hondanews.eu

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th