หลังจากการเปิดตัวรถยนต์ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ที่มีการปรับโฉมใหม่ให้ดูหรูหรา และทันสมัย พรีเมียม แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งานได้เหมือนเช่นเคย ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ทำให้ฮุนไดเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ครั้งแรกของฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อ่านไม่ผิดครับไม่ได้เปลี่ยนโฉมมา 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังขายได้เรื่อยๆ ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย สามารถรองรับไลฟ์สไตล์การเดินทางได้ทุกรูปแบบ

ต้องบอกเลยว่าฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือรถตู้ เรียกง่ายๆ หลายท่านคงยังลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ เพราะกลัวขับไปสบาย ขับแล้วเหมือนขับรถตู้ทั่วไป ผมกล้าบอกเลยว่าว่าฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ขับสบายมากฟิลลิ่งการขับเหมือนขับรถยนต์ซีดานทั่วไปเลยครับ ไม่ต้องเชื่อผมไปลองขับดูครับ สมรรถนะการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน แถมห้องโดยสารกว้างขวางมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เอาง่ายๆครับถ้าคุณอยากได้ Toyota Alphardแต่คิดว่าราคาสูงไปลองมามองฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ รับรองไม่ผิดหวังประหยัดเงินไปหลายอยู่ หรือถ้าจะให้เทียบกับbenz vito ภายนอก benz vito อาจจะดูหรูหรามีชาติตระกูลกว่า แต่ภายในที่คุณได้เบาะมันนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นักแถมช่วงล่างของbenz vito มันย้วยๆบอกไม่ถูก ผมชอบช่วงล่างของฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็ก มากกว่านุ่มนวลและไม่ค่อยโคลงย้วยเท่าไหร่นัก การปรับเปลี่ยนหมุนเบาะแต่ละครั้งของbenz vito มันลำบากมากเพราะต้องถอดออกมาก่อน แต่เจ้าฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ สามารถปรับหมุนได้เลยไม่ต้องถอดอกมาใช้งานได้สะดวกกว่า

เอาละวันนี้เรามาทดลองใช้ชีวิต 1 วันกับ ฮุนได รุ่นเอช-วัน และรุ่นแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ กันดีกว่า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The New Experience” หรือ “โฉมใหม่กับประสบการณ์ใหม่…ที่สมบูรณ์แบบ” เราได้นั่งเจ้าฮุนไดเอช-วัน Elite ซึ่งเป็นรุ่นกลางราคา 1,529,000 บาท จุดหลักๆที่เปลี่ยนแปลงใหม่เห็นจะเป็นที่กระจังหน้ารถโครเมียมดีไซน์ใหม่ที่ดูหรูหรามาขึ้น ไฟหน้าแบบ Projector lens ดีไซน์ใหม่รับกับกระจังหน้าได้อย่างลงตัว พร้อมไฟตัดหมดกดีไซน์ใหม่ รุ่นท็อปจะเป็นประตูเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้านะครับ ส่วน 2 รุ่นล่างของ เอช-วัน ไม่ไฟฟ้านะครับ

ภายในของรุ่น Elite จะเป็นเบาะหนัง ระบปรับอากาศอัตโนมัติ ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ กระจกแบบ Flush Glass ที่ประตูสไลด์ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว แต่ในรุ่นท็อปสุด Deluxe ราคา 1,729,000 บาท ตัวนี้ที่เบาะจะมีระบบอุ่น/เย็น สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ สำหรับคนขับ , พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ สำหรับผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ครบครัน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงผ่านจอความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi ห้องโดยสารตอนหลังติดตั้งจอ LCD แบบคมชัดขนาด 13.3 นิ้ว ติดเพดานแบบพับไฟฟ้า (รุ่น แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ พรีเมียม, เอช-วัน เดอลุกซ์) และติดตั้งเคาน์เตอร์บันเทิงพร้อมจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว ปรับขึ้น-ลง ด้วยระบบไฟฟ้า (รุ่น แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ วีไอพี)

เครื่องยนต์เดิมครับเป็นดีเซล รหัสD4CB Inline-4DOHC 16V 2,497 ซีซี 175แรงม้า ที่3,600 รอบ/นาที แรงบิด441 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 2,250 รอบต่อนาที สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ฮุนไดพาสื่อมวลชนเปิดประสบการณ์ใหม่ เยี่ยมชมและเรียนรู้วัฒนธรรมจีนในย่านไชน่าทาวน์ พร้อมกิจกรรมพิเศษที่น้อยคนจะได้สัมผัส เราเริ่มออกเดินทางจากฮุนไดสำนักงานใหญ่วิภาวดี โดยการทดสอบครั้งนี้เราเป็นผู้โดยสารเพราะมีคนขับรถมาให้ สุดยอดไปเลย !! บอกได้คำเดียวครับนั่งสบาย หลับเพลินๆกันไปเลย

มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรก “วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร” มีชื่อเดิม “วัดสามจีน” ซึ่งเข้าใจว่าชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างขึ้น ไหว้พระขอพร “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ที่มีน้ำหนักกว่า 5 ตัน และเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร” หรือ ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ซึ่งเป็นศูนย์ประวัติศาสตร์ในการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรืองที่มีมาอย่างยาวนานของชุมชาวจีนย่านเยาวราช

หลังจากไหว้พระทำบุญแล้ว พักรับประทานอาหารกลางวันกันที่ “ภัตตาคารตั้งใจอยู่” สาขาเยาวราช เป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ ที่ถือเป็นตำนานอาหารจีน อยู่คู่เยาวราชมานานกว่า 80 ปี อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดกันแล้ว เดินทางต่อไปทำกิจกรรม ณ ร้าน “ชะตา คาเฟ่” เป็นร้านกาแฟเรือนกระจกสุดชิคที่ตั้งอยู่ใน โรงแรม Bann 2459 Heritage Boutique Hotel บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2459 ซึ่งเป็นระยะเวลานานกว่า100 ปีแล้ว อาคารหลักเป็นโครงสร้างที่ได้รับอิทธิพลแบบโคโรเนียล สร้างขึ้นช่วงรัชกาลที่ 6 โดยในสมัยนั้น เจ้าของบ้านคือชาวมุสลิมที่อาศัยร่วมกันกับชาวจีนในย่านนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่ผสมผสานและอยู่ด้วยกันอย่างสันติ หลังจากที่ได้มีการตกแต่งของสถานที่นี้ใหม่แต่ยังคงศิลปะผสมผสานกับธรรมชาติรังสรรค์กันได้อย่างลงตัว มีความโมเดิร์นในแบบชิคๆ

หลังจากนั้นทางฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เปิดประสบการร์ใหม่ให้กับผมและเพื่อนสื่อมวลชนด้วยการแต่งหน้าและใส่ชุดในแบบอุปรากรจีน(งิ้ว) ซึ่งผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน พร้อมมอบของที่ระลึกปฏิทินจีนที่มีภาพถ่ายเดี่ยวเฉพาะของแต่ละบุคคลในแบบอุปรากรจีนเป็นที่ระลึกอีกด้วย

ตลอดทริปนี้ ผมได้สัมผัสรถยนต์อเนกประสงค์ทั้ง 2 รุ่น ถึงแม้ทริปนี้จะขับขี่ย่านในเมือง ซึ่งมีรถยนต์และผู้คนบนถนนพลุกพล่าน แต่ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ก็สามารถพาเราไปยังที่หมายได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีความคล่องตัวสูง ขับขี่ง่ายด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.6 เมตร พร้อมระบบ Smart View System ที่แสดงภาพในมุมมองแบบ 360 องศา ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดี่ในการขับขี่ สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ขับง่ายทั้งในเมืองและนอกเมือง แม้แต่สุภาพสตรีก็สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย

ปิดทริปการเดินทางด้วยความอบอุ่นเดินทางไปสู่ทุกจุดหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่อย่าง ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะที่ดีเยียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อย่างที่บอกฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมอบอรรถประโยชน์ที่หลากหลายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ราคาสบายกระเป๋าอีกต่างหาก

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th