เจาะลึกสมรภูมิบัตรสะสมแต้ม…เปรียบเทียบเจ้าไหนดี เจ้าไหนเด่น
เปิดสมรภูมิบัตรเติมน้ำมัน หรือบัตรสะสมแต้ม ผู้ประกอบการแห่ร่วมวง ชูประเด็นรับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แทนเงินสด โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ หรือแลกรับของรางวัล หวังชิงยอดขายปลีกน้ำมันที่มีมูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี
การเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์นับเป็นกลยุทธ์หลักที่ผู้ผลิตสินค้านิยมนำมาใช้ เราเคยสังเกตตัวเองไหมว่า หากเราจะซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่ง อะไรคือสิ่งที่เราตัดสินใจ? ความต้องการ ราคา คุณภาพ ของแถม หรือสิ่งจูงใจอื่นๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค แต่นอกจากวิธีการดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า นั่นก็คือ การสร้างเครือข่าย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับตัวสินค้า ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่า คุ้มค่ากับการตัดสินใจ ไปพร้อมๆ กับโอกาสในการได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
“บัตรเติมน้ำมัน หรือ บัตรสะสมแต้ม” เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในปัจจุบัน และเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยเฉพาะกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โดยผู้ประกอบการแต่ละราย ต่างอาศัยจุดแข็งที่ตนเองมีอยู่มาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่บัตรของตนได้อย่างน่าสนใจ
ปัจจุบัน “บัตรสะสมแต้ม” เหล่านี้ ผู้ใช้จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แทนเงินสด ใช้เป็นส่วนลด หรือแลกรับของรางวัล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดของธุรกิจน้ำมันในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็น end user หรือ CRM เพื่อสร้างความผูกพันในระยะยาว อีกทั้งยังนำข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้ามาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยสมาชิกจะได้รับคะแนนสะสมจากการซื้อผลิตภัณฑ์และบริการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และศูนย์บริการ ณ สถานีบริการน้ำมันต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย
PTT BLUE CARD
บัตร PTT Blue Card เป็นบัตรของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์การตลาดในวงการธุรกิจน้ำมันอย่างพลิกโฉม ทั้งสีสัน การนำเสนอผ่านพรีเซนเตอร์ศิลปินดาราดังแบบจัดเต็ม เพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และลิงค์กับบริการต่างๆ ในปั๊ม ปตท.
นอกจากนี้ ยังใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียสร้างพื้นที่ให้สมาชิกติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ข่าวสาร เทรนด์แฟชั่น ร้านอาหาร และแลกเปลี่ยนแจ้งความต้องการของลูกค้า ผ่านเว็บไซต์ www.pttbluesociety.com และแอพพลิเคชั่น ร่วมกับการระดมพันธมิตรมอบส่วนลด ทั้งโรงแรม รีสอร์ต สปา สถานเสริมความงาม โรงพยาบาล ร้านอาหาร เพิ่มเติมจากการสะสมแต้มใช้ชำระค่าบริการต่างๆ ในปั๊มแทนเงินสด ซึ่งปัจจุบัน พีทีที บลูคาร์ด มียอดผู้สมัครเกือบ 1,00,000 คน จึงถือเป็นความสำเร็จค่อนข้างถล่มทลาย
นอกจากนี้ยังสามารถแสดงบัตรรับส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่างๆที่ร้านอาหาร โรงแรม สปา และร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ ตลอดจนใช้แลกของรางวัลและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสมาชิก PTT Blue Card เท่านั้น
PT MAX CARD
“PT MAX Card” (พีที แมกซ์การ์ด)บัตรสะสมแต้มของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดตัวในปี 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากการศึกษากลุ่มลูกค้าเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งบัตรสะสมคะแนนนี้ให้สมาชิกได้รับของรางวัลจากการแลกคะแนนที่สะสมเมื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีทีแต่ละครั้ง ปัจจุบันพีที แมกซ์การ์ด มียอดสมาชิกผู้ถือบัตรแล้วทั้งสิ้น 1,338,264 ราย ซึ่งคาดว่า หลังการปรับปรุงระบบลูกค้าสัมพันธ์ของบัตร ให้มีประสิทธิภาพในการบริการยิ่งขึ้น และการมอบสิทธิพิเศษในการแลกรับของรางวัลจะทำให้มียอดสมาชิกผู้ถือบัตร “PT MAX Card” เพิ่มขึ้นอีก 260% หรือมียอดสมาชิกผู้ถือบัตร 2.6 ล้านราย
สำหรับสิทธิประโยชน์ของบัตร “พีทีแมกซ์คาร์ด” โดยให้ลูกค้าสะสมแต้ม 1 ลิตร 1 แต้ม และมีแมกซ์พอยท์โบนัสอีกส่วนหนึ่ง เพื่อแลกของรางวัลต่างๆ เช่น คูปองเติมน้ำมันฟรี 100 บาท และ 1,000 บาท เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว พัดลม ไมโครเวฟ โฮมเธียเตอร์ ทีวีแอลอีดี และสร้อยคอทองคำ ซึ่งแมกซ์คาร์ดจะเป็น “หมัดเด็ด”
สำคัญที่บัตรพีทีแมกซ์คาร์ด ถือเป็นไม้เด็ดในการต่อกรกับค่ายน้ำมัน 2 ค่ายใหญ่ โดยเฉพาะการแจกรางวัลชิ้นใหญ่ที่ไม่ใช่แค่ส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการ 10% หรือ 20%
BANGCHAK GASOHOL CLUB
อันที่จริง “บางจาก” เป็นค่ายน้ำมันที่ริเริ่มรูปแบบบัตรสมาชิกและมีบัตรหลากหลายแยกตามชนิดน้ำมัน โดยประเดิมบัตรแรก “แก๊สโซฮอล์คลับ” เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ในยุคที่เริ่มจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และต้องการหากลยุทธ์กระตุ้นให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันชนิดนี้แทนน้ำมันเบนซิน เพื่อส่งเสริมพืชพลังงานและลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ด้วยวิธีให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิก สะสมแต้มแลกส่วนลดน้ำมันลิตรละ 20 สตางค์และมีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ผลก็คือ บัตรแก๊สโซฮอล์คลับโดนใจผู้บริโภคและได้รับความนิยมมาก เพราะประหยัดเงินในกระเป๋า ทั้งข้อดีเรื่องราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ถูกกว่าน้ำมันเบนซินและกระแสการอนุรักษ์พลังงาน จนกระทั่งรูปแบบบัตรมีการขยายประเภท ทั้งบัตรดีเซลคลับ, แก๊สโซฮอล์ คลับ เลดี้การ์ด และแก๊สโซฮอล์ คลับ แวลู่ พอยท์ โดยเพิ่มเรื่องสิทธิพิเศษ โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ต สถาบันสอนภาษา โรงพยาบาล ร้านอาหาร และเกิด “บัตรแก๊สโซฮอล์ แวลู่ พอยท์” ซึ่งเป็นบัตรตัวใหม่ล่าสุด มีการขยายการสะสมแต้มเมื่อใช้บริการร้านต่างๆ ในปั๊มบางจาก เช่น ร้านกาแฟอินทนิล ใบจากมาร์ท มินิบิ๊กซี รวมถึงศูนย์บริการรถยนต์กรีนออโต้เซอร์วิส กรีนวอช และกรีนเซิร์ฟ
SHELLSMART CLUB
บัตร “เชลล์คลับสมาร์ท” ของบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดตัวครั้งแรกในปี 2557 เพื่อแทนคำขอบคุณและมอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าทั่วประเทศ บัตร “เชลล์คลับสมาร์ท” เป็นบัตรสำหรับกลุ่มผู้รักรถที่ใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์และสถานีบริการน้ำมันคุณภาพ รวมถึงมองหาความคุ้มค่าในทุกๆ การใช้จ่าย ผ่านการสะสมคะแนนเมื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นของเชลล์ หรือซื้อสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อซีเล็ค ในสถานีบริการที่ร่วมโครงการ โดยสมาชิกสามารถนำคะแนนสะสมมาแลกสิทธิประโยชน์ที่ตอบรับไลฟสไตล์ที่ชื่นชอบ
รวมถึงของรางวัลที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ อาทิ สินค้าลิขสิทธิ์เฟอร์รารี่ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเชลล์ การแลกน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น บัตรชมภาพยนตร์ บัตรกำนัลร้านกาแฟ ฯลฯ นอกจากนี้ ผู้ถือบัตร “เชลล์คลับสมาร์ท” ยังสามารถเพิ่มยอดสะสมเป็นสองเท่า เมื่อเติมน้ำมัน เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร+
บัตรเชลล์คลับสมาร์ท” ถือเป็นการช่วยยกระดับการสานสัมพันธ์ลูกค้าและตอกย้ำการที่เชลล์ หนึ่งในบริษัทพลังงานชั้นนำของโลก มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยเราต้องการขอบคุณลูกค้าในประเทศไทยที่เชื่อมั่นและไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และสถานีบริการน้ำมันคุณภาพของเชลล์เสมอมา
โดยตั้งเป้ายอดสมาชิกปีแรกถึง 1 ล้านราย สำหรับ “เชลล์” เริ่มต้นแผนชิงส่วนแบ่ง เน้นการปรับโฉมสถานีบริการและอัพเกรดผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เชลล์ลุยเปิดปั๊มน้ำมันตามแผนอย่างน้อย 30 แห่งต่อปีและต่อเนื่องถึงปี 2559 ขณะเดียวกัน เร่งขยายฐานลูกค้าประจำผ่านบัตรเชลล์การ์ด ซึ่งเป็นบัตรเติมน้ำมันสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และบัตรเชลล์คลับสมาร์ท ซึ่งเป็นบัตรสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าทั่วไป
ESSO SMILES
“เอสโซ่ สไมล์ส” บัตรสะสมแต้มรายล่าสุดจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ด้วยการจับมือกับพันธมิตร ได้แก่ ร้านค้าสะดวกซื้อชั้นนำอย่าง เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และแฟมิลี่มาร์ท ร้านกาแฟอย่าง ราบิก้า และดิโอโร่ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น แมคโดนัลด์ เคเอฟซี และเบอร์เกอร์คิง เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
เอสโซ่เชื่อว่านอกเหนือจากการมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าแล้ว การพัฒนากิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงได้เปิดตัวบัตรเอสโซ่ สไมล์ส ที่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการและการใช้ชีวิตของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งบัตรเอสโซ่ สไมล์ส เป็นบัตรสะสมคะแนนจากการเติมน้ำมันของลูกค้า เพื่อเลือกรับสิทธิประโยชน์มากมายภายใต้แนวคิดทางเลือกที่หลากหลาย โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนแทนเงินสดในการเติมน้ำมันได้ทันที หรือเลือกรับรางวัลได้ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งคือ เทสโก้ โลตัส และแอร์เอเชีย บิ๊ก นี่คือจุดเด่นที่แตกต่างจากบัตรสะสมคะแนนของผู้ค้าปลีกน้ำมันรายอื่นๆ
ตารางเปรียบเทียบ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th