เจาะสเปค ALL NEW TOYOTA COROLLA CROSS 4 รุ่นย่อย คันไหนคุ้ม
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วกับรถยนต์ SUV ขนาดเล็กน้องใหม่จากโตโยต้า All New Toyota Corolla Cross ที่นำเอาชื่อ Corolla ซึ่งเป็นรถที่ขายดีที่สุดของโตโยต้ากลับมาใช้อีกครั้ง โดยการกลับมาของชื่อ Corolla ในครั้งนี้มาในรูปแบบรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก ซึ่งผลิตที่ประเทศไทย และเปิดจำหน่ายในประเทศไทยที่แรกในโลกในชื่อ All New Toyota Corolla Cross และสามารถสร้างกรแสได้อย่างดี กรันตรียอดจองทะลุ 400 คัน ในงาน บางกอก อินเตอร์เนขั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.8 เบนซิน และ 1.8 ไฮบริด มาให้เลือก เรามาดูข้อมูลเจาะสเปคกันดีกว่าว่าแต่ละรุ่นมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง และรุ่นไหนคุ้มค่าที่สุด
ราคาอย่างเป็นทางการ
1.8 เบนซิน
- 8 Sport 959,000 บาท*
- * ราคาพิเศษ วันนี้ – 30 กันยายน 2563 จากนั้นจะปรับเป็น 989,000 บาท
1.8 HYBRID
- 8 Hybrid Smart 1,019,000 บาท
- 8 Hybrid Premium 1,089,000 บาท
- 8 Hybrid Premium Safety 1,199,000 บาท
มาพร้อมเงื่อนไข Ultimate Ownership การรับประกันตัวรถ, ระบบ Hybrid
- ทุกรุ่น ฟรีค่าแรงเช็คระยะ นาน 5 ปี
- ทุกรุ่น ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่ Warranty เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- รุ่น Hybrid รับประกันระบบ Hybrid นาน 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
- รุ่น Hybrid รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.8 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. Dual VVT-i กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- ล็อคอัตราทด 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85
เบนซิน 1.8 Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. VVT-i กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20
มิติตัวถัง ยาว : 4,460 มิลลิเมตร กว้าง : 1,825 มิลลิเมตร สูง : 1,620 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,640 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance : 161 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร
1.8 Sport 959,000 บาท (ราคาพิเศษ วันนี้ – 30 กันยายน 2563 จากนั้นจะปรับเป็น 989,000 บาท)
อุปกรณ์มาตรฐาน
- เครื่องยนต์เบนซิน 8 ลิตร 140 แรงม้า
- เกียร์อัตโนมัติ CVT-i พร้อมโปรแกรมอัตราทดเกียร์ 7 จังหวะ
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบ ยาง 215/60 R17
- ระบบเบรกด้านหน้า : ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
- ระบบเบรกด้านหลัง : ดิสก์เบรก
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS
- โครงสร้างตัวถัง และ งานวิศวกรรม TNGA : Toyota New Global Architecture
- ช่วงล่างด้านหน้า : MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
- ช่วงล่างด้านหลัง : Torsion Beam พร้อมเหล็กกันโคลง
- ไฟหน้า Projector Lens แบบฮาโลเจน
- ไฟ Daytime Running Light หลอดธรรมดา
- ระบบไฟหน้า Follow-me-home
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไฟตัดหมอกด้านหลัง
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin
- มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วขอบหน้าต่างสีดำ
- แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
- ที่วางแขน เบาะนั่งคู่หน้า ปรับเลื่อนได้
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
- เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 1 จังหวะ
- ที่วางแขน เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
- ช่องเก็บเอกสาร ด้านหลังเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
- มือเปิดประตูภายในห้องโดยสารโครเมียม
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
- หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ 4 บาน
- ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และ ไฟส่องสว่าง
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
- แผงกั้นสัมภาระด้านท้าย
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ราวมือจับในห้องโดยสาร 4 ตำแหน่ง พร้อมราวแขวนเสื้อด้านหลัง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง
- มาตรวัดเรืองแสง Optitron เรืองแสง
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 2 นิ้ว
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- รองรับระบบ Apple CarPlay / Android Auto
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบโทรออกด้วยเสียง
- ระบบ T-Connect Telematics
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบป้องกันการออกตัวแบบฉุกเฉิน Drive Start Control
- ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
- หัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- สัญญาณกันขโมย TDS
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ชุดปะยางฉุกเฉิน
1.8 Hybrid Smart 1,019,000 บาท สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่น 1.8 Sport +60,000 บาท
- เครื่องยนต์เบนซิน 8 Hybrid 122 แรงม้า
- เกียร์อัตโนมัติ E-CVT
- แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH)
- ระบบ EV Mode / Sport Mode / ECO Mode
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17
- ไฟหน้า Projector Lens LED แบบ Hybrid
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED Light Guiding
- ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED
- ไฟท้าย LED พร้อมไฟหรี่ Light Guiding
- กระจกบังลมหน้า แบบ Acoustic Glass
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
1.8 Hybrid Premium 1,089,000 บาท สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่น 1.8 Hybrid Smart +70,000 บาท
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18
- กระจังหน้า สีดำเงา
- คิ้วขอบหน้าต่างโครเมียม
- กระจกมองข้าง ปรับระดับอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
- ภายในห้องโดยสาร โทนสีน้ำตาล Terra Rossa (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำเงา Piano Black
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ไฟส่องสว่างบริเวณประตูคู่หน้า และ ที่วางแก้วน้ำ
- ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ Kick Activated
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
1.8 Hybrid Premium Safety 1,199,000 บาท สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่น 1.8 Hybrid Premium +110,000 บาท
- หลังคา Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ราวหลังคา สีดำ
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Tracing Assist
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ในทุกรุ่นย่อย สีเทาฟ้า Celesite Grey Metallic สีขาว Platinum White Pearlสีดำ Attitude Black Mica สีน้ำตาล Graphite Metallic สีเทา Metal Stream Metallic สีแดง Red Mica Metallic สีน้ำเงิน Nebula Blue
ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 โทนสี (ขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก)
สีดำ Black และสีน้ำตาลแดง Terra Rossa (*เฉพาะรุ่น Hybrid Premium / Hybrid Premium Safety)
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th