เจาะสเปค MG ZS รถที่สามารถทำยอดขายกระโดดแซงแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ในเซ็กเมนท์ B-SUV
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นับว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัท ที่มั่นใจในตลาดรถยนต์ประเทศไทย ภายหลังที่ประกาศตัวว่าจะผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ MG เข้ามาสู้ในตลาดรถยนต์ประเทศไทย หลายท่านคาดการณ์ว่าคงจะอยู่ไม่นานแน่ๆ เพราะด้วยพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ของคนไทย มักจะเลือกซื้อแบรนด์ดัง ศูนย์บริการเยอะ และราคาขายต่อดี ซะส่วนใหญ่
MG ก้าวเข้าสู่ตลาดประเทศไทยในปี 2010 โดยการเปิดตัวรถ เปิดตัวรถซีดานขนาดใหญ่อย่าง MG6 โดยเน้นสู่ค่ายยักษ์ใหญ่โดยใช้ราคาที่ถูกกว่าในรถยนต์เซ็กเมนท์เดียวกับของแบรนด์อื่นๆ แต่ด้วยความที่โชว์รูมยังมีไม่เยอะ และแถมรถ MG6 รุ่นแรกที่เข้ามาไม่โดนใจคนไทยซะเท่าไหร่นัก จึงทำให้ยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร แต่ทาง MG ก็ไม่ยอมแพ้เดินหน้าเปิดตัว รถอย่างต่อเนื่องมาอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น MG5 MG6 รุ่นใหม่ MG 3 MG GS และ MG ZS โดยเราจะเห็นได้ว่าโมเดลที่ประสบความสำเร็จและโดนใจคนไทยจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก อย่าง MG 3 ด้วยรูปทรงที่น่ารักโดนใจ แถมราคาประหยัด และรถประเภท SUV อย่าง MG GS และMG ZS ที่ถ้าMG จัดเต็มทั้งเทคโนโลยี ออฟชั่นต่างๆอัดมาเพียบในราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในท้องตลาด ส่วนรถยนต์ซ๊ดานของ MG อย่าง MG 6 และ MG 5 ผมว่ามันยังไม่โดนใจคนไทยเท่าไหร่นัก
แต่ในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงน้องใหม่ล่าสุดอย่าง MG ZS ที่ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆมาเต็มลำ การการดีไซน์ภายนอกที่หรูหราละลงตัว ชูจุดเด่นตรงฟีดเจอร์ที่สามารถคุยกับรถยนต์ได้โดยผ่านการสั่งการด้วยเสียงไม่ว่าจะเปิดซันรูฟ เปิดแอร์ เปิดกระจก ที่สำคัญสั่งเป็นภาษาไทยจร้า จึงทำให้ MG ZS ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ดูจากยอดขายภายในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 ที่ผ่านมาด้วยยอดจองถึง 1,209 คัน ส่วนรุ่นอื่นก็ MG GS – จำนวน 367 คัน MG 3 – จำนวน 310 คัน MG 5 – จำนวน 68คัน MG6 – จำนวน 40 คัน ดูจากยอดจองแล้วคงน่าจะรู้นะครับว่ามาแรงจริงๆสำหรับ MG ZS คันนี้ เอาละเรามาดูเจ้า MG ZS คันนี้กันดีกว่าว่าดีอะไรดี
NEW MG ZS เป็นรถในเซ็กเมนท์ B-SUV (Sub compact Crossover ) ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิก (Brit Dynamic) ให้มีความทันสมัยและความสปอร์ตยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคล่องตัว และคงเอกลักษณ์แบบอังกฤษของเอ็มจี โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ที่นำสายตาสู่เส้นสายบนฝา กระโปรงด้านหลัง ไฟท้ายแอลอีดีทิวบ์ (LED Tube) เพื่อสุนทรียภาพในทุกการขับขี่ด้วยพาโนรามิกซันรูฟ มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) 1,809 x 4,314 x 1,624 มม. ระยะฐานล้อยาว 2,585 มม. ระยะฐานล้อคู่หน้า 1,526 มม. ระยะฐานล้อคู่หลัง 1,534 มม.
ส่วนการออกแบบด้านข้างเน้นความปราดเปรียวจากเส้นสายชัดเจนพาดจากด้านหน้าไปถึงซุ้มล้อหลัง ยิ่งไปกว่านั้น ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Colour ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมกับราคาที่คุ้มค่าที่สุดในรถยนต์กลุ่ม B-SUV ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 679,000 บาท สำหรับ MG ZS ใหม่ รุ่น C ส่วนรุ่น D ราคา 729,000 บาท และ รุ่น X ราคา 789,000 บาท
ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราและความสปอร์ตสไตล์รถยุโรป ตกแต่งด้วยสีสันแบบทูโทนและวัสดุซอฟท์ทัชที่บริเวณแผงประตู รวมถึงแผงคอนโซลซึ่งมอบผิวสัมผัสนุ่มนวลและความสง่างามสไตล์สปอร์ต มีช่องแอร์ดีไซน์ เจ็ทเทอร์ไบน์ ที่ฝั่งซ้ายและขวา ส่วนมาตรวัดเรืองแสงมาพร้อมหน้าจอแสดงผล มองเห็นชัดเจนในทุสภาพแสง เบาะที่นั่งด้านหลังพับแยกส่วน 60:40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายปรับระดับขึ้น-ลง 10 เซนติเมตร เพื่อความอเนกประสงค์สำหรับรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
NEW MG ZS คือรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบบสามารถควบคุมสั่งการได้ 3 วิธี คือ สั่งการผ่านระบบ Voice command ภาษาไทย สั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ และการสั่งการผ่านไอสมาร์ทแอปพลิเคชั่น (i-SMART application) จากสมาร์ทโฟนซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ค้นหาจุดหมายอาทิสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือร้านอาหาร ด้วยสมาร์ทเนวิเกเตอร์รวมถึงตรวจสอบสภาพการจราจรได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ระบบยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่และพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)
ระบบ i-SMART ยังรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรก ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ของรถที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ
นอกเหนือจากระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว NEW MG ZS ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งในระดับเดียวกัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ปุ่มสตาร์ท และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมยูเอสบี (USB) ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ นอกจากนี้ ยังมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง
NEW MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ DOHC VTi-TECH 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อม Manual Mode เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบความปลอดภัย ด้วยระบบโครงสร้างนิรภัย FSF (Full Space Frame) เทคโนโลยีปกป้องทุกชีวิตในห้องโดยสาร และระบบ Synchronized Protection System 9 ระบบด้วยกันคือ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิก EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBS (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ถุงลมนิรภัยในตำแหน่งคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวมทั้งหมด 6 จุด และกล้องมองหลังพร้อมเซ็นเซอร์
สีตัวถังมีทั้งหมด 5 สี คือ สีแดง Scarlet Red สีฟ้า Marina Blue สีดำ Black Knight สีขาว Arctic White และสีเงิน Silver Metallic (รุ่น C จะมีเฉพาะสีขาว Arctic White และสีเงิน Silver Metallic)
ด้วยความครบเครื่อง ทั้งเรื่อง สมรรถนะ ราคาที่จับต้องได้ รูปลักษณ์โดดเด่น ที่ให้ความหรูหราทันสมัยและสปอร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย จึงทำให้ NEW MG ZS เป็นสมาร์ทเอสยูวีที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้บริโภค
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th