เชฟโรเลต ส่งต่อ “พลังแห่งการเล่น” สู่เด็กๆ ในสังขละบุรี
พลังแห่งการเล่นยังคงแสดงพลังผ่านแววตาของเด็กๆ อยู่เสมอ และล่าสุดเชฟโรเลต ได้นำสื่อมวลชนและผู้บริหารเดินทางจากกรุงเทพไปยังสุดเขต จ.กาญจนบุรี ที่ อ.สังขละบุรี เพื่อสานต่อกิจกรรมการพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งมอบลูกฟุตบอล “วัน เวิลด์ ฟุตบอล” จำนวน 1,354 ลูกให้แก่เด็ก 1,354 คน จาก 9 โรงเรียนใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อสร้างพลังแห่งการเล่นให้แก่เยาวชนที่ขาดแคลนโอกาส
โดยในครั้งนี้คณะสื่อมวลชนมากกว่า 40 คน ผู้บริหารและพนักงานเชฟโรเลต ร่วมมอบ “วัน เวิลด์ ฟุตบอล” ลูกฟุตบอลที่ไม่มีวันแตกประทับตราสัญลักษณ์ของเชฟโรเลต จำนวน 220 ลูก ให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช บ้านสะเน่พ่อง ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด และ รถเอสยูวี เทรลเบลเซอร์ ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษเป็นยานพาหนะในการบุกตะลุยไปในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล
รวมทั้งยังได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ในครัว ยารักษาโรค และหนังสืออ่านนอกเวลา พร้อมทั้งปรับภูมิทัศน์ห้องครัว ห้องอาหาร ห้องสมุด และสนามกีฬาของโรงเรียน ให้เด็กในชุมชนได้เล่นกันอย่างปลอดภัยอีกด้วย
คุณวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรม จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทางด้าน คุณวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรม จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เผยว่า “การเดินทางในครั้งนี้ ถือว่ามีเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งทางออนโร้ด และออฟโร้ด ซึ่งเชฟโรเลต โคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ รุ่นที่นำมานี้ ถูกออกแบบให้พร้อมในการใช้งานที่หลากหลาย มีการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งของเชฟโรเลตได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น การใช้งานที่ครอบคลุม และความทนทานที่เป็นเลิศ ตั้งแต่พื้นปูกระบะ บันไดข้างแบบสปอร์ตไปจนถึงกันชนหลัง และฝาปิดกระบะท้าย ทุกอุปกรณ์ตกแต่งจะทำให้รถกระบะและรถเอสยูวีของเชฟโรเลตแสดงตัวตนของลูกค้าได้อย่างแท้จริง”
คุณณฐพร จิรมหาโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย
คุณณฐพร จิรมหาโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เชฟโรเลตได้ดำเนินกิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคมมากมายตลอดทั้งปีนี้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กและชุมชนที่ขาดแคลนโอกาส ความมุ่งมั่นของเราที่จะส่งเสริมพลังแห่งการเล่นผ่านการเล่นฟุตบอลเป็นส่วนสำคัญของโครงการรับผิดชอบต่อสังคมของเราและด้วยภารกิจเชิงกลยุทธ์ “การขับเคลื่อนไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งขึ้น” เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยทำงานร่วมกับโครงการวัน เวิลด์ เพลย์ตั้งแต่ปี 2556 มอบวัน เวิลด์ ฟุตบอลไปแล้วมากกว่า 25,000 ลูกให้แก่เด็กที่ขาดแคลนโอกาสทั่วประเทศไทยและนำพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านบวกมาสู่ชุมชน”
นายดาบตำรวจ สารัช รอดพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช
นายดาบตำรวจ สารัช รอดพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช ผู้แทนรับมอบสิ่งของ กล่าวว่า “ขอบคุณเชฟโรเลต ประเทศไทยสำหรับการสนับสนุนอย่างมากมายในครั้งนี้ เด็กทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะมาโรงเรียน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย และเล่นฟุตบอล การที่แบรนด์ระดับโลกอย่างเชฟโรเลตเข้ามาช่วยเหลือชุมชนและสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านบวกให้แก่ชีวิตเด็กๆ และคนในชุมชนถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง”
ลำห้วยโรคี่ ที่กั้นขวางทางระหว่างเดินทาง หากไม่ใช่รถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะผ่านได้ลำบากมาก
สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช ก่อตั้งเมื่อ 15 มีนาคม 2505 โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 7 (ขณะนั้น) ซึ่งก่อสร้างเป็นเพิงชั่วคราว หลังคามุงด้วยตองหวาย ฝาใช้ไม้ไผ่สับฝาก เป็นวัสดุที่หาได้ในพื้นที่ทั้งหมด แรกเริ่มมีนักเรียน 10 คน สอนแบบห้องรวม มีครูตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้สอน 2 นาย
เริ่มต้นใช้ชื่อว่า “โรงเรียน ตชด.อนุเคราะห์ที่ 4 บ้านสะเนพ่อง” และเมื่อปี 2515 คุณวารุณี สุนทรเวช ได้เดินทางมาทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยง จึงได้มาพบเห็นสภาพของโรงเรียน ต่อมาได้เกิดความศรัทธาจึงได้มอบเงินให้กับกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 7 เพื่อทำการก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ 1 หลัง พร้อมบ้านพักครู 1 หลัง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักพระราชวัง ทูลเชิญ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ และทรงพระราชทานนามว่า “โรงเรียน ตชด.สุนทรเวช” และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จฯ ทรงเปิดอาคารเรียน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2516
กว่าจะเข้าไปถึงที่โรงเรียนต้องผ่านอุปสรรคสารพัด แต่ด้วยสมรรถนะที่เหลือล้นของโคโรลาโดและเทรลเบลเซอร์จึงกลายเป็นเรื่องง่ายๆ แถมยังใช้น้ำมันได้อย่างคุ้มค่ามากๆ
ส่วนการเดินทางเข้าไปที่โรงเรียนในวันนี้ถือว่าง่ายกว่าในอดีตมาก ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคที่ต้องฝ่าเข้าไปอยู่พอสมควร แต่หากเทียบกับในอดีต จาก อ.สังขละบุรี ถึงบ้านสะเนพ่อง มีระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร จะเป็นทางลาดยาง 9 กิโลเมตร เป็นทางคอนกรีตเสริมเหล็กอีก 1 กิโลเมตร นอกนั้นจะเป็นทางดินอ่อน ซึ่งใช้ได้เฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น เพราะช่วงหน้าฝนระยะทาง 7 กิโลเมตร ที่เคยใช้ในช่วงหน้าแล้งจะหลายเป็นดินโคลน จึงต้องใช้รถยนต์แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น ส่วนชาวบ้านจะสัญจรด้วยการเดินเพียงอย่างเดียว เพราะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางภูเขาสูงชันและมีลำห้วยโรคี่ขวางกั้นอยู่ด้วย
ข้าวของและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่นำมามอบให้กับทางโรงเรียนในครั้งนี้
พี่ๆ นักข่าว แบ่งหน้าที่กันทำเพื่อน้องๆ อย่างเต็มที่
ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ แล้วหายเหนื่อย
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็นการรวมพลังของผู้ใหญ่ที่ส่งต่อความสุขให้แก่เด็กๆ บนพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกคนที่พร้อมใจกันยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือ เพราะพลังของเด็กๆ ในวันนี้ ต่อไปจะกลายเป็นพลังของประเทศไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th