น่าซื้อมั้ย!! เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เอสยูวีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท!
หลังจากงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ (The All-New Captiva) กระแสของเจ้าเอสยูวีคันนี้เริ่มถูกพูดถึงในทันที ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูทันสมัย เครื่องยนต์ไซส์เล็กแต่แรงพอตัว และห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสริมด้วยลูกเล่นด้านเทคโนโลยี แถมยังเปิดราคาในรุ่นเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท…(999,000 บาท) มาขนาดนี้จะไม่สนใจได้อย่างไร ทีนี้มาลองดูกันว่าเจ้าแคปติวารุ่นใหม่นี้ ควรค่ากับการจ่ายเงินเป็นเจ้าของหรือไม่?
เข้าเรื่องแบบยิงตรงๆ เริ่มที่เรื่องแรกกันที่ตัวถังกันก่อน ตรงนี้ทำได้สะดุดตา ขับไปไหนไม่อายใคร รูปร่างหน้าตาทันสมัย โฉบเฉี่ยว มีความเฉียบคม ด้วยแนวคิด 3s คือ Style ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน Space ห้องโดยสารที่กว้างขวางมากกว่า อเนกประสงค์ยิ่งขึ้น และ Smart Technology เสริมด้วยฟังก์ชั่นเทคโนโลยีล้ำๆ เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเชฟโรเลตที่น่าสนใจมากทีเดียว และสังเกตไหมว่า ไม่ได้เน้นเรื่องสมรรถนะกันเลย..เดี๋ยวมีคำตอบ แต่ในส่วนของตัวถังต้องยอมรับว่าทำออกมาได้สวยงาม สะดุดใจมาก
โดดเด่นด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบ LED ดีไซน์ใหม่ มาพร้อม Daytime Running Lights (DRL) ที่สามารถเปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวได้ในชุดโคมเดียวกัน, ระบบไฟนำทาง Walk Me Home เป็นไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์, หลังคาพาโนรามิก Panoramic Sunroof ระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ one touch รับแสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารได้อย่างแจ่ม
ภายในติดตั้งหน้าจอคอนโซลสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว (Dashboard with Full-Color Cluster) และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว ใหญ่ยังกะแท็บเล็ต สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง Chevrolet Link เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้แบบโคลนนิ่งหน้าจอกันมาเลย ตรงนี้เป็นจุดน่าสนใจมากของรถคันนี้ และยังใช้งานได้ง่าย ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ยังรองรับได้กับระบบแอนดรอยเท่านั้น ส่วน ios น่าจะปีหน้า[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
ซึ่งหน้าจออินโฟเทนเมนต์นี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นอีกด้วย พร้อมด้วยกล้อง 4 จุดรอบคัน (360 view Camera) พร้อมเส้นกะระยะขณะเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear Parking Guidelines)..เรื่อง Style และ Smart Technology ตรงนี้ให้ 3 ผ่านเลย
มาต่อกันที่ห้องโดยสาร (Space) กันบ้าง มันช่างกว้างขวาง แต่ไม่เวิ้งว้าง นั่งสบายทุกตำแหน่ง ยกเว้นเบาะ 2 ที่ในแถว 3 ที่จะอึดอัดหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งเบาะนั่งนี้สามารถพับให้ราบเรียบได้ เพิ่มพื้นที่วางสัมภาระได้อีกเพียบ แต่ประเด็นหลักๆ อยู่ที่พื้นที่เบาะนั่งแถวแรกและแถวสองนี่ล่ะ เบาะนั่งฝั่งผู้ขับในรุ่น Premier เป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พื้นที่นั่งแถวสองออกแบบใหม่ ขนายฐานล้อให้กว้างขึ้น จึงเพิ่มพื้นที่ช่วงขา (Legroom) ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม นั่งยืดขาได้สบาย ยิ่งถ้าเปิดหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขณะขับด้วยแล้วจะยิ่งรู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างและโปร่งมาก ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี
สรุปว่าแนวคิด 3s ที่ตั้งเอาไว้ เชฟโรเลต แคปติวา ทำได้ตอบโจทย์การใช้งานแบบตรงไปตรงมาจริงๆ
พื้นที่วางขากว้างขนาดนี้ สามารถวางกระเป๋าเดินทางได้ด้วย
เมื่อลองไปนั่ง โดยที่เบาะหน้าปรับในตำแหน่งท่านั่งปกติ ผู้เขียนสูง 180 ซม. ช่วงขายาว ยังมีพื้นที่มากพอให้นั่งไขว้ขาได้อีก
มากันที่ขุมพลังกันบ้าง (ทำไมถึงไม่เน้นเรื่องนี้กันนะ เดี๋ยวมีคำตอบ) เครื่องยนต์มีขนาด 1.5 ลิตร เบนซินเทอร์โบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT) 143 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที ส่งพละกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมโหมด Shift Control + – 8 สปีด ถือว่าแคปติวามีแรงบิดที่สูงที่สุดในกลุ่ม SUV-C อีกด้วย คำถามคือด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จะแบกน้ำหนักตัวถังระดับ 1,630 กิโลกรัม พร้อมผู้โดยสารและสัมภาระไหวหรือไม่ คำตอบคือ ไหวเหลือๆ แบบไม่ต้องสงสัย เพราะจากการทดลองขับแม้ว่าธรรมชาติของเกียร์ CVT จะออกตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อความเร็วลอยๆ ระดับ 80-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะแสดงสมรรถนะได้โดดเด่นมากขึ้น เป็นเกียร์ CVT ที่กระฉับกระเฉง เสริมด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าที่น้ำหนักเบาและช่วงล่างหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง ที่เซ็ตมาให้เน้นความนิ่ม ทำให้การขับค่อนข้างนุ่มนวล แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีข้อติเล็กๆ ที่ว่าเมื่อรถทำความเร็วสูงระดับเกินกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีการเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง ต้องคุมพวงมาลัยให้ดีหน่อย เพราะรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาไปนิด ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าด้วยรูปทรงรถแบบนี้คงไม่ค่อยมีใครขับแบบนี้เป็นแน่แท้ ที่สำคัญไม่เน้นเรื่องเครื่องยนต์เพราะสมรรถนะมันมากเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้วสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก เน้นเรื่อง 3s ฟินกับการใช้งานกว่าเยอะ
โดยเมื่อพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายแล้ว ทำให้มีคำตอบว่าทำไมทีมงานวิศวกรของเชฟโรเลตจึงไปเน้นที่หน้าตารูปร่าง พื้นที่ห้องโดยสารและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อมากกว่าพละกำลัง นั่นเพราะกลุ่มเป้าหมายอยู่ในวัยทำงานตอนกลาง มีครอบครัว มีไลฟ์สไตล์ที่รองรับกับการใช้ชีวิตแบบครอบครัว เน้นความปลอดภัย รถคันนี้จึงถูกวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์และสมรรถนะโดยรวมให้เป็นอย่างที่เล่ามานั่นเอง
จากการได้ทดลองขับแบบ Group Test ซึ่งขับอยู่ราวๆ เกือบ 200 กิโลเมตร โดยขับทั้งรุ่นเริ่มต้นและรุ่นท็อป แถมรถยังเป็นรถ Pre-Product ที่ยังมีการปรับปรุงก่อนเป็นรุ่นผลิตเพื่อส่งมอบจริง มั่นใจว่าจะทำได้ดีกว่านี้แน่นอน ซึ่งโดยรวมทำได้ดีนะ ถามว่า “น่าซื้อมั้ย” คำตอบคือ “ซื้อสิครับ” ถ้าคุณเป็นคนรักครอบครัว ชอบเดินทางท่องเที่ยวโดยมีคนที่รัก ลูกๆ พ่อตา แม่ยาย ร่วมทางไปด้วยกัน เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ จะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างและนั่งสบายสุดๆ ลดการเมื่อยล้าระหว่างการเดินทางไกลได้อีกด้วย
แต่หากคุณไม่ได้มีครอบครัวเป็นคนโสดที่ชีวิตยังสนุกสนาน ท้าทาย เป็นผู้ขับแบบเท้าหนัก เน้นรถที่สมรรถนะสูง เร็ว แรง ช่วงล่างเทพๆ ขอให้มองผ่านไป ไม่ต้องซื้อหรอก ไม่ตรงจริตแน่นอน..แล้วถ้าเริ่มมีอายุหรือเริ่มมีครอบครัวเมื่อไหร่ค่อยหันกลับมามองรถในกลุ่มนี้ เพราะเชื่อว่าความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับตัวผู้เขียนเองในวันนี้
ส่วนรุ่นย่อยและราคาจำหน่ายตามนี้ รุ่น LS มีราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท (เพิ่ม 30,000 บาท สำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง), รุ่น LT ราคา 1,099,000 บาท และรุ่นสูงสุด Premier ราคา 1,199,000 บาท มีออปชั่นที่ต่างกันตามตารางข้างล่างนี้
รุ่น LS | รุ่น LT | รุ่น Premier |
-เครื่องยนต์ 1.5 L พร้อมระบบวาล์ว
แปรผันคู่ (DVVT) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ เกียร์อัตโนมัติ แปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อม Shifting Control 8 สปีด -5 ที่นั่ง เบาะผ้ายีนส์ Blue Denim/ดำ -พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้า ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold) จอแสดงผลคอนโซลกลางแบบระบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว ระบบเสียงแบบพรีเมียมพร้อมลำโพง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน พร้อมหน่วงเวลาปิด (Walk Me Home) เสาอากาศครีบฉลาม ระบบปรับอากาศที่นั่งแถว 2 ไฟตัดหมอกหลัง ภายในแบบสัมผัสนุ่มลายยีนส์ Blue Denim ถุงลมนิรภัยด้านหน้า สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า กล้องมองหลังพร้อม Dynamic Guideline เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 ตำแหน่ง ไล่ฝ้าหลัง/ปัดน้าฝนหลัง ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด |
เพิ่มเติมจากรุ่น LS
7 ที่นั่งเบาะหนังสังเคราะห์สีดำCharcoal Black ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับ ไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED (LED Daytime Running Lights) ไฟตัดหมอกหน้า วัสดุตกแต่งภายในสีขาว White Pearl กุญแจรีโมท Keyless entry (PEPs) ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยางอัตโนมัติ TPMS ระบบปรับอากาศที่นั่งแถว 3 พร้อมปุ่มปรับความแรงลม ระบบเสียง Infinity by HARMANพร้อมลำโพง 9 ตัว รวม ซับวูฟเฟอร์ (4 speakers, 4 twitters, 1 subwoofer) กระจกมองข้างพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED กระจังหน้าพร้อมกรอบโครเมียม ช่องเชื่อมต่อ USB 4 จุด |
เพิ่มเติมจากรุ่น LT
ล้ออัลลอยแบบสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) สั่งการทำงานได้จากสวิตช์บนพวงมาลัย กล้อง 360 องศา หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ แบบไฟฟ้า พร้อมระบบการทำงานแบบวันทัช ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมหน่วงเวลาปิด พวงมาลัยหุ้มหนัง ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และไฟอ่านแผนที่ พร้อมช่องเก็บแว่นตาแบบ LED เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แผงหน้าปัด DIC มัลติฟังก์ชัน 7 นิ้วแบบ Full TFT เซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหน้า คิ้วขอบหน้าต่างโครเมียม
|
ชอบแบบไหน สะดวกยังไง อยากให้สัมผัสคันจริงและทดลองขับก่อนตัดสินใจ เพราะด้วยราคาเริ่มต้น 999,000 บาท ห่างจากรุ่นท็อปอยู่ 200,000 บาท หากซื้อเงินสดจะดูเป็นเงินก้อนที่เยอะหน่อย แต่ถ้ากู้สถาบันการเงิน..จัดรุ่นท็อปไปเลย เพราะตอนนี้อัตราดอกเบี้ย 1.89% กรณีชำระค่างวดแบบต้นงวด ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, ส่วนลด 40,000 บาท เฉพาะรุ่น LS สำหรับลูกค้า 300 คนแรกที่จองรถและลงทะเบียนรับส่วนลดที่โชว์รูมเชฟโรเลตที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 10 กันยายน 2562 ถึง 6 ตุลาคม 2562 และรับรถระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ถึง 31 ธันวาคม 2562 ปิดท้ายด้วยโปรแกรมเช็คระยะ 50,000 กิโลเมตร หรือ 30 เดือน แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อนจะครอบคลุมค่าแรงและค่าอะไหล่ที่ถูกกำหนดให้มีการเปลี่ยนตามตารางการบำรุงรักษารถยนต์ ที่ระบุไว้ในสมุดคู่มือการรับประกัน รวมการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน ผ้าเบรก และแบตเตอรี่ 1 ครั้ง รวมมูลค่า 21,006 บาท เฉพาะรุ่น LT และ Premier สำหรับลูกค้า 700 คนแรกที่จองรถและลงทะเบียนรับส่วนลดที่โชว์รูมเชฟโรเลตที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 10 กันยายน 2562 ถึง 6 ตุลาคม 2562 และรับรถระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ถึง 31 ธันวาคม 2562
ซื้อสิครับ!! เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ รถอเนกประสงค์ของครอบครัวที่หากพาเมียและแม่เมียไปดูรถด้วย รับรองว่าปิดจ๊อป เปิดใบจองอย่างแน่นอน..คุ้มค่าและตอบโจทย์จริงๆ
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]