เชลล์ผนึกกำลังอีซี่ฮอล ผลักดันขนส่งสินค้าไทยสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
เชลล์ และอีซี่ฮอล แพลตฟอร์มการขนส่งสินค้าทางถนนในรูปแบบดิจิทัล ร่วมมือพลิกโฉมตลาดการขนส่งสินค้าทางถนนในประเทศไทย รวบรวมประสบการณ์ด้านการคมนาคมระดับโลกมากกว่า 60 ปีของ Shell เข้ากับความสามารถในด้านการขนส่งสินค้าแบบดิจิทัลของอีซี่ฮอล
ผลประโยชน์จากการร่วมมือของ Shell & Ezyhaul
- ลดต้นทุนการดำเนินการของผู้ขนส่งสินค้า
- เงื่อนไขสินเชื่อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่า
- โอกาสในการขยายธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถขนส่งผ่านแพลตฟอร์มอีซี่ฮอล
- การติดตามการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การเข้าถึงแหล่งผู้ขนส่งสินค้าและลูกค้าผู้ส่งสินค้าในประเทศไทย
- การปรับเปลี่ยนระบบการขนส่งให้เป็นระบบดิจิทัล
- การส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจผ่านการใช้เทคโนโลยี
ความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการศึกษาและเข้าใจอุปสรรคที่ลูกค้าของเราต้องพบเจอในการในบริหารจัดการการขนส่ง เพื่อให้เชลล์และอีซี่ฮอลส่งมอบโซลูชั่นที่ช่วยให้การขนส่งมีความปลอดภัยมากขึ้น สามารถบำรุงรักษารถที่ใช้ในการขนส่งได้ดีขึ้น และช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยีการสื่อสารสองทางระหว่างรถยนต์และศูนย์บริการสารสนเทศจราจร หรือ Telematics ควบคู่ไปกับบริการอื่น ๆ
มร.เซน ฮัค ผู้จัดการทั่วไปของเชลล์ฟลีทโซลูชั่นเอเชียกล่าวว่า “การขนส่งสินค้าในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบอนาล็อกอยู่ คือยังไม่มีการนำระบบออนไลน์มาใช้ในการบริหารจัดการการขนส่งสินค้า อย่างไรก็ตาม เทรนด์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ และ เชลล์ ในฐานะผู้นำในธุรกิจพลังงาน มีเป้าหมายที่ต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตเพื่อช่วยจัดการปัญหาที่ลูกค้าของเราทั้งที่เป็นกลุ่มของผู้ส่งสินค้าและผู้ขนส่งกำลังประสบอยู่ในขณะนี้”
การจองรถขนส่งสินค้ายังเป็นระบบ Manual ทำให้การติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์ยังจำกัดอยู่ในวงแคบ การขาดแคลนข้อมูลที่ต่อเนื่องและน่าเชื่อถือสำหรับการวิเคราะห์และการปรับปรุงบริการ ทำให้การติดตามบริหารและควบคุมประสิทธิภาพของรถขนส่งเป็นไปอย่างยากลำบาก ความบกพร่องในการวางบิล และข้อจำกัดในการรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ ผู้ขนส่งยังต้องเจอกับปัญหาประสิทธิภาพในการจัดการรถขนส่งไปจนถึงการตีรถเที่ยวเปล่า เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและดิจิทัลสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าเป็นอย่างมาก ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน บริษัทวิจัยธุรกิจและการตลาดของเทคโนโลยีอุตสาหกรรม รายงานว่าการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยผู้บริหารการขนส่งเพิ่มประสิทธิผลในการขนส่งสินค้าได้ร้อยละ 10-15 ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงลงถึงร้อยละ 20-25 และลดจำนวนรถขนส่งเที่ยวเปล่าได้มากถึงร้อยละ 20-30
นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีกของบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตามข้อมูลจากไอดีซีหรือ International Data Corporation (IDC) ปริมาณข้อมูลทั่วโลกในตอนนี้มีอยู่ 33 เซตตะไบต์ และ ร้อยละ 80 ของข้อมูลทั้งหมดนี้จะยังไม่ได้รับการจัดระบบจนกว่าจะถึงปีค.ศ. 2025 ซึ่งหากมีการจัดการข้อมูลเหล่านี้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ได้ง่ายขึ้นและสามารถอัลกอริทึมในระบบสารสนเทศให้ประมวลผลได้แม่นยำ ส่งผลให้เราสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของอาเซียนได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลเป็นอย่างมาก เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในภูมิภาคและมีการเติบโตในตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้มีการขยายตัวของความต้องการด้านโลจิสติกส์สูง และเป็นผลดีต่อระบบขนส่งสินค้าในไทยอย่างมีนัยสำคัญ ความร่วมมือกับอีซี่ฮอลในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของเชลล์ในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ดิจิทัล และความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมทางการขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุก ๆ กลุ่ม การจับมือเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะทำให้ผู้ขนส่งสินค้าที่ลงทะเบียนกับเรา สามารถเข้าถึงแหล่งลูกค้าและทำสัญญาได้ผ่านแพลตฟอร์มอีซี่ฮอล และยังได้รับบริการที่หลากหลายจากเชลล์ ไม่ว่าจะเป็นบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก โปรโมชัน และข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย ที่จะทำให้ผู้ขนส่งสินค้าของเราสามารถบริหารจัดการยานพาหนะให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มกำไร และจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างโปร่งใส่และเที่ยงตรง”
“การขนส่งสินค้าทางถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แยกออกเป็นส่วน ๆ ไม่รวบรวมเป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำให้ประสิทธิภาพต่ำ อีซี่ฮอลมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับเชลล์ในการนำเสนอบริการของเราให้แก่ผู้ส่งสินค้าและผู้ขนส่งทั่วไทย” มร.เรมอนด์ กิลลอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มอีซี่ฮอลระบุถึงที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้เพิ่มเติม
ขับเคลื่อนธุรกิจของคุณด้วยเทคโนโลยี
โซลูชั่นจาก เชลล์ และ อีซี่ฮอลมุ่งแก้ปัญหาที่ผู้ส่งสินค้าและผู้ขนส่งเผชิญอยู่ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปัญหาการรักษาสภาพคล่องของกระแสเงินสด ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องจ่ายค่าน้ำมันล่วงหน้า 45-90 วัน ตามข้อตกลงกับลูกค้าและมาตรฐานค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขนส่งสินค้าตามปกติ ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ถึงร้อยละ 20-25 ความร่วมมือครั้งนี้จึงเปิดโอกาสให้ผู้ขนส่งสามารถหาลูกค้าและทำสัญญาผ่านแพลตฟอร์มอีซี่ฮอล และเข้าถึงสินค้าและบริการของเชลล์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ซึ่งตรงกับความตั้งใจของเชลล์ที่ต้องการช่วยลดภาระของผู้ประกอบการให้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายล่วงหน้าด้วย Shell Fleet Card
มร.เซน ฮัค เสริมว่า “ผู้ส่งสินค้ากำลังคาดหวังให้ผู้ขนส่งที่เป็นลูกค้า Shell Fleet Card ของเรามีขีดความสามารถในการเข้าถึงการบริหารจัดการการขนส่งสินค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ความร่วมมือกับอีซี่ฮอลจึงทำให้ผู้ขนส่งทั้งรายใหญ่และรายเล็กต่างสามารถให้บริการขนส่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มกำไรและเปิดโอกาสให้ผู้ส่งสินค้าสามารถติดตามการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ เมื่อแพลตฟอร์มดิจิทัลของอีซี่ฮอลรวมพลังกับ Shell Fleet Card แล้ว ความร่วมมือครั้งนี้ยังมอบโอกาสให้ผู้ขนส่งสามารถเข้าถึงน้ำมันคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ และบริการจากเชลล์อีกมากมายผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังช่วยให้เชลล์และอีซี่ฮอลขยายฐานลูกค้าในไทยได้อีกด้วย”
นางสาวธัญญา ยิ้มชัยภูมิ เจ้าของบริษัท ศิริพงษ์ โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า “พนักงานขับรถของเราสามารถใช้ Shell Fleet Card ชำระเงิน ณ จุดเติมน้ำมันและเดินทางต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องขั้นตอนการชำระเงิน Shell Fleet Card จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยดีกว่าการให้พนักงานของเราถือเงินสด”
ทั้งนี้อีซี่ฮอลสร้างโอกาสให้ผู้ขนส่งสินค้าสามารถแข่งขันธุรกิจในตลาดได้ อำนวยความสะดวกในการติดตามยานพาหนะ ปรับปรุงคุณภาพการบริการ และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้สูงที่สุดผ่านมาร์เก็ตเพลสของอีซี่ฮอลซึ่งอยู่บนระบบคลาวด์ (cloud-based) สามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เรียบง่ายผ่านโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ให้แก่ทั้งผู้ขนส่งและผู้ส่งสินค้า นอกเหนือไปจากนั้นผู้ส่งสินค้าหลายพันรายสามารถควบคุมต้นทุนในการบริหารการขนส่งได้อย่างถูกต้องแม่นยำไปพร้อม ๆ กันกับการหาลูกค้าใหม่ ๆ โดยยังสามารถเข้าถึงผู้ขนส่งสินค้าจำนวนมากที่ให้บริการดี มีความโปร่งใสและราคาสมเหตุสมผลได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียว
มร.เรมอนด์ กิลลอน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ขนส่งคือหัวใจของอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า ดังนั้นเราจึงมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าสู่แพลตฟอร์มธุรกิจแบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มกำไรและความสามารถในการสร้างคุณภาพตามกลไกของตลาดด้วยความร่วมมือในครั้งนี้”
เพิ่มความสะดวกและความโปร่งใสมากกว่าเดิม
ความร่วมมือครั้งนี้มอบโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลของอีซี่ฮอล เพื่อติดตามกระบานการขนส่งซึ่งสร้างความโปร่งใสให้แก่ผู้ขนส่งและผู้ส่งสินค้า อีกทั้ง ลูกค้ายังสามารถควบคุมการชำระและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผ่านข้อมูลแบบเรียลไทม์และมีข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์เชิงธุรกิจด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนค่าขนส่งที่สมเหตุสมผลและเข้าถึงประสิทธิภาพการขนส่งที่ไม่มีขีดจำกัดอีกต่อไป
นส.เมธินี ตัณสถิต เจ้าของบริษัท ตงพัฒนา โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า “รายงานประจำเดือนอย่างละเอียดมีประโยชน์ในการควบคุมและปรับปรุงเงินสดหมุนเวียนของเรา” ในขณะที่นายสุทธิพงศ์ พิมพ์วาน ผู้จัดการการขนส่งของบริษัท บีน่า โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “Shell Fleet Card อำนวยความสะดวกอย่างมากเนื่องจากสามารถติดตามและควบคุมค่าใช้จ่ายในการขนส่งแบบเรียลไทม์”
นอกจากความร่วมมือในไทยแล้ว เชลล์และอีซี่ฮอลยังมีความร่วมมือกันในประเทศมาเลเซียและอินเดียอีกด้วย และกำลังมองหาโอกาสในการขยายฐานธุรกิจเพื่อปรับปรุงและส่งเสริมตลาดการขนส่งแบบดิจิทัลไปสู่ตลาดประเทศอื่น ๆ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th