เที่ยวดี ทำดี กับ อีซูซุ คาราวาน สัญจร เส้นทางที่ 1 ตรัง – พังงา
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดกิจกรรมดีๆให้กับลูกค้าอีซูซุ กันแบบไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการพาลูกค้าออกเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบคาราวาน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งได้รับการตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมจากกลุ่มผู้ใช้รถอีซูซุด้วยดี กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าอีซูซุทั่วประเทศ แถมยังสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมภายในครอบครัว ซึ่งเป็นการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้เกิดการชักชวนครอบครัวและเพื่อนๆ ให้เข้าร่วมเป็นประชาคมอีซูซุ ด้วยการซื้อรถอีซูซุ เพื่อที่จะได้เข้ามาร่วมกิจกรรม อีซูซุ คาราวาน สัญจร ด้วยกัน
และในปีนี้ก็มีอีกเช่นเคย กับ อีซูซุคาราวานสัญจร เส้นทางแรกของปี เปิดด้วยการล่องใต้ก่อนเลยจร้าเส้นทาง ตรัง-พังงา เพราะนอกจากได้ขับรถท่องเที่ยวแล้ว ยังมีกิจกรรมดีๆในผู้ร่วมคาราวานได้รวมแรงรวมใจรวมสนุกกัน พร้อมแล้วเราออกเดินทางไปพร้อมกันเลยลูกค้าอีซูซุทั้งหมดขับรถมาพบกันที่ โรงแรมเรืออรัษฎา ส่วนคณะสื่อมวลชนทั้งหมด บินจากกรุงเทพเพื่อตามไปสมทบที่โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง ก่อนที่แยกย้ายกันไปพักผ่อน เตรียมพร้อมออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตอนตี5 อาบน้ำเก็บของพร้อมออกไปท่องเที่ยวกัน เปิดหน้าต่างออกไปสูดอากาศ ก็พบกับม่านหมอกขาวของเมืองตรังที่ตอนรับเราแต่เช้า คณะคาราวาน อีซูซุ สัญจร ออกไปร่วมตัวกันที่โชว์รูม อีซูซุ อันดามัน เซลส์ พร้อมฟังสรุปการเดินทางในรูปแบบคาราวาน และเมื่อรถพร้อมคนพร้อมก็ออกเดินทางกันเลย
จุดหมายแรกของเราในทริปนี้คือ สถานีรถไฟกันตังเป็นสถานีรถไฟสุดทาง ของทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามัน เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ตัวสถานีเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ตัวอาคารและชานชาลา ด้านหน้าอาคารมีมุขยื่นประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุ ประตูบานเฟี้ยมแบบเก่าคงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 มีความสวยงามเป็นพิเศษปัจจุบันสถานีรถไฟกันตังได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยกรมศิลปากร สถานีรถไฟกันตังในอดีตถูกใช้เป็นที่รับส่งสินค้ากับต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียมีรางรถไฟต่อไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร จากตัวสถานีถึงท่าเทียบเรือกันตังซึ่งเป็นท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันทางรถไฟส่วนนี้ถูกชาวบ้านรุกล้ำที่และไม่มีรางรถไฟส่วนนี้แล้ว
ตัวสถานีรถไฟกันตังเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาลอันเป็นคู่สีหลักที่คุ้นตาของอาคารรถไฟทั่วไป ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนตัวอาคารและชานชาลา ด้านหน้าของอาคารมีมุข ยื่น มีการตกแต่งประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุ ส่วนตัวอาคารที่ทำเป็นห้องมีผนังไม้ตีตามตั้งโชว์แนวเคร่า พร้อมช่องลมระแนงไม้ตีทแยงบานประตูหน้าต่างไม้แบบเก่า ส่วนที่เป็นโถงมีรั้วลูกกรงไม้พร้อมบานประตูขนาดเล็กกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนส่วนด้านหลังอาคารเป็นชานชาลามีหลังคาจั่วคลุมแยกต่างหาก โดยเสารับหลังคาชานชาลานี้มีค้ำยันไม้ฉลุตกแต่งให้กลมกลืนกับตัวอาคาร ภายในสถานียังพอมีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตคงเหลืออยู่บ้างโดยภาพรวมแล้วยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้เป็นอย่างดีนับเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ จากสถานะที่มีความสำคัญต่อกิจการรถไฟดังที่กล่าวมาซึ่งเป็นผลทำให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังจากกรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ. 2539
วันที่ 1 เมษายน 2456 ที่สถานีรถไฟกันตัง เปิดทำการเดินรถเป็นครั้งแรก ต้นทางจากสถานีกันตัง ปลายทางสถานีห้วยยอด นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 104 ปีแล้ว สถานีรถไฟกันตัง เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ช่วยบอกเล่าความเป็นมาอันเก่าแก่ของเมืองกันตัง ที่เป็นเมืองท่าขนส่งสินค้า รวมถึงเครื่องมือเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆในอดีตที่นำเข้าจากต่างประเทศผ่านทาง สิงคโปร์ การรถไฟแห่งประเทศไทยและเทศบาลเมืองกันตัง ได้ปรับปรุงสถานีรถไฟกันตัง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จัดทำห้องสมุดรถไฟ จัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้รับสิ่งดีๆมีคุณค่าจากสถานีรถไฟเก่าแก่แห่งนี้ และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวเมืองกันตังสืบต่อไป
หลังจากเยี่ยมชมถ่ายรูปกับสถานีรถไฟกันตังจนหน่ำใจคณะคาราวานก็พร้อมออกเดินทางต่อเลย มุ่งหน้าสู่วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ห่างกันประมาณ 10กว่ากิโลเมตร
วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง พื้นที่ส่วนพรุน้ำร้อนที่ได้ปรับปรุงเป็นบ่อน้ำร้อนจำนวน 3 บ่อ แต่ละบ่อมีอุณหภูมิของน้ำ 70 องศา 40 องศา และ 20 องศา ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาแช่เท้า หรือลงแช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเช่นเดียวกับการแช่ออนเซนของญี่ปุ่น หากแต่น้ำแร่ที่นี่มีจุดเด่น คือ มีส่วนผสมของกำมะถันน้อยมากไม่ถึง 1% จึงแทบจะไม่มีกลิ่น แต่มีแคลเซียมมากถึง 75% ซึ่งเป็นเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย เหมาะสำหรับการนำไปบำบัดผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เนื่องจากแคลเซียมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดี และมีการนำน้ำแร่ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย
หลังจากแช่บ่อน้ำร้อน กันจนสบายตัวท้องก็เริ่มหิว เพราะเป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว คณะคาราวาน อีซูซุ สัญจร ทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร ปากน้ำกระบี่ซีฟู้ด อาหารอร่อย บรรยากาศดี ดื่มด่ำกับอาหารแสนอร่อยแล้ว ออกเที่ยวกันต่อเลยดีกว่า สตาร์ทรถคาราวานพร้อมเดินทางไปยัง ศูนย์การเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่จังหวัดกระบี่ โดยแบ่งกลุ่มเข้าชมแปลงสาธิตการปลูกดอกหน้าวัว และร่วม Workshop ปลูกสับปะรดสีที่สวยงามแปลกตา แถมเอากลับบ้านได้ด้วยจร้า
จัดเรียงคาราวานให้พร้อมออกเดินทางกันต่อเลยไปยังจุดหมายสุดท้ายของเรา “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” ฐานทัพเรือพังงา โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลด้านฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจะเข้าดูแลตั้งแต่การสำรวจ เก็บเพาะฟักไข่เต่าบริเวณเกาะหูยง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และนำมาอนุบาลต่ออีกประมาณ 6 เดือนก่อนที่จะนำไปปล่อยในทะเล ซึ่งจะทำให้มีอัตราการรอดของเต่า 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ต่างจากการปล่อยให้เต่าแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติที่จะมีอัตราการรอดเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แม้การเยือนในครั้งนี้จะเหลือเต่าที่โตพอจะให้ปล่อยคืนสู่ท้องทะเลเพียงจำนวนหนึ่ง แต่ชาวคาราวานยังได้ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดคราบแบคทีเรียที่ติดตามกระดอง พร้อมทั้งทายาเพื่อให้เต่าตัวน้อยๆ เติบโตอย่างแข็งแรง และพร้อมกลับสู่ธรรมชาติต่อไป
หัวหน้าคาราวานจะเรียกรวมตัวออกเดินทางต่อเข้าสู่โรงแรมที่พักโรงแรมเซ็นทารา บีช รีสอร์ท เขาหลัก ท่ามกลางบรรยากาศของฟ้าสวย แดดใส หาดทรายและท้องทะเลที่สวยงาม เพื่อร่วมงานเลี้ยงรับรองพิเศษที่แสนอบอุ่นและเป็นกันเองในแบบของอีซูซุ โดยมีนางเอกสาวหน้าหวาน เบลลา ราณี มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ พร้อมการแสดง Juggling Show ที่สนุกสนานและน่าตื่นตาตื่นใจ และลุ้นรับรางวัลกลับบ้านกันไปอย่างถ้วนหน้า
ชัยวัฒน์-วรรณพร จิตตคาม รถหมายเลข 02 หนึ่งในแฟนพันธุ์แท้คาราวานอีซูซุ ซึ่งครั้งนี้แท็คทีมครอบครัวเพื่อนๆ นั่งรถคันเดียวกันถึง 7 คน เผยว่า “ผมได้มาร่วมคาราวานกับอีซูซุครั้งแรกเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ประทับใจทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการดูแล อาหาร ที่พัก ยิ่งค่าสมัครกับสิ่งที่ตอบแทนให้กับลูกค้าประเมิณค่าไม่ได้เลย ราคาเท่านี้มาเองก็มาไม่ได้ ทั้งเที่ยว ทั้งมีกิจกรรมดีๆ ขนาดนี้ จากนั้นก็มาร่วมทุกปีเท่าอายุลูกผม เริ่มขับมาตั้งแต่อีซูซุดีแมคซ์รุ่นแรก มิว-7 รุ่นแรก และล่าสุดออกรุ่นใหม่ The New Isuzu MU-X เลยลองชวนกลุ่มเพื่อนมาเที่ยวด้วยกัน นั่งรถคันเดียวกัน ทั้งที่ไม่มั่นใจว่า 7 คนจะนั่งกันพอไหม แต่พอนั่งจริงก็สบายนะ จากตรังมาพังงาไม่รู้สึกอึดอัดเลย ถ้ามาคาราวานแบบนี้ไม่ว่าจะอีกกี่ปีๆ ผมก็จะมา รถรุ่นใหม่ออกมาผมก็ยังยินดีที่จะเลือกใช้อีซูซุตลอดไป”
“อีซูซุคาราวานสัญจร” นับเป็นกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าอีซูซุทั่วประเทศไปพร้อมกับสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาล รวมถึงการเดินทางในฐานะประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าไม่อยากพลาด สามารถสมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด-บี โทร.02-966-2127-9 โดยอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ ยโสธร-นครพนม , จันทบุรี-กัมพูชา, พิจิตร-พิษณุโลก รับรองสนุกทุกเส้นทาง คอยติดตามและออกไปท่องเที่ยวพร้อมกันนะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th