เที่ยววันธรรมดาสุดฟินไปกับ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
หลายคนมักจะวางแผนท่องเที่ยวต่างจังหวัดกันในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หรือไม่ก็วันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน แถมยังต้องพบกับนักท่องเที่ยวที่คิดเหมือนกันอีกเพียบ อย่างนี้ความสนุกอาจจะลดลงไปเยอะเลย ครั้งนี้อีซูซุจึงได้วางแผนจัดทริปท่องเที่ยวในวันธรรมดาขึ้นมา เพื่อให้สัมผัสถึงความสุขอีกรูปแบบของการท่องเที่ยวในวันธรรมดาไปกับ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” บนเส้นทางจังหวัดอุบลราชธานี
โดยการเดินทางครั้งนี้อีซูซุได้เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสนวัตกรรมเปลี่ยนโลก กับ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ปิกอัพรุ่นล่าสุด ที่ยกขบวนมาทั้ง “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ รุ่น Hi-Lander” และ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ V-Cross MAX 4×4” สู่สถานที่ท่องเที่ยวแบบอันซีน ในจังหวัดอุบลราชธานี ตามคำขวัญจังหวัดที่ว่า
อุบลเมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี
มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน
ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม
งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์
ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล
การเดินทางเริ่มต้นด้วยการบินลัดฟ้าจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่ที่เร้าใจไปพร้อมกับสัมผัสสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ของ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ รุ่น Hi-Lander” สะท้อนภาพลักษณ์ยานยนต์ปิกอัพแห่งอนาคตทั้งภายนอก และภายใน ให้ความรู้สึกทรงพลัง หรูหราและสง่างามยิ่งขึ้น ผสานความสปอร์ตและความล้ำสมัย และ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ V-Cross MAX 4×4” สปอร์ต ออฟโรดที่พร้อมตอบรับทุกความท้าทาย ดีไซน์ภายนอกใหม่พร้อมชุดแต่ง MAX 4×4 สีเทาดำรอบคัน ผสานความแกร่งและสปอร์ตเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น สไตล์สปอร์ตออฟโรดตัวจริง สู่สถานที่ท่องเที่ยวสุดแซบกันที่จังหวัดอุบลราชธานี
รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านสามชัยไก่ย่าง
ออร์เดิฟอีสาน ที่ร้านสามชัยไก่ย่าง
ไก่ย่างสมุนไพรสามชัย
ส้มตำลาว ที่สามชัยไก่ย่าง
โดยจุดออกสตาร์ทคือที่โชว์รูมบริษัทอีซูซุตังปัก อุบล จำกัด ตรงไปรับประทานอาหารอีสานกันที่ร้านสามชัยไก่ย่าง ก่อนเดินทางสู่หาดชมดาว แก่งหินงาม บริเวณหมู่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล ซึ่งห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 114 กิโลเมตร เรานัดเจอกับมัคคุเทศน์ตัวน้อยเพื่อนำชมความงดงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมานับพันปี สำหรับหาดชมดาวนั้นเป็นแนวหาดหิน และแก่งหินอันกว้างใหญ่ ทอดตัวยาวหลายร้อยเมตรบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำในช่วงเวลาน้ำหลาก ผ่านช่องแคบของแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจนเมื่อน้ำลดจะเกิดเป็นประติมากรรมหินธรรมชาติที่เป็นหลุมเป็นบ่อหลายขนาด รวมถึงแก่งหินที่มีลวดลายพริ้วไหวรูปร่างแปลกตา และสวยงาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปชมมี 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า และช่วงบ่าย ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม
https://www.facebook.com/grandprixonline/videos/1708020085918792/
มัคคุเทศนน้อยผู้นำทาง
หลังจากเที่ยวชมหาดชมดาว แก่งหินงามเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปคือ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดเรืองแสง ที่อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากหาดชมดาว แก่งหินงาม ประมาณ 116 กิโลเมตร วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า และพลาดไม่ได้กับการชมปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ เมื่อทุกๆ ค่ำคืนหลังพระอาทิตย์ตกดิน ต้นกัลปพฤกษ์ทางผนังด้านหลังโบสถ์จะค่อยๆ เรืองแสงเปล่งประกายโดดเด่นท่ามกลางความมืดมิดน่าอัศจรรย์ยิ่ง
ด้านหน้าโบสถ์วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
ต้นกัลปพฤกษ์ทางผนังด้านหลังโบสถ์
ปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ของวัดเรืองแสง
สำหรับต้นกัลปพฤกษ์หลังอุโบสถวัดสิรินธร วรารามภูพร้าวแห่งนี้ เป็นผลงานการออกแบบของช่างคณากร ปริญญาปุณโณ ผู้เป็นเจ้าของไอเดียใช้สารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ (Phosphor) ทาลงไปที่ต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งในช่วงกลางวันต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะดูดแสงแดดเอาไว้ เมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ตกก็จะปรากฏเป็นต้นไม้เรืองแสงงดงาม ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชม และถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น.
เมื่อดื่มด่ำกับความงามของวัดสิรินธรวรารามภูพร้าวแล้ว จึงเดินทางต่อไปรับประทานอาหารค่ำกับที่ร้านอาหารแพเลอมูน และเข้าพักกันที่โรงแรมทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท ที่โรงแรมแห่งนี้ตกแต่งห้องพักด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัยอยู่ภายใต้ร่มเงาไม้หลากหลาย เหมาะแก่การพักผ่อนและรับอากาศบริสุทธิ์ ณ บริเวณปลายสุดแม่น้ำโขงที่พระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง
ร้านกาลครั้งหนึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถื่น
ในเช้าวันรุ่งขึ้น คณะสื่อมวลชนได้แวะเยี่ยมชม และร่วมทำเวิร์คช็อปทำโมบายอีสานกันอย่างสนุกสนาน ที่ร้านกาลครั้งหนึ่ง (ONCE UPON A TIME) อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ร้านแห่งนี้เป็นเรือนไม้สไตล์วินเทจ ประกอบด้วยร้านกาแฟ อาหาร เครื่องดื่ม มีมุมนั่งเก๋ ๆ ทั้งชั้นบน และชั้นล่าง ไฮไลท์ของร้านคือการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาการทอผ้าฝ้าย การย้อมสีธรรมชาติ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
เวิร์คช็อปโมบายอีสาน
หลังจากนั้นได้เดินทางกลับสู่ตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปแวะรับประทานอาหารกลางวันสไตล์เวียดนามกันที่ร้านกอล์ฟเฟอร์ เป็นการปิดท้ายด้วยความประทับใจกับสมรรถนะที่เหนือชั้น และความมั่นใจทุกการขับขี่ของรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่พาไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสุดแซบของจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ เป็นการท่องเที่ยวในวันธรรมดาที่สะดวกสบายจริงๆ
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th