เปิดประสบการณ์เดินทางสุดขั้วกับ “ไมค์ ฮอร์น” ด้วย The G-Class หรูสุดลุย!
จากที่ได้นำเสนอเรื่องราวโดยย่อของ “ไมค์ ฮอร์น” ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ มายาวนานกว่า 17 ปี คราวนี้ถึงเวลาได้ออกเดินทางร่วมกับนักผจญภัยระดับโลกตัวจริงเสียงจริงกันสักที และต้องบอกเลยว่างานนี้ไม่เหมือนการเดินทางแบบทั่วไป ถึงแม้ว่าเส้นทางอาจจะไม่ได้ยากมาก แต่ผู้นำทริปมีพลังมากถึงขนาดที่กระตุ้นเร้าหัวใจให้คึกคักได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว
ไมค์ ฮอร์น The Master ของเราในทริปนี้
สำหรับทริปนี้ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “Fearless Driving with the Master” ซึ่งทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญร่วมทดสอบสมรรถนะของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตระกูล SUV แบบครบทุกรุ่น ร่วมกับ “ไมค์ ฮอร์น” แบรนด์แอมบาสเดอร์และนักสำรวจ นักผจญภัยมืออาชีพชื่อดังระดับโลก บนเส้นทางที่สวยงามและน่าตื่นเต้น ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ซึ่งงานนี้การทดสอบรถไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะการได้แลกเปลี่ยนและพูดคุยกับบุคคลระดับตำนานอย่างไมค์ ฮอร์น คือความพิเศษแบบสุดๆ และเป็นไฮไลท์ของทริปนี้
ไมค์ ฮอร์น เกิดที่ประเทศแอฟริกาใต้และเติบโตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่ผ่านมา ได้เดินทางพร้อมกับทำการสำรวจ และก้าวข้ามศักยภาพของมนุษย์มาแล้วหลายครั้ง เช่น การเดินทางรอบโลกโดยไม่ใช้ยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์ การพิชิตยอดเขาที่มีความสูงตั้งแต่ 8,000 เมตร ขึ้นไป การเดินทางรอบแนวเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลในช่วงฤดูหนาวของแถบอาร์กติก และการว่ายน้ำจากต้นสายถึงปลายสายของแม่น้ำอะเมซอนที่เชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนไหนอยากท้าทายและเสี่ยงชีวิตขนาดนี้แน่นอน
ระหว่างการเดินทาง ไมค์ จะคอยหาพื้นที่ให้ได้เรียนรู้วิธีการขับรถและการเอาตัวรอดเสมอๆ
ไมค์ เล่าเรื่องราวการเดินทางของตัวเองให้ Grandprix Online ต้องอึ้งว่า “จากประสบการณ์การเดินทางมาอย่างยาวนาน ทำให้ค้นพบว่าเมื่อออกเดินทางด้วยเครื่องบิน จะพลาดโอกาสในการค้นพบความสวยงามของธรรมชาติ ภูมิประเทศ และผู้คนตลอดเส้นทาง ที่สามารถพบได้เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์หรือการเดินเท้า สิ่งเหล่านี้จึงเป็นที่มาของกิจกรรม Driven to Explore ที่ได้เริ่มไปครั้งแรกในทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชียเป็นแห่งที่สอง ซึ่งได้ออกเดินทางไปยังพื้นที่อันห่างไกลของแต่ละประเทศ ทั้ง 9 ประเทศ ตั้งแต่มาเลเซีย-ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม-ลาว-เมียนมาร์-อินเดีย-เนปาล-ปากีสถาน เพื่อถ่ายทอดมุมมองความสวยงามที่แท้จริงของธรรมชาติในแง่มุมที่ยังไม่มีใครเคยเห็น พร้อมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับผู้คนในแต่ละท้องที่ รวมถึงการทำหน้าที่สมาชิกของ Laureus Award Academy ด้วยการให้ความรู้และกำลังใจกับเด็กที่ขาดแคลนโอกาสภายใต้โครงการของมูลนิธิ Laureus Sport for Good Foundation
The G-Class จอมลุยตัวจริง ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา เพราะพร้อมที่จะบุกตะลุยได้ทุกสถานการณ์
ส่วนการเดินทางด้วย The G-Class นั้นทำให้สามารถออกเดินทางได้ในทุกพื้นที่ ทุกสภาพถนนได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ด้วยตนเองมาแล้วจากการเดินทางในหลากหลายทริปกับรถยนต์รุ่นนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อย่างในทริปนี้ที่เชียงใหม่และเชียงราย ถือว่าเป็นเส้นทางที่มีความสวยงามมาก ถึงแม้ว่าจะมีทางลาดชัดค่อนข้างสูง แต่สำหรับ G-Class ไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถบุกตะลุยได้มากกว่านี้อีกเยอะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ G350 อย่างที่ขับอยู่นี้ แต่สำหรับในรุ่นอื่นๆ คุณสามารถพามันควบตะลุยได้ทุกที่เช่นกัน
GLS บนจุดชมวิวดอยบ่อ รถเอสยูวีหรูคันนี้ลุยมาบนทางที่สมบุกสมบันได้อย่างง่ายดายและนุ่มนวลมากด้วย AirMatic สะดวกสบายและผ่อนคลาย ลองแล้วรักเลยคันนี้
GLA ถึงช่วงล่างจะแข็งกระด้างไปสักหน่อยสำหรับเส้นทางแบบนี้ แต่มั่นใจเถอะว่าไปได้และไปได้มากกว่านี้อีกด้วย ลองมาแล้ว!
ทริปนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า แม้จะเป็น GLA, GLC, GLE หรือ GLS ก็สามารถบุกตะลุยไปด้วยกันกับ The G-Class G350 d ได้เช่นกัน ต้องบอกว่างานนี้รถหรูอยู่ป่าจริงๆ
รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สำหรับคนไทยดูเป็นรถที่หรูหรา แต่เชื่อเถอะว่ามันสามารถใช้งานได้มากกว่าการขับในชีวิตประจำวันแบบปกติ ถ้าคิดที่จะเป็นเจ้าของรถ SUV สักคันนึงแล้ว ต้องใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพ เพราะคุณมีรถที่ดีที่สุดอยู่ในมือ หลายครั้งในการเดินทางจะพบกับอุปสรรคที่ขวางกั้นอยู่ บางคนมองว่าเป็นทางที่ลำบากก็ไม่อยากที่จะเสี่ยง หรือมองว่าจะทำให้รถเสียหายได้ แต่สำหรับตัวเขาแล้ว คำว่า “อุปสรรค” เป็น “ความท้าทาย” ยิ่งได้ก้าวข้ามอุปสรรคมันเป็นเหมือนการติดเหรียญกล้าหาญให้กับชีวิต คิดดูสิ! ถ้าคุณเดินทางด้วยหัวใจที่แน่วแน่ และมียานพาหนะที่พาคุณไปได้ทุกแห่ง มันจะรู้สึกดีแค่ไหน ชีวิตจะมีความสนุกและท้าทาย ทุกเส้นทางที่พบกับอุปสรรคมันจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้นในทุกครั้ง และยังเป็นการเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต รวมถึงการเอาตัวรอดให้พ้นจากสถานการณ์นั้นๆ ได้อีกด้วย “อย่าไปกลัวกับอุปสรรค ให้มองว่ามันคือความท้าทาย ถ้าคุณยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น ชีวิตจะมีคุณค่าอะไร” ชีวิตคือการเรียนรู้ประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด
เห็นกล้องเป็นไม่ได้ ต้องแอคชั่นตลอดเวลา และนี่แหละที่ทำให้ไมค์ ฮอร์น คนนี้เข้าถึงได้ง่ายเป็นมิตร และพร้อมถ่ายทอดทุกประสบการณ์ให้เราได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
ไมค์เล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เดินทางไปปีนเขาที่ยอดเขาเคทู (K2) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่สองของโลก อยู่ในประเทศปากีสถาน (ยอดเขาสูงอันดับหนึ่งคือยอดเขาเอเวอเรสต์) การปีนเขาเคทูครั้งนั้นเป็นเรื่องที่น่าจดจำและชอบที่จะเล่าเรื่องเคทูนี้เสมอ บางคนอาจจะสงสัยว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ที่สูงที่สุดในโลกก็เลยได้ไปถึงยอดเขามาแล้วทำไมไม่เล่าเรื่องเอเวอเรสต์ล่ะ..เรื่องนี้ตอบง่ายมาก เพราะเอเวอเรสต์เป็นยอดเขาที่ใครๆ ก็ไปกันไง เหมือนเป็นการปีนเขาแบบทัวร์ ถึงจะอันตรายแต่ก็มีจุดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด แต่สำหรับเคทูไม่มีอะไรเลย แถมยังปีนได้ยากกว่า เพราะมีสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา ระยะของตีนเขาถึงยอดเขาที่ยาวกว่า มันเป็นยอดเขาที่ปีนยากที่สุดและอันตรายที่สุดในโลกเลยนะ และจากการปีนเขาหิมะแบบนี้เอง ทำให้ต้องตัดข้อนิ้วทิ้งด้วยตัวเอง เพราะโดนหิมะกัดจนไม่มีความรู้สึกอะไรและเลือดไม่ไปเลี้ยงปลายข้อนิ้วนั้นแล้ว
สำหรับตัวเขาแล้ว การเดินทางมันเป็นชีวิตที่เลือกเอง เลือกที่จะได้เห็นโลกในมุมมองที่ต่างออกไปประสบการณ์ที่พบระหว่างการเดินทางทำให้พบกับมิตรภาพและเรื่องราวมากมาย แม้ว่าบางเส้นทางจะอันตรายแต่ถ้ามีการเตรียมความพร้อม มีการวางแผนการเดินทางก็จะช่วยให้การเดินทางสมบูรณ์แบบมากขึ้น ใครที่กำลังคิดอยากจะเดินทางท่องเที่ยวมี 3 เรื่องที่คุณต้องมี คือ เริ่มต้นคุณต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้เพียงพอ เรื่องที่สองต้องมีแรงบันดาลใจซึ่งสำคัญที่สุดมากกว่าการมีเงินเพื่อท่องเที่ยว เพราะถ้าคุณอยากท่องเที่ยว คุณจะเริ่มเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายมันเอง และเรื่องสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ คุณต้องมียานพาหนะที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ ตามที่คุณต้องการ แต่สำหรับผมต้องเป็น G-Class เท่านั้น” (เป็นผู้เขียนก็ต้องเลือกแบบนี้เหมือนกัน เหลือแต่เก็บเงินนี่แหละที่ยากที่สุด 555)
ในระหว่างการเดินทางบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยหินกรวด ทางลูกรัง และทางโคลน ไมค์จะคอยให้คำแนะนำผ่านทางวิทยุสื่อสารอยู่เสมอ แถมบางเส้นทางยังจอดรถเพื่อ Work Shop กับแบบถึงลูกถึงคนอีกด้วย เช่น สอนวิธีการขับแบบไต่เนินเขา, การลากจูงเมื่อรถติดหล่ม, การลุยน้ำลึก, การกะระยะของรถเมื่อต้องขับผ่านเส้นทางแคบ และการใช้ความเร็วบนทางแบบออฟโรด เป็นต้น ซึ่งการสอนโดยผู้ที่ผ่านเส้นทางต่างๆ มาแล้วทั่วโลก เป็นการสื่อสารที่ง่ายๆ แต่เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นี่แหละการถ่ายทอดโดยมืออาชีพที่เจ๋งสุดๆ
ระหว่างทางขับๆ อยู่ก็สงสัยว่าลุงไมค์แกจะขับรถปีนเนินขึ้นไปทำไม ชันขนาดนั้นยังไงก็ติด!
อ๋อ..ที่แท้จะทำให้ดูว่าถ้าติดแบบนี้แล้วจะแก้ปัญหายังไงนั่นเอง
งานนี้ต้องขุดๆๆ
แล้วเกี่ยวขอให้รถอีกคันช่วยดึง ทำให้ดูทีละขั้นตอน ง่ายๆ แต่ใช้งานได้จริง
ให้รถอีกคันออกแรงดึง และใช้การถอยช่วยอีกนิดหน่อยก็ออกมาได้แล้ว ง่ายใช่มั้ยล่ะ!
ผู้เขียนยิ่งคำถามตรงๆ ไปว่า “คิดยังไงกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์”
ไมค์ตอบแบบทันทีว่า “ลูกสาวทั้งสองคนคือหัวใจของผม และเขาเดินทางไปกับผมทุกแห่ง ถ้าจะเลือกรถที่แข็งแกร่งและปลอดภัยที่สุดให้กับลูกสาวที่ผมรักที่สุด ผมมั่นใจเมอร์เซเดส-เบนซ์” …เป็นไงล่ะ คำตอบแบบนี้ถึงเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้เมอร์เซเดส-เบนซ์มาถึง 17 ปี!
และนี่คือการเดินทางแบบพิเศษสุดๆ กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และนักสำรวจ นักผจญภัยมืออาชีพชื่อดังระดับโลก ที่ถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางในอีกแง่มุมหนึ่งให้กับพวกเราชาวไทยได้รู้จักกับตัวตนของเขามากขึ้น นี่คือชื่อที่ต้องจดจำ “ไมค์ ฮอร์น” นักเดินทางสุดแกร่งเช่นเดียวกับสมรรถนะของจอมลุยอย่าง The G-Class นั่นเอง.
ไมค์ ฮอร์น และลูกสาวทั้งสองคน เจสซิก้าและแอนนิก้า ที่ร่วมเดินทางด้วยกันไปตลอด
งานนี้ได้ เรย์ แมคโดนัล ไอคอนนักเดินทางมาร่วมทริปด้วย เป็นการจับคู่ที่เข้ากันจริงๆ
The G-Class บนเส้นทางธรรมชาติที่ดูเข้ากัน
เพราะโลกใบนี้คือการเรียนรู้ คือประสบการณ์ที่จะพบเจอเมื่อได้เริ่มต้นออกเดินทาง เป็นข้อคิดดีๆ จากไมค์ ฮอร์น
ติดตามการเดินทางของ “ไมค์ ฮอร์น” ได้ที่อินสตาแกรม mikehornexplorer และที่ mikehorngclass
เรื่อง/ภาพ: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th