เวิลด์พรีเมียร์: Mercedes-Benz New E-Class Estate
ความหรูหราที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น-พร้อมเปิดตัวรุ่น AMG 401 แรงม้า Mercedes-Benz ค่ายรถยนต์หรูยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี จัดงานเปิดตัว The New E-Class Estate รถสเตชั่นแวกอนที่มาพร้อมความหรูหรา และสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม ต่อยอดความสำเร็จจาก E-Class Saloon ในระหว่างการแข่งขันเทนนิส Mercedes Cup ที่วีสเซ่นฮอฟ เทนนิส คลับ เมืองสตุ๊ตการ์ท เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
หลังจาก New E-Class Saloon ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดีจนทำให้ยอดขายรวมต่อเดือนของ Mercedes สร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ในรุ่น Estate ที่มีความพรีเมียมในระดับเดียวกัน แต่เพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสาร และสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
ในการเปิดตัวช่วงแรก New E-Class Estate จะมีให้เลือกใช้งานในรุ่น E200 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ (184 แรงม้า), E220 d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ (194 แรงม้า) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และ E250 เครื่องยนต์เบนซินที่ถูกปรับให้มีความแรงเพิ่มเป็น 211 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร
จากนั้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 ค่ายรถยนต์ดาวสามแฉกเตรียมเพิ่มไลน์อัพในรุ่น E200 d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ (150 แรงม้า) ออกมาพร้อมกับ E350 d ที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ (258 แรงม้า) เช่นเดียวกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบในรุ่น E400 4MATIC ความแรงจะเพิ่มเป็น 333 แรงม้า และแรงบิด 480 นิวตัน-เมตร โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเกียร์อัตโนมัติใหม่ 9 สปีด 9G-Tronic
สำหรับผู้ชื่นชอบความแรง Mercedes-AMG E43 4MATIC Estate คาดว่าจะเปิดตัวได้ช่วงปลายปีนี้เช่นกัน โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0-litre V6 biturbo (401 แรงม้า), เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ที่ปรับลดอัตราทดเกียร์ให้สั้นที่สุด, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC All-wheel Drive, ชุดช่วงล่างสปอร์ต สามารถทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)
ในส่วนของการออกแบบภายในไม่แตกต่างจากรุ่น Saloon เท่าไรนัก โดย New E-Class Estate แสดงให้เห็นความหรูหราที่ร่วมสมัยด้วยการใช้วัสดุคุณภาพสูงพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สร้างความสบายในการใช้งานทั้งคนขับ และผู้โดยสาร
แนวทางการดีไซน์ใหม่ทำให้ห้องโดยสารของรุ่น Estate มีความกว้างขวางมากขึ้น เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระเป็น 670-1,820 ลิตร ถือว่ามากที่สุดในเซ็กเม้นต์นี้ เบาะนั่งแถวหลังปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อการใช้งาน สามารถพับแบบแยกส่วน 40:20:40 มีฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ 30 ลิตร หากปรับเบาะให้ชันขึ้นอีก 10 องศา แต่ยังรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่งเท่าเดิม โดยระบบช่วงล่างแบบถุงลมจะเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถกรณีที่บรรทุกสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก (รับน้ำหนักสูงสุด 2,100 กิโลกรัม) พร้อมออปชั่นเสริมให้เลือกติดตั้งระบบ Air Body Control
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในรุ่น Estate มาเต็มไม่แตกต่างจากรุ่น Saloon โดยไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ที่ระบบ Drive Pilot ที่จะเป็นก้าวต่อไปของ Mercedes ในการพัฒนาสู่รถไร้คนขับ โดยไม่เพียงช่วยรักษาตำแหน่งรถยนต์ของเราให้อยู่ในระยะที่เหมาะสมจากรถคันหน้าเท่านั้น แต่ระบบนี้ยังสามารถเร่งความเร็วตามรถคันหน้าไปจนสูงสุดที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นครั้งแรกอีกด้วย และระบบ Remote Parking Pilot ที่ถูกติดตั้งเป็นครั้งแรกเช่นกัน ช่วยให้นำรถเข้า-ออกจากโรงจอดรถหรือในลานจอดด้วยการบังคับผ่านแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยให้คนขับ และผู้โดยสารสามารถลงจากรถได้ก่อนหากพื้นที่จอดแคบเกินไป
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ภาพ: Media.daimler.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th