สตช. แก้กฎหมายจำกัดความเร็วบนทางด่วนจากเดิม 80-90 กม./ชม. เพิ่มเป็น 110 กม./ชม.
จากกฎหมายเดิม ในการบังคับใช้ ความเร็วบนทางด่วน ไม่เกิน 80-90 กม./ชม. ที่กำหนดขึ้นตั้งแต่ปี 2522 และยังเป็นปัญหาถกเถียงกันในปัจจุบัน ระหว่างผู้ใช้รถใช้ถนน และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตัวบทกฎหมายเองก็ดูไม่สอดคล้องกับลักษณะพฤติกรรมการใช้รถในปัจจุบัน โดยในเรื่องนี้ ทางพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการการศึกษา (รองผบช.ศ.) ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เผยความคืบหน้าในการแก้ไขกำหนดอัตราความเร็วรถในถนนระหว่างเมืองทางด่วนว่า
ล่าสุดทางคณะทำงานแก้ไขกฎหมายของ สตช. ได้เห็นชอบหลักการในอัตราความเร็วรถที่เสนอไปก่อนหน้านี้ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการปรับเพิ่มความเร็วของรถ ในเส้นทางระหว่างเมืองถนนมอเตอร์เวย์อยู่ที่ประมาณ 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเดิมสามารถวิ่งได้ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบนทางด่วนพิเศษทุกเส้นทาง อยู่ที่ 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเดิมวิ่งได้เพียง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (พื้นราบ) จากการพิจารณาพบว่า ไม่ควรจะเพิ่มอัตราความเร็วรถขึ้น แต่จะต้องพิจารณาลดอัตราความเร็วลดลงในบางจุด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุโดยรายละเอียด ว่าจะลดในจุดใดนั้น จะต้องมีการศึกษาความเหมาะสมและนำมาหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจะมีการประชุมคณะทำงานอีกครั้งเพื่อสรุปรายละเอียดก่อนจะเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เห็นชอบและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้พิจารณาตามขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมาย
โดยกฎหมายฉบับเดิมได้ถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่พ.ค.2522 หรือเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งระบุความเร็วรถในเขตเทศบาลสามารถวิ่งได้ไม่ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเส้นทางระหว่างเมือง และมอเตอร์เวย์วิ่งได้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ได้กำหนดความเร็วบนทางด่วนที่เกิดขึ้ันในกรุงเทพฯจึงต้องใช้ตามข้อกำหนดในเขตเทศบาลและระหว่างเมือง ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆเปลี่ยนไปเทคโนโลยีเปลี่ยนไป จำเป็นที่จะต้องมีการพิจารณาปรับความเร็วใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพถนน สภาพรถในปัจุบัน
ส่วนกรณีที่เกรงว่าหากมีการเพิ่มอัตราความเร็วแล้วอาจจะส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นนั้น ยืนยันว่าเมื่อมีการปรับแก้ไขกฎหมายแล้วตำรวจจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อควบคุมไม่ให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากอัตราความเร็วที่เสนอปรับแก้นั้นถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสมแล้วอย่างไรก็ตามขณะนี้อัตราความเร็วใหม่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเห็นชอบ ดังนั้นประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนยังจะต้องใช้ความเร็วรถในอัตราเดิมอยู่ ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
เรื่อง : สมโภชน์ นันทโรจน์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th