ตาพร่าเพราะไฟหน้ารถ อันตรายแค่ไหน ถ้าการมองเห็นของผู้ขับแย่ลง 10 วินาที
แสงแยงตาเป็นหนึ่งในตัวการสร้างปัญหาให้ผู้ขับ ทั้งแสงจากรถที่ขับสวนมา และแสงจากรถที่ตามมาด้านหลัง ซึ่งจากการศึกษาด้วยกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ขับทั่วไปพบว่าวิธีแก้ไขตาพร่าเพราะไฟหน้ารถ เมื่อถูกแสงแยงตา จะต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 10 วินาที การมองเห็นจึงจะกลับมาเหมือนเดิม และเวลาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น
จะอันตรายแค่ไหน ถ้าการมองเห็นของผู้ขับแย่ลง 10 วินาที ?
ถ้าใช้ความเร็ว 100 กม./ชม. 10 วินาที รถจะวิ่งได้ระยะทางควอเตอร์ไมล์หรือ 402 เมตร ไกลพอจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดแสงแยงตาได้ คือ การทำความสะอาดกระจกรถทุกบานเป็นประจำ ทั้งด้านนอกและด้านใน รวมทั้งกระจกโคมไฟหน้าและไฟท้าย เพราะโคมไฟที่สกปรกจะทำให้แสงสว่างลดลงถึง 75% เมื่อไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง ผู้ขับมัก (แก้ไข) ง่ายๆ ด้วยการเปิดไฟสูง ซึ่งเป็นการรบกวนสายตาผู้อื่น
เมื่อไฟหน้ารถที่วิ่งสวนมาแยงตาเพราะเปิดไฟสูง ลองกะพริบไฟสูงเตือน 2-3 ครั้ง เผื่อผู้ที่ขับสวนมาลืมลดไฟต่ำ ถ้ายังไม่ลดเป็นไฟต่ำก็ไม่ควรแก้เผ็ดด้วยการเปิดไฟสูงใส่ เพราะถนนจะอันตรายมากขึ้นเนื่องจากมีผู้ขับที่ตาพร่าเพิ่มขึ้นอีกคน
วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง คือ อย่าจ้องมองแสงไฟนั้นโดยตรง และอย่าพยายามมองหน้าผู้ขับที่สวนมา แต่ให้เบนสายตามาที่ริมถนนด้านซ้าย (รถพวงมาลัยขวา) จะหายจากอาการตาพร่าเร็วขึ้น พร้อมกับลดความเร็วลงหรือจอดชิดไหล่ทาง ไม่ต้องลงจากรถ และไม่ต้องจ้องไฟหน้าของรถที่กำลังจะแซงขึ้นไป
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้รับทิศทางของไฟหน้าไว้อย่างเหมาะสม ไม่ต่ำเกินไปกระทั่งมองไม่เห็นทางข้างหน้า และไม่สูงแยงตาผู้ขับคนอื่น ถ้ารถมีกระจกส่องหลังแบบ 2 ชั้น ให้ปรับไปที่มุมลดแสงสะท้อนเมื่อขับกลางคืน จะช่วยลดอาการตาพร่าได้มาก และไม่ควรเปิดไฟในรถขณะขับ เพราะแสงในห้องโดยสารที่สว่างจะสะท้อนกับกระจก ทำให้มองทางยากขึ้น ถ้าขับบนถนนที่ค่อนข้างมืด ควรหรี่ไฟส่องหน้าปัดให้เหลือความสว่างลง จะช่วยให้มองเห็นถนนด้านนอกได้ดีขึ้น
ที่สำคัญ หยุดขับเมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย เพราะความเหนื่อยล้ามีผลทำให้ความสามารถในการมองลดลง รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่ช้าลงด้วยเช่นกัน
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th