“แสบ Differ” กับปัจจัยที่ห้าอย่าง Mercedes Benz SLS AMG
ความรู้สึกที่ว่ารสนิยมในการเลือกรถยนต์สักคัน บ่งบอกถึงความใส่ใจของผู้ขับได้ในหลายๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ หรือการดีไซน์ในแต่ละรุ่น แต่ลงลึกไปถึงความคุ้มค่าการใช้งานด้วยเช่นกัน
วันนี้เรามีโอกาสมาพูดคุยกับผู้บริหารคนเก่ง ผู้เป็นเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังตลอดกาลของพัทยาอย่าง “Differ Pub” และธุรกิจร้านอาหารอีกมากมายในเครือดิฟเฟอร์กรุ๊ป “แสบ – พงษ์พันธุ์ ใสสว่างพันธุ์” เกี่ยวกับรถคันโปรดอย่าง Mercedes Benz SLS AMG ที่ถือเป็นปัจจัยที่ห้าในชีวิตที่ขาดไม่ได้ ที่สำคัญเป็นหนึ่งในไม่กี่คันที่มีอยู่ในประเทศไทย
Q. เริ่มชอบรถตั้งแต่เมื่อไหร่?
A. ย้อนไปสมัยที่ยังเป็นเด็ก อาจจะมีความผูกพันกับรถคันแรกๆ ของคุณพ่อ เพราะท่านค่อนข้างเป็นคนชอบรถพอสมควร เลยฝังใจมาแต่เด็กว่าสักวันถ้าเราโตขึ้นมาก็อยากจะมีรถดีๆ เจ๋งๆ ไว้ขับสักคันครับ
Q. รถคันแรกที่เป็นของตัวเองคือ?
A. Honda Accord 3.0 V6 เป็นรถคันแรกที่ผมเลือกใช้สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย จากวันนั้นจนวันนี้ผมก็เปลี่ยนรถมาเรื่อยๆ มีทั้งคันที่ยังอยู่ และขายไปแล้ว น่าจะราวๆ 7 – 8 คันได้ครับ
Q. คิดว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องใช้ซูปเปอร์คาร์ไหม?
A. จริงๆ ไม่เกี่ยวนะครับ ของพวกนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล ถ้ามีเขาไว้แล้วไม่รู้จักดูแลรักษา รถซูปเปอร์คาร์ก็ไม่ได้แตกต่างจากรถธรรมดาทั่วๆ ไป ต้องบอกว่า รถซูปเปอร์คาร์ เป็นรถที่ใครๆ ใฝ่ฝันว่าอยากจะได้ แต่พอวันหนึ่งเราได้มาไว้ในครอบครองแล้ว เราก็ต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาเขาด้วย เพราะซูปเปอร์คาร์ไม่ได้เหมาะกับการที่จะเอาไปใช้งานได้ในทุกๆ วัน แต่เป็นรถที่มีไว้ขับเล่น เพื่อความบันเทิงอารมณ์เราแค่นั้น ฉะนั้นการมีซูปเปอร์คาร์ไว้ในครอบครอง เราควรต้องมีวินัยในการดูแลรักษาเขานิดหนึ่ง
Q. ทำไมถึงต้องเป็น Mercedes Benz SLS AMG?
A. คันนี้ได้มาเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน ครั้งแรกตัดสินใจเลือกอยู่ระหว่าง SLS กับ Lamborghini ต้องยอมรับว่ากระแส Lamborghini เมื่อ 6 ปีก่อนเป็นที่นิยมมากในวงการ แต่สุดท้ายผมตัดสินใจเลือก SLS เพราะส่วนตัวผมคิดว่า SLS ไม่ใช่รถที่ตามกระแส ซึ่งคำว่าตามกระแสในมุมผมคือ มันไม่ใช่รถที่คนใช้เยอะ หรือรู้จักเยอะ รุ่นนี้บางคนอาจจะมองว่ามันคือรถเบนซ์คันหนึ่งที่ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรจากเบนซ์ทั่วๆ ไป แต่จริงๆ แล้ว ดีเทลของ SLS คันนี้ค่อนข้างเยอะมาก เพราะต้นกำเนิดของ SLS คันนี้ มาจาก 300 SL gullwing เมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว และมันก็มาผลิตเป็นโมเดลที่สองคือ SLS ตัวนี้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผลิตออกมากันบ่อยๆ มันก็ควรค่าแก่การซื้อมาใช้ครับ
Q. ใช้อะไรในการตัดสินใจเลือกรถสักคัน?
A. ถ้าในแง่รถซูปเปอร์คาร์ ยกตัวอย่างเช่น SLS คันนี้ ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่ามันเป็นรถที่มีจุดเด่นในเรื่องของประตูที่ไม่เหมือนใคร จะว่าไปในโลกนี้ก็ได้นะ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเสน่ห์มากๆ ซึ่งแตกต่างจากรถอื่นๆ แน่นอน และนี่แหละที่ดึงดูดให้ผมต้องมีไว้ในครอบครอง คันนี้ตอนแรกเป็นสีเทาควันบุหรี่ครับ ซึ่งเป็นสีที่ชอบอยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป การใช้งานไปสักระยะ เราก็เกิดความอยากแต่งเติม เลยเอาไปแร๊บเป็นสีเหลือง ตอนเลือกสีก็ทาบดูหลายเฉดอยู่เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าสีเหลืองนี้จะไบรท์ที่สุดสำหรับคันนี้ เพราะสีเดิมค่อนข้างทึมๆ หน่อย พอเปลี่ยนแล้วเหมือนคนละขั้วเลย คันนี้มีใส่ชุดท่อของ CAPRISTO ทั้งชุดเพิ่มเติม Header เป็นของ supersprint ปรับระดับเสียงเบาได้ ส่วนกล่อง ECU ก็เอาไปโมดิฟายนิดหน่อย เพื่อให้สอดคล้องกับท่อที่ติดตั้งไป
Q. รถในฝันคือ?
A. ถ้าเป็นฝันที่ไม่ไกลเกินไปมากนัก ส่วนตัวอายุก็เลขสี่เข้าไปแล้ว สำหรับซูปเปอร์คาร์ที่แรงมากๆ ระดับ 500-700 แรงม้าขึ้นไประดับนั้น อาจจะเป็นรถที่เอาไว้นานๆ ขับ แต่ส่วนรถในฝันที่อยากจะมี อยากได้เป็นรถที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันด้วย ผมมองเป็น Rolls Royce Dawn เพราะผมมองถึงเรื่องการใช้งานได้จริงเป็นอันดับแรกๆ ผมมองว่าเขาต้องเป็นรถที่นุ่มนวล และเงียบ เป็นรถสปอร์ตสองประตูที่ดูเป็นลักชัวรี่คาร์ ซึ่งต่างจาก SLS สิ้นเชิง SLS จะดูเป็นม้าพยศ เสียงดัง กระโชกโฮกฮาก แข็งกระด้าง
Q. รถที่ใช้ประจำ และใช้มากกว่า SLS
A. ในชีวิตประจำวันจริงๆ ผมใช้ S Class ทั้งใช้ไปต่างจังหวัดกับครอบครัว ไปทำงาน กับเพื่อนๆ เพราะอย่างช่วงหน้าฝน จะใช้ SLS จะลำบากหน่อย คันนั้นผมใช้เดือนละครั้งสองครั้ง แต่สำหรับ S Class W222 ตัวนี้ ต้องท้าวความว่าเมื่อก่อนผมใช้ W221 มาก่อน แล้วมาเปลี่ยนเป็นตัว W222 ทีหลัง พอมาเปลี่ยนก็เป็นจังหวะที่พอดีอีกเหมือนกันที่เป็นตัว facelift พอดี ซึ่งเราไปดูแล้วหน้าตาโอเค จึงตัดสินใจเลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวครับ
Q. เปรียบรถเป็นอะไรในชีวิต?
A. สมัยนี้รถเป็นปัจจัยที่รองจากปัจจัยสี่เลยก็ว่าได้ ถ้าจะให้ผมเปรียบว่ารถคืออะไร ผมว่ารถเป็นเหมือนนาฬิกา เพราะทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเดินทางไปไหนเราจะต้องใช้รถยนต์ และอย่างตัวผมเองก่อนออกจากบ้านจะลืมอะไรก็ลืมได้ แต่ผมไม่ลืมนาฬิกา เพราะมันเป็นเครื่องบ่งบอกเวลา บอกวินัย และนิสัยว่าเรามีความมั่นคงเที่ยงตรงกับสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวัน หรือในชีวิตครอบครัวครับ
Q. ให้ฝากถึงคนใช้รถใช้ถนน
A. ช่วงเวลาที่รถติดอยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ พึ่งพา ท่อยทีท่อยอาศัยกัน รถไม่ว่าจะราคาไม่กี่แสนไปจนราคาหลักสิบล้าน การขับรถมันบ่งบอกถึงนิสัยของผู้ขับขี่ ไม่ใช่ว่าคุณขับรถคันละยี่สิบสามสิบล้าน แล้วคุณจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนที่ขับรถคันละไม่กี่แสน ซึ่ง…**ถ้าคุณใช้รถคันละเป็นสิบล้าน แต่ขับด้วยความประมาทไร้สติ ไม่มองถึงส่วนรวม มันก็บ่งบอกว่าคุณไม่ได้มีดีไปกว่าคนที่เขาขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเขารักษาวินัยจราจรด้วยซ้ำ**
เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี
ภาพ : พิศวัส พงษ์พุฒิโสภณ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th