โชว์รูมเชฟหลอกขายรถปีเก่า!! เทียบให้ชัด Chevrolet Captiva ปี 2014 กับ 2018 ต่างกันขนาดไหน
จากกรณีที่เป็นข่าวดังที่มีผู้หญิงท่านหนึ่งได้ขอเช่าซื้อรถยนต์ Chevrolet Captiva ป้ายแดง ใหม่รุ่นปี ค.ศ. 2018 จากผู้แทนจำหน่ายศูนย์กาฬสินธุ์ ในราคา 1,595,000 บาท แต่ตอนรับรถกลับได้กุญแจเพียงดอกเดียว และพบว่าไมล์ระยะทางวิ่งมาแล้ว 900 กิโลเมตร พนักงานขายตอบว่า เนื่องจากรถคันนี้ขับมาจากกรุงเทพฯ ถึงกาฬสินธุ์ แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่ารถใหม่ป้ายแดงคันที่เช่าซื้อลมยางรั่ว ตรวจสอบยางทั้ง 4 เส้นเป็นยางที่ผลิตปี ค.ศ. 2014 อีกทั้ง และหลังจากได้รับเอกสารชุดจดทะเบียนรถ ระบุว่าเป็นรถรุ่นปี ค.ศ. 2014 ทำให้รู้สึกช้ำใจเป็นอย่างมากแถมอัพเดทเฟริ์มแวร์ไม่ได้เพราะเป็นเวอร์ชั่นเก่าปี2014 ยิ่งย้ำชัดว่าโดนทางศูนย์บริการหลอกขายรถปีเก่า ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีกันอยู่
หลายท่านสงสัยเหมือนผมหรือไม่ว่าไอ้เจ้า Chevrolet Captiva ปี2014 กับ ปี2018 นี่มันต่างกันขนาดไหนและมันสามารถนำมาเปลี่ยนโฉมเองได้หรือไม่ถ้าเปลี่ยนแล้วเราจะดูออกมั้ยเราจับมาเทียบกับเลยดีกว่าจะได้เห็นชัดๆ
เริ่มจากภายนอกกันก่อนเลยครับเจ้า Chevrolet Captiva ปี2018 ที่คุณผู้หญิงที่เป็นข่าวอยากได้ กระจังหน้าจะเป็นทรงสปอร์ตเป็นเส้นแนวนอนพร้อมวัสดุตกแต่งแบบโครเมี่ยมที่ช่วยให้มีความหรูหราขึ้นอย่างเต็มที่ ส่วนตัวรุ่นปี 2014 กระจังหน้าจะเป็นแบบรังผึ้งตัดด้วยเส้นโครเมี่ยม ไฟหน้าของรุ่นปี 2018 จะติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในกลางวันแบบ LED รวมถึงไฟเลี้ยวอยู่ภายในโคมไฟดวงเดียวกัน
ในขณะที่รุ่นปี2014 จะเป็นไฟหน้าแบบไฟหน้าโปรเจคเตอร์ไม่มีไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในกลางวันแบบ LED กันชนหน้าตัวปี2018ก็ดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายก็ไม่เหมือนกันนะครับ เพราะตัวปี 2018 เป็นดีไซน์ใหม่แถมเป็น LED แล้วด้วย ไฟตัดหมดกก็มีการดีไซน์ใหม่ และล้อแม็กถึงแม้ขนาดจะเท่ากัน และลวดลายแตกต่างกันชัดเจน ท่อไอเสียคู่ดีไซน์ใหม่ในตัวปี2018
Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการตกแต่งภายใน ดีไซน์แผงคอนโซลหน้าพร้อมหน้าปัดสีดำ Jet Black เพิ่มความโดดเด่นด้วยเบาะนั่งและแผงประตูแบบหนังสีดำ โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับระดับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้ารวมถึงก้านปรับหมุนบริเวณสะโพกเฉพาะที่นั่งคนขับ พร้อมไฟส่องสว่างรอบห้องโดยสารแบบ Ambient Light ที่ได้รับการติดตั้งไว้ทั้งในตอนหน้า ตอนกลางรวมถึงตอนหลัง ให้ความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกหน้าต่างแบบไฟฟ้า และ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติแบบ Electrochromic ส่วน Chevrolet Captiva 2014 จะตกแต่งด้วยวัสดุหนังสี Light Gray อีกจุดที่ชัดเจนคือพวงมาลัยที่มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่
เครื่องยนต์แหมือนกันครับผมคือ เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Drive Shift Control นอกจากนี้แล้ว ที่ต่างคือ Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการติดตั้งระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงลมยางแบบ Tire Pressure Measuring System ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงสถานะของลมยางได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วงล่างเหมือนกัน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-Link 4 จุด อีกทั้งยังเพิ่มความสมดุลในขณะที่ทำการขับขี่ด้วยระบบ Self-Levelizer ที่ได้รับการออกแบบให้โช็คอัพด้านหลังปรับระดับยกตัวได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อรักษาความสูงของตัวรถด้านหน้า และ หลังให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลกัน
Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่มากมายโดยเฉพาะระบบช่วยเตือนการจราจรด้านหลังขณะถอยรถแบบ Rear Cross Traffic Alert ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติผ่านระบบเรดาร์ และ เซ็นเซอร์ เมื่อมีการเข้าเกียร์ถอยหลัง สามารถจับการเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่วิ่งผ่านมาทางด้านหลังและส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอ Chevrolet MyLink เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นไถลแบบ TCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นไถลแบบ TCS เสริมด้วยการติดตั้งระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาแบบ Side Blind Zone Alert ทำงานผ่านระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับด้านข้างของตัวรถในทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะทำงานอย่างอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ไฟจะกระพริบแจ้งเตือนที่กระจกมองข้างช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถยนต์คันอื่นวิ่งมาจากจุดอับสายตา อีกทั้งยังปกป้องผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยม่านถุงลมนิรภัยแบบ Curtain Airbag และ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กนิรภัยด้านข้างที่ช่วยปกป้องผู้ขับขี่จากแรงกระแทกรอบคัน นอกจากนี้แล้ว Chevrolet Captiva 2018 ยังได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ กุญแจรีโมทคอนโทรลพร้อมระบบนิรภัยแบบ Imobilizer ระบบเบรกมือแบบ ABS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นไถลแบบ TCS ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบ ESC ระบบเสริมแรงเบรคแบบไฮดรอลิก HDC ระบบป้องกันการถอยหลังเมื่อขึ้นทางลาดชันแบบ HSA และ กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด ซึ่งรุ่นปี 2014 จะมีแค่ ทั้งระบบเบรก ABS, EBD, HBA ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อลื่นไถล TCS, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARP, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HSA เท่านั้น
นี้เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆเพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างของ Chevrolet Captiva ปี 2014 กับ 2018 ถ้าคุณโชคร้ายไปพบเจอกับโขว์รูมแย่ๆแบบที่เป็นข่าวคุณก็อาจจะตกเป็นเยื่อแบบคุณผู้หญิงที่เป็นข่าวก็ได้ เพราะถ้าคุณรีบร้อนดูรถไม่ละเอียดถี่ถ้วน เช็คข้อมูลรถให้ดีว่ารุ่นนี้ปีนี้มีอะไรหน้าตาแบบไหน ก็ที่จะเซ็นรับรถมาแค่นี้คุณก็จะไม่ต้องปวดหัว เสียเวลา เสียความรู้สึกแล้ว
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th