โตโยต้า ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนอาทิตย์อุทัย คอนเฟิร์มโรงงานผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฮบริดใหม่ที่ประเทศไทย จะเริ่มดำเนินงานภายในกลางปี 2562 ตั้งเป้าผลิตไว้ที่ 70,000 คันต่อปี แต่ยังแสดงท่าทีลังเลในการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะขอเวลาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง  

ระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่โตโยต้า คัมรี่ เมื่อวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในรถยนต์ไฮบริด ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะเริ่มต้นการผลิตในช่วงกลางปี 2562

“หลังจากโตโยต้า ได้แนะนำระบบเครื่องยนต์ไฮบริดในรุ่นซี-เอชอาร์ และในวันนี้กับการเปิดตัวคัมรี่ ไฮบริด ในช่วงกลางปีหน้าโตโยต้า จะเริ่มประกอบแบตเตอรี่ไฮบริดที่โรงงานเกตเวย์ สำหรับรถไฮบริดที่ผลิตขายในประเทศไทย” ฉัตรชัย ทวีสกุลวัชระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน “โดยจะเป็นแบตเตอรี่ไฮบริดที่ผลิตจากนิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ เนื่องจากเราเชื่อว่านิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย ที่มีสภาพอากาศร้อน โดยแบตเตอรี่ไฮบริดนิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ จะมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวมากกว่า”

ด้วยสาเหตุนี้ทำให้โตโยต้า ยังไม่มีแผนการผลิตแบตเตอรี่ไฮบริดลิเธียมไออนที่โรงงานในประเทศไทยตอนนี้ โดยฉัตรชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า “โตโยต้า มีนโยบายส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม โดยแบตเตอรี่ที่ผลิตจากนิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ ซึ่งนำมาติดตั้งในรถยนต์โตโยต้าสามารถนำกลับมารีไซเคิ่ลได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นอีกเหตุผลหลัก และขณะนี้เรากำลังมุ่งไปกับการผลิตแบตเตอรี่ไฮบริดนิเกิ้ลเมทัลไฮไดรด์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยโรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิตที่ 70,000 คันต่อปี เป็นไปตามเอกสารที่โตโยต้านำเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน”“การผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย ระยะแรกจะเซลล์แบตเตอรี่จะนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อประกอบในส่วนของอัพเพอร์ คัฟเวอร์ และโลเวอร์ คัฟเวอร์ การเริ่มต้นผลิตในประเทศไทยจะไม่ได้เป็นการประกอบระบบไฮบริดทั้งลูก หากตลาดรถยนต์ไฮบริดขยายตัวเป็นไปตามที่ทางบริษัทคาดการณ์ ในอนาคตจะก้าวสู่การผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศ โดยอาจจะเริ่มต้นที่ 9-10 ชิ้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าตลาดตอบสนองกับรถยนต์ไฮบริดอย่างไร เราพร้อมจะเพิ่มชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศ ตามข้อมูลที่ทางโตโยต้า แจ้งกับภาครัฐหากต้องการผลิตแบตเตอรี่ไฮบริดในประเทศไทยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะต้องมียอดขายรถยนต์ไฮบริดราว 100,000 คันต่อปี” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว

นอกจากนี้ฉัตรชัย ตอบคำถามถึงโอกาสที่จะยื่นขอสนับสนุนการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย หลังจากบีโอไอ ขีดเส้นตายให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่สนใจยื่นเอกสารได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 “ตอนนี้ทางโตโยต้า กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนผลิตรถยนต์ประเภทปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ทางผู้บริหารโตโยต้า ทราบดีถึงเงื่อนไขเวลาที่จะต้องยื่นเอกสารต่อบีโอไอ ภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นเราจะให้คำตอบในเรื่องนี้ก่อนจะถึงเวลาที่ทางภาครัฐกำหนดอย่างแน่นอน”

มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย

ขณะเดียวกันมิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมตอบคำถามถึงโอกาสที่จะยื่นขอสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย “ทางรัฐบาลไทยมีนโยบายอย่างชัดเจนที่จะสนับสนุนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยเชื่อว่ามี 2 เหตุผลหลักคือการลดปริมาณการคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกสู่บรรยากาศ และส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น”

“โตโยต้า ในฐานะผู้ริเริ่ม และบุกเบิกรถยนต์ไฮบริดได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นปลั๊ก-อิน ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้า โตโยต้ามุ่งหวังที่จะมีโอกาสตอบสนองนโยบายของภาครัฐต่อไปในอนาคต แต่เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีแค่ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น อย่างที่ทุกท่านทราบดีว่าโตโยต้า มีการนำเสนอเทคโนโลยีฟิวเซลล์ (Fuel Cell Vehicle-FCV) ด้วยการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เพื่อผลิตไฟฟ้าหมุนมอเตอร์ เราจะใช้เทคโนโลยีตัวไหนต่อไปต้องพิจารณาสถานการณ์ด้านพลังงาน และนโยบายด้านพลังงานของประเทศนั้นๆ ประกอบด้วย”

ก่อนจบงานแถลงข่าวซึงาตะ ทิ้งท้ายถึงความเป็นไปได้ที่จะตั้งฐานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยแบบสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “อยากจะยื่น” เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะตัดสินใจอย่างเป็นทางการก่อนกำหนดเส้นตายของบีโอไอ ในวันสิ้นปี 2561 ท่ามกลางเสียงตบมือของสื่อมวลชนชาวไทย

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th